ภูมิแพ้อากาศ โรคภูมิแพ้อากาศเป็นอย่างไร หลาย ๆ คนคงสงสัยใช่ไหมว่า ภูมิแพ้อากาศมีอาการเป็นอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง แล้วมีวิธีป้องกันการเป็นภูมิแพ้อากาศ หรือไม่
โรคภูมิแพ้อากาศ คืออะไร โรคภูมิแพ้อากาศมีอาการอย่างไร แล้วมีวิธีรักษาอย่างไร
ภูมิแพ้อากาศ คืออะไร
อาการภูมิแพ้อากาศ หรือจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) คือ การอักเสบของเนื้อเยื้อจมูกเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่ายกานนั้น มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น รังแคสัตว์ ขนสัตว์ หรือควันบุรี่ เป็นต้น ซึ่งมักจะทำให้ผู้ป่วยนั้นมีอาการจาม คัดจมูก คันจมูก มีน้ำมูกไหล และมีอาการเจ็บคอนั้นเอง
ขอขอบคุณวีดีโอจาก : youtube.com , Mahidol Channel มหิดล แชนแนล
อาการของภูมิแพ้อากาศ
อาการของโรคภูมิแพ้อากาศที่ส่วนมากจะพบได้บ่อย ๆ คือ น้ำมูกไหลโดยเป็นน้ำมูกสีใส จาม คันในจมูก คัดจมูก เสียงขึ้นจมูก หากว่ามีอาการมากอาจจะมีอาการหายใจติดขัดทางจมูกจนต้องอ้าปากหายใจ มีเสมหะไหลลงคอ มีการกระแอมอยู่บ่อย ๆ เพราะมีเสมหะติดคอ แต่ไม่มีอาการเป็นไข้ร่วมด้วย บางครั้งอาจจะมีอาการคันตา มีอาการเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ ส่วนมากมักจะเป็นในช่วงเช้า แและตอนกลางคืน นอกจากนี้แล้ว บางรายยังมีอากาารปวดศีรษะ เจ็บหูด้านหลัง หูอื้อ รู้สึกมึน และอ่อนเพลียหลังตื่นนอน รวมถึงมีภาวะแทรกซ้อนจากโรค เช่น ไซนัสอักเสบ นอนกรน
ภูมิแพ้อากาศคืออะไร โรคภูมิแพ้อากาศมีอาการอย่างไร แล้วมีวิธีรักษาอย่างไร
สาเหตุของภูมิแพ้อากาศ
สาเหตุของภูมิแพ้อากาศ เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื้อ จมูก ตา หู ไซนัส และลำคอ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ต่อสารก่อภูมิแพ้เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศออกจากร่างกาย ภูมิแพ้แบ่งออกได้เป็น 2 ชินได้แก่ ภูมิแพ้อากาศที่เป็นเฉพาะฤดูกาล ที่ทำให้สารก่อภูมิแพ้เกิดขึ้น หรือกระจายในอากาศเพิ่มขึ้นในบางฤดูการ เช่น ๓ุมิแพ้เกสรดอกไม้ ส่วนภูมิแพ้อากาศที่เป็นตลอดทั้งปี ผู้ป่วยจะได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายได้จากสภาพแวดล้มทั่ว ๆ ไป เช่น ภูมิแพ้ไรฝุ่น เชื้อรา รังแคสัตว์ ขนสัตว์ หรือแมลงสาบ เป็นต้น ปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถกระตุ้น หรือทำให้อาการของโรคดังกล่าวนั้นแย่ลง ได้แก่
- ควันบุหรี่ ควัน ฝุ่น สารเคมี หรือมลพิษในอากาศ
- อากาศเย็น ลม หรือความชื้น
- สเปรย์แต่งผม หรือน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุน
การรักษา
การรักษาโรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ควรเริ่มจากต้นเหตุ โดยหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และดูแลสุขภาพให้แข็งแรงรวมถึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค โดยแพทย์มีแนวทางการรักษาหลากหลายวิธี
- รับประทานยา เพื่อลดอาการแพ้ ลดน้ำมูก รวมทั้งยาที่ลดอาการคัดจมูก ซึ่งควรรับประทานภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อป้องกันผลข้างเคียงของยา หรือการใช้ยาร่วมกับยาชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอื่น
- ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก เพื่อช่วยลดการอักเสบของโพรงจมูก ทั้งนี้ควรให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและสั่งยาเท่านั้น
- ฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (Allergen Immunotherapy) หรือการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดโดยแพทย์ฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายครั้งละน้อยๆ หลาย ๆ ครั้งโดยจะเพิ่มขนาดขึ้นตามลำดับจนกว่าอาการแพ้ของผู้ป่วยจะทุเลาลง ส่วนใหญ่แนะนำในผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล และต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด
การวินิจฉัยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้เป็นอย่างไร?
หากคุณมีอาการแพ้เล็กน้อย คุณอาจต้องตรวจร่างกายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ของคุณอาจทำการทดสอบบางอย่างเพื่อหาแนวทางการรักษา และป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
การทดสอบการทิ่มผิวหนังเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุด แพทย์ของคุณจะใส่สารหลายชนิดลงบนผิวของคุณ เพื่อดูว่าร่างกายของคุณตอบสนองต่อสารแต่ ละตัวอย่างไร โดยปกติ จะเกิดตุ่มสีแดงเล็ก ๆ หากคุณแพ้สาร
การตรวจเลือดหรือการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ จากสารกัมมันตรังสี (RAST)ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน RAST วัดปริมาณแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินอีต่อสารก่อภูมิแพ้ในเลือดของคุณ
ภูมิแพ้อากาศ คืออะไร โรคภูมิแพ้อากาศมีอาการอย่างไร แล้วมีวิธีรักษาอย่างไร
ปัจจัยเสี่ยงของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
การแพ้สามารถส่งผลกระทบต่อทุกคน แต่คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มากขึ้น หากมีประวัติแพ้ในครอบครัวของคุณ การเป็นโรคหอบหืด หรือโรคเรื้อนกวางสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้
ปัจจัยภายนอกบางอย่างสามารถกระตุ้น หรือทำให้ภาวะนี้แย่ลง ได้แก่:
- บุหรี่ควัน
- เคมีภัณฑ์
- อุณหภูมิเย็น
- ความชื้น
- ลม
- มลพิษทางอากาศ
- สเปรย์ฉีดผม
- น้ำหอม
- โคโลญจน์
- ควันไม้
- ควัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
โรคมะเร็ง เกิดจากอะไร วิธีสังเกตตัวเอง เตรียมพร้อมก่อนสายเกินแก้!
ไข้ เป็นไข้อาการเป็นอย่างไร สาเหตุของไข้เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอาการไข้ หรือไม่
โรคผิวหนังอักเสบ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนัง และภูมิแพ้ผิวหนัง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com , pobpad.com , samitivejhospitals.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!