แม่ท้องรู้ไหม ประโยชน์ของแมกนีเซียม มีเยอะแยะมากมาย แมกนีเซียม เป็นสารอาหารที่ดีต่อคนท้อง นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการด้านสุขภาพต่าง ๆ ของคุณแม่แล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ได้อีกด้วย มาดูกันว่า ประโยชน์ของแมกนีเซียม มีอะไรบ้าง คุณแม่ควรทานปริมาณเท่าไหร่ในแต่ละวัน
แมกนีเซียมคืออะไร
แมกนีเซียม หรือ Magnesium คือ แร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่มีความสำคัญต่อกระดูกของคนเรา ส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะได้รับแมกนีเซียมจากอาหารที่รับประทานเข้าไป แต่ในบางครั้ง ก็ต้องทานอาหารเสริมเพิ่มเติม หากเรามีระดับแมกนีเซียมในร่างกายต่ำเกินไป อาจทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกพรุน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ (ที่เกิดจากพันธุกรรม) โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
ทำไมร่างกายของคนท้องถึงต้องการแมกนีเซียม
แมกนีเซียม ถือเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายคนเราต้องการ แม้ร่างกายของเราจะไม่สามารถผลิตขึ้นมาเองได้ แต่เราสามารถรับประทานแมกนีเซียมจากอาหารได้ สำหรับคนท้องนั้น การทานแมกนีเซียมจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน รวมถึงช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลและอัตราการเต้นของหัวใจให้คงที่
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ อาจตกอยู่ในสภาวะแมกนีเซียมต่ำได้เช่นกัน โดยมีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร หรืออาจจะมาจากผลกระทบของอาการแพ้ท้อง อาทิ อาการคลื่นไส้ อาเจียน และจมูกไวต่อกลิ่นจนไม่อยากทานอาหาร ซึ่งอาการของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ขาดแมกนีเซียม มีดังต่อไปนี้
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- เมื่อยล้า
- นอนไม่หลับ
- กล้ามเนื้อกระตุก
- ความจำไม่ดี
- หัวใจเต้นผิดปกติ
- อ่อนเพลีย
บทความที่เกี่ยวข้อง : : อาการนอนไม่หลับของคนท้อง เกิดจากอะไร แก้ไขปัญหาได้ด้วยเทคนิคเหล่านี้
วิดีโอจาก : ADDLIFE Doctors
คนท้องและคนให้นมลูก ควรกินแมกนีเซียมเท่าไหร่
เนื่องจากแมกนีเซียม มีความจำเป็นต่อคนท้อง เรามาดูกันดีกว่า ว่าร่างกายของคุณแม่แต่ละช่วงอายุนั้น ควรได้รับแมกนีเซียมเท่าไหร่ เพื่อให้เพียงพอสำหรับตนเองและทารกในครรภ์
- คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี : ต้องการแมกนีเซียม 400 มิลลิกรัมต่อวัน
- คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุ 19-30 ปี : ต้องการแมกนีเซียม 350 มิลลิกรัมต่อวัน
- คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุ 31 ปีขึ้นไป : ต้องการแมกนีเซียม 360 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงให้นมบุตรที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี : ต้องการแมกนีเซียม 360 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงให้นมบุตรที่มีอายุ 19-30 ปี : ต้องการแมกนีเซียม 310 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้หญิงให้นมบุตรที่มีอายุ 31 ปีขึ้นไป : ต้องการแมกนีเซียม 320 มิลลิกรัมต่อวัน
ประโยชน์ของแมกนีเซียม มีอะไรบ้าง
นอกจากแมกนีเซียมจะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของคุณแม่แล้ว ก็ยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ขณะตั้งครรภ์ ดังต่อไปนี้
แมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญ ในการป้องกันไม่ให้กระดูกและฟันได้รับความเสียหาย และช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ซึ่งหากคุณแม่ทานแมกนีเซียมน้อยเกินไป หรือหากร่างกายขาดแมกนีเซียม ก็อาจทำให้มีปัญหาหรือเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกได้หลังจากการคลอดบุตร
แมกนีเซียมสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้ ซึ่งอาการคลื่นไส้นั้น ถือเป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อยที่สุดระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งการรับประทานแมกนีเซียม จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้มากยิ่งขึ้น
