หลังผ่าตัด การรักษาภายหลังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการหายของแผลผ่าตัดได้ ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด สำหรับแม่ผ่าคลอด ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และส่งเสริมการฟื้นตัว ดังนั้นวันนี้จึงได้รวบรวม อาหารแสลง แม่ผ่าคลอดควรรู้ หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร ที่จะช่วยทำให้แผลผ่าคลอดหายเร็ว ลดอาการท้องอืด ท้องผูก และป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ หลังผ่าคลอด
ทำไมการเลือกรับประทานอาหารหลังการผ่าตัดคลอดจึงสำคัญ
การเลือกรับประทานอาหารหลังการผ่าตัดคลอดมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลต่อกระบวนการฟื้นตัวของแม่หลังจากการผ่าตัดและมีผลต่อการดูแลเด็กทารกที่กำลังเจริญเติบโตด้วย นอกจากนี้การผ่าคลอดเป็นกระบวนการที่ทำให้ร่างกายของแม่หลายท่านพบกับความเครียดและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน ซึ่งทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานเป็นอย่างมาก รวมถึงการผ่าตัดยังส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารของแม่ เนื่องจากการให้ยาและกระบวนการผ่าตัดอาจทำให้ระบบย่อยอาหารของแม่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นคุณแม่ผ่าคลอดจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมากที่ต้องเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และไม่ส่งผลเสียทั้งต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยของคุณด้วย
อาหารที่ดีต่อคุณแม่ผ่าคลอด
|
ประเภทอาหาร |
ตัวอย่าง |
สารอาหาร |
ประโยชน์ |
โปรตีน |
ไข่ไก่ อกไก่ ปลาแซลมอน เต้าหู้ ถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน |
กรดอะมิโนจำเป็น ช่วยซ่อมแซมร่างกาย บำรุงกล้ามเนื้อ |
ช่วยให้แผลหายเร็ว เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
|
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน |
ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต มันเทศ ผลไม้จำพวกกล้วย อะโวคาโด |
พลังงานใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ |
ช่วยให้อิ่มท้องนาน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่งเสริมระบบขับถ่าย
|
ไขมันดี |
ปลาแซลมอน อะโวคาโด น้ำมันมะกอก ถั่วต่างๆ |
กรดไขมันโอเมก้า 3 ใยอาหาร วิตามินอี |
บำรุงสมองและหัวใจ ลดการอักเสบ ส่งเสริมพัฒนาการของทารกในนมแม่
|
วิตามินและเกลือแร่ |
ผักใบเขียว ผลไม้หลากสี นม โยเกิร์ต |
วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก |
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา กระดูก และฟัน ป้องกันภาวะโลหิตจาง
|
น้ำ |
น้ำเปล่า น้ำซุป น้ำมะพร้าว |
น้ำ |
ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ ส่งเสริมการขับถ่าย
|
บทความที่น่าสนใจ: แม่ผ่าคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ผลไม้ชนิดไหนช่วยฟื้นฟูร่างกาย?
6 อาหารแสลงสำหรับแม่ผ่าคลอด หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร
เมื่อพูดถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังผ่าตัด รวมถึงอาหารที่มีแสลง คุณแม่ผ่าคลอดควรที่จะแน่ใจว่าอาหารเหล่านั้นปลอดภัย เพื่อป้องกันการเป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่อ่อนแอในช่วงหลังผ่าตัด โดยอาหารที่แม่ผ่าคลอดไม่ควรรับประทานมีดังต่อไปนี้
หลังผ่าคลอด โดยส่วนใหญ่แล้วคุณแม่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าให้รับประทานอาหารอ่อน หรืออาหารที่รสชาติไม่จัดจนเกินไป โดยเพราะอาหารที่มีรสเผ็ด ไม่ว่าคุณจะอยากกินอาหารเผ็ดแค่ไหนก็ควรหลีกเลี่ยงหลังจากผ่าคลอด เพราะอาหารเผ็ดอาจทำให้มีอาการท้องอืดและปัญหาทางเดินอาหาร รวมถึงอาจทำให้บริเวณแผลผ่าคลอดเกิดการแสบร้อน หรืออักเสบได้ นอกจากนี้ เนื่องจากคุณแม่ผ่าคลอดต้องให้นมลูกหลังคลอด อาหารที่มีความเผ็ดจะปะปนอยู่ในน้ำนมของคุณแม่ด้วย ซึ่งอาจทำให้ทารกไม่ชอบรสชาติของนมและไม่อยากกินนมแม่ได้ ดังนั้นควรรอให้แผลหายก่อนที่จะเริ่มรับประทานอาหารเผ็ดในเมนูอาหารหลังผ่าตัดท้อง
-
น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มที่มีโซดา
เครื่องดื่มที่มีโซดา หรือน้ำอัดลมมีน้ำตาล รสชาติสังเคราะห์ และสารกันบูดสูง ทำให้เป็นทางเลือกที่ไม่ดีสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่คุณแม่ผ่าคลอดเท่านั้น นอกจากนี้เครื่องดื่มที่มีโซดา หรือน้ำอัดลมยังเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยขับปัสสาวะด้วย ดังนั้นจึงส่งผลให้จะต้องเข้าห้องน้ำเป็นบ่อยครั้ง รวมถึงอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ แทนที่จะให้เพิ่มน้ำให้แก่ร่างกาย หากคุณแม่ผ่าคลอดเกิดภาวะขาดน้ำอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง อาทิ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ท้องผูก และท้องอืด รวมถึงการขาดน้ำยังส่งผลเสียต่อการผลิตน้ำนมแม่ นอกจากเครื่องดื่มที่มีโซดา หรือน้ำอัดลมแล้ว คุณแม่หลังคลอดควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชาและกาแฟ เพราะทารกแรกเกิดไม่สามารถประมวลผลคาเฟอีนได้ เนื่องจากระบบย่อยอาหารยังเจริญเติบโตเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและระคายเคืองได้เช่นกัน
