X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

คุณแม่อยากรู้ ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที ? ไขปมความสงสัยให้แม่ผ่าคลอดเข้าใจ

บทความ 5 นาที
คุณแม่อยากรู้ ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที ? ไขปมความสงสัยให้แม่ผ่าคลอดเข้าใจ

คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่เลือกผ่าตัดคลอดมากขึ้น แต่ก็มีความสงสัย การผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที จะเจ็บมากไหม วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผ่าคลอดให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

ช่วงใกล้คลอด คุณแม่หลายคนมักจะมีความกังวลใจเรื่องการคลอด กลัวความเจ็บปวด กังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกน้อย และวิธีการคลอด ล้วนเป็นสาเหตุความกังวลใจของแม่ยุคใหม่ แต่ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ ทำให้การผ่าคลอดกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่การ ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที และปลอดภัยแค่ไหน และควรเลือกการผ่าคลอดดีไหม มาหาคำตอบกันค่ะ

คลอดธรรมชาติ vs ผ่าตัดคลอด แตกต่างกันอย่างไร ?

สำหรับคุณแม่ทุกท่านที่อาจกำลังเกิดคำถามในใจ ว่าสุดท้ายแล้วควรจะเลือกวิธีการคลอดแบบไหนคลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าตัดคลอด แบบไหนที่เหมาะกับเรา ถ้าคลอดเองใช้เวลานาไหม หรือ ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที เพราะเวลาเป็นเรื่องที่คุณแม่หลายคนกังวล แต่ทั้งสองวิธีก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เรามาดูวิธีการคลอดทั้ง 2 แบบกันค่ะ

▲▼สารบัญ

  • การคลอดแบบธรรมชาติ
  • การคลอดแบบผ่าตัดคลอด
  • ผ่าคลอดเจ็บไหม จำเป็นต้องบล็อกหลังหรือเปล่า ?
  • ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที ?
  • แผลผ่าคลอดจะเป็นยังไง ?
  • ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง ?
  • ถ้าท้องแรกผ่าคลอด ท้องสองจะคลอดแบบธรรมชาติได้ไหม ?
  • ผ่าคลอดแล้วให้ลูกกินนมได้เลยไหม ?

การคลอดแบบธรรมชาติ

การคลอดธรรมชาติเป็นการคลอดที่ทารกจะผ่านออกมาทางช่องคลอด ช่วงใกล้คลอดคุณแม่จะรู้สึกถึงการหดรัดตัวเบา ๆ ของปากมดลูก ซึ่งการหดรัดตัวนี้อาจส่งผลให้ปากมดลูกเปิดออกและบางตัวลง เพื่อให้ทารกเคลื่อนมายังช่องทางการคลอด เมื่อมดลูกบีบรัดตัวจนปากมดลูกเปิดกว้าง 8-10 เซนติเมตร คุณหมอจะคอยกระตุ้นให้คุณแม่ออกแรงเบ่งเมื่อเกิดการหดรัดตัวของมดลูก หรือคอยให้จังหวะในการเบ่งคลอด เพื่อให้ทารกคลอดออกมา

ข้อดี ของการคลอดธรรมชาติ คือ

  1. มีระยะฟื้นตัวเร็ว เนื่องจากขนาดของแผลที่เล็ก ส่งผลให้คุณแม่ไม่ได้มีอาการเจ็บมากเหมือนอย่างการผ่าตัดทำคลอด คุณแม่จึงสามารถเคลื่อนไหว ลุก นั่ง เดิน ได้คล่อง การฟื้นตัวก็รวดเร็ว
  2. ขนาดแผลที่เล็ก แผลเกิดจากอะไร คุณแม่ท้องแรกบางคนคงสงสัย คือแผลที่เกิดจากปากช่องคลอด ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นไม่เท่าคนที่เคยผ่านการคลอดมาแล้ว จึงทำให้มีแผลเพื่อช่วยเปิดช่องทางคลอด ซึ่งส่วนใหญ่แผลจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 เซ็นติเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสรีระของคุณแม่และขนาดของทารกด้วย
  3. ลดภาวะเสี่ยงได้ การคลอดธรรมชาติช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การติดเชื้อ การตกเลือด หรือการเกิดลิ่มเลือด
  4. เสียเลือดน้อยกว่า การคลอดธรรมชาติโดยทั่วไปจะเสียเลือดน้อยกว่าการผ่าคลอด เนื่องจากมดลูกหดตัวและบีบตัวเพื่อให้ออกมา
  5. ทารกได้รับภูมิคุ้มกัน การคลอดธรรมชาติโดยผ่านช่องคลอดทำให้ทารกได้รับแบคทีเรียดี ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาภูมิคุ้มกันของทารก
  6. กระตุ้นการทำงานของปอดในทารก การบีบตัวของช่องคลอดขณะคลอดช่วยขับน้ำ
  7. สามารถให้ลูกกินนมได้ทันที การคลอดธรรมชาติช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนมิลค์ ทำให้คุณแม่สามารถให้ลูกดูดนมได้ทันทีหลังคลอด
  8. ส่งเสริมความผูกพันระหว่างแม่และลูก การได้สัมผัสและกอดลูกน้อยทันทีหลังคลอด ช่วยเสริมสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูก

ข้อเสีย ของการคลอดธรรมชาติ คือ มีอาการเจ็บปวดระหว่างคลอด ใช้เวลานาน และอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น รกเกาะต่ำ ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ

Advertisement

ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที

การคลอดแบบผ่าตัดคลอด

เป็นการผ่าตัดทำคลอด โดยการเปิดปากแผลบริเวณหน้าท้องและมดลูก การผ่าคลอดจะมีแบบการวางแผนไว้ล่วงหน้า หรือมีกรณีต้องผ่าตัดแบบอย่างเร่งด่วน เหตุจากสุขภาพหรือภาวะจำเป็น เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจคาดไม่ถึง ซึ่งการ ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที หรือยาวนานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของคุณแม่และทารกในครรภ์ด้วย ว่ามีความยุ่งยากมากน้อยแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่แล้วการผ่าคลอดจะใช้ระยะเวลาในการคลอดสั้นกว่าการคลอดธรรมชาติ และมีขนาดแผลหรือรอยแผลเป็นที่ต่างกับการคลอดธรรมชาติ

ข้อดี ของการผ่าคลอด

  1. ไม่ต้องรอเจ็บท้องนาน คุณแม่สามารถวางแผนการคลอดได้ล่วงหน้า ทำให้สามารถเตรียมตัวทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างพร้อมก่อนทำการคลอด
  2. ไม่เสี่ยงภาวะแทรกซ้อนระหว่างรอคลอด คุณหมอสามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิด และสำหรับคุณแม่ที่มีภาวะเสี่ยง เช่น โรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง การผ่าคลอดจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
  3. ไม่เจ็บระหว่างทำคลอด คุณหมอจะให้ยาสลบหรือบล็อกหลัง ทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด อาจเจ็บแผลหลังคลอดบ้าง แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้เร็ว
  4. กำหนดวันเวลาคลอดได้ สามารถวางแผนชีวิตหลังคลอดได้อย่างสะดวก เช่น การเตรียมตัวรับลูก การจัดเตรียมคนดูแล คุณแม่ที่ทำงานก็สามารถวางแผนลาคลอดได้อย่างเหมาะสม
  5. หากสภาวะครรภ์มีความเสี่ยงจะช่วยให้ปลอดภัย กรณีที่ทารกอยู่ในท่าที่ผิดปกติ หรือมีขนาดตัวใหญ่เกินไป การผ่าคลอดจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก
  6. สามารถทำหมันได้เลย โดยคุณหมอสามารถทำหมันได้ทันทีหลังการผ่าคลอด

ข้อเสีย ของการผ่าคลอด มีแผลที่หน้าท้องจากการผ่าตัด มีความเสี่ยงจากการแพ้ยาเพราะจะต้องมีการดมยาสลบ หรือใช้การบล็อกหลังให้กับคุณแม่เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้น เสียเลือดมาก ทารกเสี่ยงภาวะหายใจเร็ว แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้เป็นภาวะรุนแรง และหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนจะมีโอกาสหายไปได้เองในภายหลัง

ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที

แม่ผ่าคลอด อยากรู้อะไรบ้างนะ ?

คุณแม่ที่กำลังจะผ่าคลอดมักมีคำถามมากมายในใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตรียมตัวก่อนผ่าคลอด การดูแลแผลผ่าตัด การให้นมบุตร หรือการกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นการตัดสินใจและเตรียมตัวล่วงหน้าสำหรับแม่ที่เลือกผ่าคลอด พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจหลังคลอด เราจะช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายและสามารถดูแลตัวเองและลูกน้อยได้อย่างมีความสุขกันค่ะ

  • ผ่าคลอดเจ็บไหม จำเป็นต้องบล็อกหลังหรือเปล่า ?