แมกนีเซียมช่วยลดความถี่ และความรุนแรงของตะคริวที่ขาคนท้องได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว คนท้องมักจะต้องพบเจอกับปัญหานี้บ่อย ๆ ทำให้ไม่สามารถเดินได้สะดวก และเจ็บปวดทรมานอย่างมาก ซึ่งตะคริวที่ขาของคนท้องนั้น เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อขาอย่างเฉียบพลันนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 วิธีแก้แพ้ท้อง ตอนเช้า ตื่นมาแล้ว คลื่นไส้ตอนเช้า รับมืออย่างไร อะไรช่วยได้บ้าง
แมกนีเซียมช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนที่เกิดจากการตั้งครรภ์ได้ โดยจะช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดในสมอง และป้องกันการสะสมของกรดแล็กติก ที่อาจทำให้เกิดความตึงเครียด และเกิดอาการปวดไมเกรนได้
การได้รับปริมาณแมกนีเซียมที่เพียงพอในแต่ละวันนั้น จะทำให้คุณแม่หลับได้อย่างเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งการนอนหลับพักผ่อน ถือเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในช่วงตั้งครรภ์
ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่อาจรู้สึกเครียดได้โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งแมกนีเซียมมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยรักษาเสถียรภาพทางอารมณ์ของคุณแม่ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่หงุดหงิดง่าย ไม่อารมณ์แปรปรวน
คุณแม่หลายคน มีอาการท้องผูกในช่วงที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากทารกตัวโตขึ้นเรื่อย ๆ จนไปเบียดและกดทับลำไส้ของคุณแม่ ซึ่งแมกนีเซียม จะช่วยทำให้คุณแม่มีระบบขับถ่ายที่ดียิ่งขึ้น
แมกนีเซียม ดีต่อทารกในครรภ์อย่างไร
จากการศึกษาพบว่า แมกนีเซียมนั้น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ และการไหลเวียนโลหิตของทารกในครรภ์ นอกจากนี้ แมกนีเซียมยังช่วยให้ทารกแรกเกิดนอนหลับได้อย่างสบาย รวมทั้งยังช่วยไม่ให้ทารกมีภาวะสมองพิการได้อีกด้วย
อาหารที่มีแมกนีเซียมสูง มีอะไรบ้าง
แมกนีเซียม มีในอาหารประเภทผักใบเขียว เนื้อปลา เมล็ดธัญพืช และถั่วบางชนิด โดยคุณแม่สามารถเลือกรับประทานอาหารได้ตามตารางต่อไปนี้ เพื่อให้ได้รับปริมาณแมกนีเซียมที่แนะนำต่อวัน
|
ชื่ออาหาร |
ปริมาณแมกนีเซียมที่จะได้รับ (มิลลิกรัม) |
ซีเรียลรำข้าวสาลี ครึ่งถ้วย |
112 |
ซีเรียลข้าวโอ๊ตผสมรำข้าวสาลี ครึ่งถ้วย |
96 |
ข้าวกล้อง 1 ถ้วย |
86 |
ปลาแมกเคอเรล ปรุงสุก 3 ออนซ์ |
82 |
ผักโขมสับละเอียด ปรุงสุก ครึ่งถ้วย |
78 |
อัลมอนด์ 1 ออนซ์ |
77 |
ถั่วลิมา ปรุงสุก ครึ่งถ้วย |
63 |
ถั่วลิสง 1 ออนซ์ |
48 |
กากน้ำตาลดำ 1 ช้อนโต๊ะ |
48 |
เฮเซลนัต 1 ออนซ์ |
46 |
กระเจี๊ยบแช่แข็ง ปรุงสุก ครึ่งถ้วย |
37 |
นมไขมันต่ำ 8 ออนซ์ |
34 |
กล้วยขนาดกลาง 1 ลูก |
32 |
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถทานอาหารเสริมแมกนีเซียมได้ไหม
การทานอาหารเสริมอื่น ๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์ อาจไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมสักเท่าไหร่ เว้นแต่แพทย์ที่ดูแลคุณแม่จะเป็นคนสั่งจ่ายยาดังกล่าวเอง คุณแม่สามารถทานอาหารต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับแมกนีเซียมที่เพียงพอต่อวัน โดยสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่มีแมกนีเซียมเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> อาหารชนิดไหน มีแมกนีเซียมบ้าง
ผลข้างเคียงของแมกนีเซียมต่อหญิงตั้งครรภ์
แร่ธาตุชนิดนี้ อาจไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคหัวใจ หรือผู้ใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด และหากรับประทานแมกนีเซียมมากเกินไป ก็อาจทำให้มีอาการต่อไปนี้
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ท้องเสีย
- ร่างกายขาดน้ำ
- เซื่องซึม
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ความดันโลหิตต่ำ
- หายใจลำบาก
- หัวใจหยุดเต้น
ประโยชน์ของแมกนีเซียมนั้นมีมากมาย ซึ่งคุณแม่เองก็หาทานได้จากอาหารหลากหลายชนิด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากต้องการทานอาหารเสริมแมกนีเซียม ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ธาตุทองแดง หรือ Copper มีสรรพคุณและประโยชน์อย่างไรบ้าง
โฟลิกในอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
อาหารคนท้อง ไตรมาส 2 ท้องไตรมาสสอง สารอาหารอะไรที่ให้ร่างกายแข็งแรง
ที่มา : babycenter, 8sheep, healthline, wildish, Mom Junction
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!