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคขนุนในช่วงสัปดาห์แรก ๆ หลังการผ่าตัดคลอด เพราะการรับประทานขนุนอาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหาร เช่น แสบร้อนกลางอกและท้องไส้ปั่นป่วน ซึ่งอาจทำให้ความรู้สึกไม่สบาย และอาจเกิดอาการเจ็บฝีเย็บ หรือบริเวณผ่าคลอดมากขึ้นรุนแรงขึ้น งานวิจัยหนึ่งแนะนำว่าขนุนอาจทำให้เกิดความเป็นกรดหลังคลอด หากคุณให้นมบุตรมีการบริโภคขนุนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการจุกเสียดในทารกแรกเกิด ดังนั้นจึงแนะนำให้งดเว้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งหลังผ่าตัดคลอดบุตร
-
ผักบางชนิดที่ทำให้ท้องอืด
ผักบางชนิดถูกแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยง ถึงแม้ว่าผักจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่ก็ตาม แต่ผักบางชนิดไม่ได้ดีสำหรับคุณแม่ผ่าคลอดเสมอไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผักที่ที่มีก๊าซสูง เช่น ถั่วชิกพี ผักในตระกูลกะหล่ำ บร็อคโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น เพราะแม้ว่าผักจะมีคุณค่าทางโภชนาการและถูกแนะนำให้รับประทานเพื่อที่จะช่วยทำให้แผลผ่าตัดหายไวขึ้น หรือการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการผ่าตัดคลอด แต่คุณแม่บางคนอาจมีอาการท้องอืดหลังจากรับประทาน ดังนั้นคำแนะนำจากแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข จึงแนะนำให้คุณแม่หลังผ่าคลอดรับประทานผักที่ช่วยส่งเสริมในหารเพิ่มปริมาณน้ำนม อาทิ หัวปลี ขิง ใบกระเพรา ฟักทอง และกุ้ยช่าย เป็นต้น
การผ่าคลอดเป็นช่วงเวลาที่แม่และทารกแรกเกิดต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในเรื่องของอาหารการกินและสุขอนามัย เพราะร่างกายของแม่หลังจากการผ่าคลอดมีความอ่อนแอและแข็งแรงเหมือนกับตอนก่อนตั้งครรภ์ ดังนั้นการบริโภคอาหารที่สะอาดและปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะอาหารที่ไม่สะอาดหรือไม่ถูกปรุงอย่างสุขอนามัยอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย เช่น อาหารหมักดอง ซึ่งมีความเสี่ยงในการมีเชื้อแบคทีเรียหรือสารพิษจากการหมักอาหารที่ไม่ถูกทำความสะอาด หรือไม่ถูกหลักอนามัย ดังนั้น การเลือกบริโภคอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยหลังการผ่าคลอดเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้แม่และทารกได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดูแลสุขภาพอาหารในหลังผ่าคลอด
ในช่วงหลังผ่าคลอด ร่างกายของคุณแม่กำลังฟื้นฟูจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจึงสำคัญเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่ผ่านการผ่าตัดคลอด ดังนั้นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดในช่วงหลังผ่าคลอดคืออาหารดิบ หรืออาหารที่ปรุงไม่สุก เช่น ซูชิ สเต๊กเนื้อดิบ หรือไข่แดงดิบ ที่ล้วนแต่จะผลเสียและเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณแม่ผ่าคลอดดังนี้
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อ อาหารดิบอาจปนเปื้อนแบคทีเรียและปรสิตที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณแม่ ส่งผลให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
- ระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ในช่วงหลังคลอด ระบบย่อยอาหารของคุณแม่ยังไม่แข็งแรงเท่าปกติ การทานอาหารดิบ ย่อยยาก อาจทำให้อาหารไม่ย่อย ท้องเสีย ท้องอืด ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
- ส่งผลต่อแผลผ่าตัด สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอด การทานอาหารดิบอาจทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ส่งผลต่อน้ำนม สารอาหารบางชนิดในอาหารดิบ อาจส่งผลต่อทารกผ่านน้ำนม
ดังนั้นหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่เหมาะสมกับคุณแม่ผ่าคลอด ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อวางแผนการทานอาหารที่ถูกต้อง ปลอดภัย และส่งเสริมสุขภาพที่ดีทั้งคุณแม่และลูกน้อย
ที่มา: vinmec.com, carehospitals.com, thaihealth.or.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
15 คำถามที่พบบ่อยเรื่องผ่าคลอด เรื่องน่ารู้ก่อนเป็นคุณแม่
ผ่าคลอดครั้งที่ 3 อันตรายไหม ผ่าคลอดได้ไม่เกินกี่ครั้ง
แม่ผ่าคลอด คุณพร้อมไหม? เตรียมให้พร้อม ทั้งเรื่อง “สมองไว” และ “ภูมิคุ้มกันแข็งแรง”
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!