การผ่าคลอดในปัจจุบัน ความเจ็บปวดจากการผ่าคลอดลดน้อยลง ด้วยเทคโนโลยีและวิวัฒนาการทางการแพทย์ จะมีวิธีที่ช่วยให้ความเจ็บปวดลดน้อยลงและมีประสิทธิภาพ วิธีนี้ปลอดภัยต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย โดยการบล็อคหลัง หรือการฉีดยาชาเข้าที่ไขสันหลัง ทำให้ชาเฉพาะบางส่วนของร่างกาย ช่วยให้คุณแม่ผ่อนคลายและไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การบล็อกหลังก็มีข้อบ่งชี้และข้อห้ามบางประการ คุณแม่จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ หากคุณแม่มีความกังวลเรื่องการผ่าตัด ก็สามารถปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีการดมยาสลบได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ผ่าคลอดแบบบล็อกหลังหรือดมยาสลบ แบบไหนดีกว่ากัน?

  • ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที ?

การผ่าคลอดจะเริ่มจากการให้ยาชา ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ยาชาประเภทยาชาบริเวณกระดูกรอบ ๆ กระดูกสันหลัง หรือที่เรียกว่าการบล็อคหลัง ซึ่งจะทำให้คุณแม่ยังรู้สึกตัวขณะทำการผ่าคลอด ระยะเวลาการผ่าคลอดโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ภายหลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว คุณแม่จะนอนพักฟื้นที่ห้องผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อประเมิน และสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด หากคุณแม่ไม่มีความผิดปกติคุณแม่จะกลับมาพักที่ห้องพักได้ 

  • แผลผ่าคลอดจะเป็นยังไง ?

สำหรับคุณแม่ท่านไหนที่กังวลเรื่องแผล หลังการผ่าคลอด เช่น ขนาดของแผล รอยเย็บแผลหรือการเกิดแผลเป็นจากการผ่าคลอด ซึ่งแผลสามารถดูแลและรักษาให้ดีขึ้นได้หลังการผ่าคลอด เช่น การไม่แกะแผล การใช้ผ้ารัดหน้าท้อง ท่าทางการลุก เดิน ยืน นั่ง เป็นต้น ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนำนำของแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลอักเสบติดเชื้อ และเป็นแผลเป็นคีลอยด์ได้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ดูแลแผลผ่าคลอดไม่ให้นูน ให้แผลสมานด้วยตัวเองได้ไม่ยาก

  • ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง ?

คุณแม่ที่ต้องการมีลูกมากกว่า 1 คนและใช้วิธีผ่าคลอด สามารถผ่าตัดคลอดได้เรื่อยๆ แต่แพทย์จะแนะนำให้ผ่าคลอดไม่เกิน 3 ครั้ง เพราะคุณแม่ที่เคยผ่าคลอดนั้นมักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่เคยมีแผลผ่าคลอด และคุณแม่ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทำการฝากท้องตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ รวมถึงหากได้รับการตรวจและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมจากสูติแพทย์โดยตรงก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง แม่ผ่าคลอด มีลูกได้กี่คน อันตรายไหม และต้องดูแลตัวเองยังไง

  • ถ้าท้องแรกผ่าคลอด ท้องสองจะคลอดแบบธรรมชาติได้ไหม ?

กรณีท้องแรกผ่าคลอด ท้องที่สองคุณแม่สามารถเลือกการคลอดแบบธรรมชาติได้ค่ะ โดยวิธีการนี้เรียกว่า VBAC (Vaginal Birth after Cesarean) แต่ต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำและการดูแลอย่างใกล้ชิด

ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ผ่าคลอดท้องแรก แต่คลอดธรรมชาติท้องสอง ทำได้หรือ?

  • ผ่าคลอดแล้วให้ลูกกินนมได้เลยไหม ?

การผ่าคลอดไม่มีผลกระทบในเรื่องการให้นมลูกค่ะ คุณหมอจะพยายามให้ลูกน้อยมากินนมแม่ทันทีหลังคลอด ซึ่งการให้นมลูกได้ทันทีเลยนั้นจะยิ่งช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น คุณแม่ควรเริ่มให้นมลูกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยในช่วงแรกคุณแม่ควรให้นมลูกบ่อยๆ ทุกๆ 2-3 ชั่วโมงในตอนกลางวัน และทุกๆ 3-4 ชั่วโมงในตอนกลางคืน

ดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด แม่ต้องทำอะไรบ้าง ?

หลังผ่าคลอดทั้งคุณแม่และลูกน้อยจะต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและฟื้นฟู โดยแพทย์จะดูแลเรื่องอาการปวดให้ด้วยยาแก้ปวด และแนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำเยอะๆ รวมถึงพยายามลุกขึ้นเดินเพื่อช่วยให้แผลหายเร็ว ลดปัญหาท้องผูก และป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน นอกจากนี้ แพทย์จะคอยดูแลแผลผ่าตัดอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ติดเชื้อ แต่เมื่อกลับไปพักที่บ้านต่อ ควรดูแลตัวเองดังนี้

  • ดูแลความสะอาดแผลผ่าคลอด เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ และหลังจากที่แผลสมานแล้ว คุณแม่อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลเป็นที่ให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที

  • พักผ่อนให้มาก ๆ และวางของใช้ที่จำเป็นสำหรับแม่และเด็กไว้ใกล้มือ ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงการยกของ หรือยกของที่น้ำหนักมากกว่าลูกน้อย
  • ใช้หมอนรองบริเวณหน้าท้องขณะให้นม หรือใช้ผ้าพันบริเวณหน้าท้อง หรือใช้ผ้ารัดหน้าท้องได้ค่ะ เพราะการใช้ผ้ารัดหน้าท้องจะช่วงพยุงหน้าท้องและมดลูกหลังคลอด กระชับหน้าท้องให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็ว บรรเทาอาการปวดหลังได้ด้วยค่ะ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียของเหลวจากการคลอดและการให้นม อีกทั้งยังช่วยป้องกันอาการท้องผูกอีกด้วย
  • หากมีอาการปวด ใช้ยาตามที่คุณหมอสั่งเท่านั้น
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ ในระยะเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการขับรถอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เนื่องจากแผลผ่าคลอดจะอยู่บริเวณเข็ดขัดนิรภัย หากมีการเบรครถอย่างกะทันหันหรือเกิดอุบัติเหตุ อาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่แผลซ้ำได้

อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่มีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง มีอาการบวมแดง และมีของเหลวไหลออกมาจากแผลผ่าตัด ควรรีบหาหมอทันที

รวมไปถึงมีอาการปวด บวมแดงที่หน้าอก ร่วมกับมีไข้ มีของเหลวและมีกลิ่นเหม็นไหลออกมาจากช่องคลอด รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ มีเลือดออกจนเต็มผ้าอนามัยภายในเวลา 1 ชั่วโมงหรือมีเลือดออกต่อเนื่องกันมากกว่า 8 สัปดาห์หลังจากผ่าคลอดต้องรีบมาพบแพทย์ทันที

ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที

การผ่าคลอดเป็นวิธีการคลอดที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน และมีความปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น คุณหมอมักจะแนะนำให้คุณแม่เลือกวิธีคลอดตามธรรมชาติค่ะ และสำหรับคุณแม่ที่ต้องการผ่าคลอด ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจถึงขั้นตอน ข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อยค่ะ

 

ที่มา : โรงพยาบาลเปาโล , โรงพยาบาลบางปะกอก 9 , โรงพยาบาลพญาไท , Pobpad ,

โรงพยาบาลสมิติเวช

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ผลข้างเคียงระยะยาวของการบล็อกหลัง ผ่าคลอดบล็อคหลังดีไหม

รอยแผลผ่าคลอด ปกติหรือไม่? มาไขข้อสงสัยพร้อมวิธีดูแลให้แผลสวย

เลือกผ่าคลอด หากคลอดลูกโดยการผ่าคลอด ความเสี่ยงผ่าคลอด 9 เรื่องที่แม่ตั้งครรภ์ต้องเจอ!

บทความจากพันธมิตร
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก
โฉมใหม่ S-26 GOLD PRO-C3 สูตรที่พัฒนากว่าสูตรเดิมไปอีกขั้น* ผสมแอลฟา สฟิงโกไมอีลิน และบี แล็กทิส สิ่งดีๆ ที่คุณแม่เลือก
เคล็ดลับเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่มือใหม่ ด้วย Jessie M Next และ Jessie Mind Next
เคล็ดลับเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่มือใหม่ ด้วย Jessie M Next และ Jessie Mind Next
แม่รู้ไหม น้ำนมแม่ 6 เดือนแรกสำคัญ สร้างภูมิคุ้มกันและสมองที่ดีให้ลูกน้อย
แม่รู้ไหม น้ำนมแม่ 6 เดือนแรกสำคัญ สร้างภูมิคุ้มกันและสมองที่ดีให้ลูกน้อย

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

yaowamal

  • หน้าแรก
  • /
  • หลังคลอด
  • /
  • คุณแม่อยากรู้ ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที ? ไขปมความสงสัยให้แม่ผ่าคลอดเข้าใจ
แชร์ :
  • ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

    ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

  • 5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

    5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

  • กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

    กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

  • ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

    ACOG เผย 13 คำแนะนำ การดูแลคุณแม่หลังผ่าคลอดแบบใหม่ ให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

  • 5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

    5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

  • กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

    กระตุ้นปากมดลูก กี่วันคลอด วิธีไหนทำให้ปากมดลูกเปิดไวๆ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว