คุณแม่ส่วนใหญ่ที่กินคอลลาเจนก่อนตั้งท้องเรื่อยมาจนถึงตอนท้อง มักมีความกังวลว่า แล้วช่วงตั้งครรภ์ยังสามารถ กินคอลลาเจน อย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ จะส่งผลต่อลูกในท้องอย่างไร หรือควรกินคู่กับอาหารเสริมและวิตามินชนิดใดได้บ้าง มาไขข้อสงสัยไปพร้อมกันค่ะ
คอลลาเจนคืออะไร
หลายคนเข้าใจว่า การกินคอลลาเจน คือการกินชั้นไขมันของสัตว์ แต่แท้จริงแล้วคอลลาเจนคือ เส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลัก ของผิวหนัง ขน และเส้นผม การกินคอลลาเจนเข้าไปในร่างกายก็จะช่วยให้ผิวหนังของเรา มีความเต่งตึง กระชับขึ้น ยืดหยุ่น แต่อย่างไรก็ตามก็มีข้อห้ามในการกินคอลลาเจนและวิตามินบางชนิด เช่น
1. คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหยุดกินยารักษาสิวทุกชนิด หรือกรดวิตามินเอ
ก่อนตั้งครรภ์ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักกินคอลลาเจนกับยารักษาสิวควบคู่กัน แต่ทราบหรือไม่ว่าในยารักษาสิวมักมีสารกลุ่มเบต้า ไฮดรอกซี่ เอซิด ซึ่งเป็นสารเคมีทำให้ผิวลอก ส่งผลกระทบต่อลูกในท้องอันตรายถึงขั้นพิการได้ ดังนั้นคุณแม่ไม่ควรกินเด็ดขาด
2. คุณแม่ตั้งครรภ์ควรงดกินอาหารเสริมประเภทกลูตาไธโอน
อีกหนึ่งในการกินคอลลาเจนคือการกินคู่กับกลูต้าไธโอน ซึ่งมีวิตามินซีและวิตามินเอสูงมาก ซึ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรงดกินกลูต้าไธโอน เนื่องจากกลูต้าไธโอนมีค่าวิตามินซีและเอที่สูงเกินไป ซึ่งมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ด้วย อาจทำให้เด็กที่เกิดมามีความผิดปกติทางผิวหนังได้
3. คุณแม่ตั้งครรภ์ควรงดกินคอลลาเจน
การกินคอลลาเจนตอนท้องนั้น แนะนำว่าควรงดพักก่อน เพราะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผ่านการสังเคราะห์ อาจมีการปนเปื้อนสารอันตรายต่าง ๆ ที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
สรุปแล้วคนท้อง กินคอลลาเจน ได้ไหม อันตรายหรือเปล่า?
แม้ปัจจุบัน ยังไม่มีผลการวิจัย ที่ยืนยันว่าการกินคอลลาเจน หรืออาหารเสริม วิตามินเป็นเม็ดต่าง ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบร้ายแรงใด ๆ ต่อทารกในครรภ์ แต่มี ผลการวิจัยที่ทำการศึกษาผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเสริมอาหารแบรนด์หนึ่ง แก่คุณแม่หลังคลอด ซึ่งจากการศึกษาที่ได้ คือ แผลผ่าตัดหรือคลอดธรรมชาติจากการคลอด ของคุณแม่ที่กินคอลลาเจน จะหายเร็วกว่าคุณแม่ที่ไม่ได้กินคอลลาเจน
กินคอลลาเจนตอนท้องได้ แต่ต้องเป็นคอลลาเจนที่ได้รับจากอาหารจากธรรมชาติ
ในกรณีของคุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ การกินคอลลาเจนจากธรรมชาติน่าจะเป็นทางเลือกที่ดูปลอดภัย เช่น
1. คอลลาเจนที่มาจากน้ำซุปต้มกระดูก
คอลลาเจนจะพบมากในน้ำซุปต้มกระดูก สามารถปรุงได้โดยการเคี่ยวกระดูกสัตว์ในน้ำเดือด ค่อย ๆ เคี่ยวด้วยเวลาที่เหมาะสม ซึ่งกระบวนการปรุงอาหารนี้ เชื่อกันว่าสามารถดึงคอลลาเจนที่ได้จากธรรมชาติ เช่น กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อโปรตีนออกมาได้ นอกจากคอลลาเจนแล้ว ยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมายที่ได้จากการเคี่ยวน้ำซุปต้มกระดูก เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส กลูโคซามีน คอนดรอยติน กรดอะมิโน และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย
2. คอลลาเจนที่ได้จากเนื้อไก่
เนื่องจากเนื้อไก่มีคุณค่าทางอาหารสูงโดยเฉพาะสารอาหารประเภทโปรตีน จึงมีเหตุผลว่าทำไมอาหารเสริมอย่างคอลลาเจนจำนวนมากหลาย ๆ ยี่ห้อ มาจากเนื้อไก่ เพราะเนื้อไก่อุดมไปด้วยคอลลาเจน เต็มไปด้วยเส้นใยโปรตีน ถือว่าคอลลาเจนชั้นดีเลยทีเดียว
3. คอลลาเจนในอาหารทะเลอย่างปลาและหอย
อาหารทะเลมักถูกใช้ในการสกัดคอลลาเจน โดยเฉพาะ ปลาและหอย ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีกระดูกและเอ็น ซึ่งการกินคอลลาเจนจากสัตว์ทะเลเป็นหนึ่งในคอลลาเจนที่ดูดซึมได้ง่ายที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม คอลลาเจนจากเนื้อปลาที่คนเรานิยมทานกันกลับได้ชื่อว่า เป็นส่วนที่มีคอลลาเจนน้อยที่สุด ในทางกลับกัน ส่วนที่มีคอลลาเจนมากที่สุดในปลาทะเล คือส่วนที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมทาน ได้แก่ หัวปลา เกล็ด และ ลูกตาปลา ซึ่งปลาที่ขึ้นชื่อว่าอุดมไปด้วยคอลลาเจนมากที่สุดคือ ปลาทูน่า และแซลมอน
4. คอลลาเจนจากไข่ขาว
ไข่ 1 ฟองให้โปรตีน 4-6 กรัม ดังนั้นคอลลาเจนที่ดีจะมาจากไข่น้อยมากโดยเฉพาะไข่ข่าว แต่ก็เป็นคอลลาเจนที่ดีแม้ว่าไข่จะไม่มีเส้นใยโปรตีนเหมือนผลิตภัณฑ์จากสัตว์อื่น ๆ แต่ไข่ขาวก็มีกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง (Proline ) ที่จำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจนเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินอะไรให้ลูกขาว ผิวสวย ผิวเนียนนุ่น คนท้องอยากให้ลูกผิวดีต้องทำยังไง?
5. คอลลาเจนจากผลไม้ตระกูลซิตรัส
กินคอลลาเจนต้องคู่กับวิตามินซี ซึ่งวิตามินซีมีหน้าที่สำคัญในการสร้าง โปร-คอลลาเจน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้าง คอลลาเจนของร่างกาย ดังนั้นการได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอจึงมีความสำคัญ เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ดี เช่น ผลไม้ตระกูลซิตรัส มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะเฟือง เสาวรส หรือฝรั่ง แม้จะไม่ได้อยู่ในผลไม้ตระกูลที่มีรสเปรี้ยว แต่ก็ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเช่นกัน
6. คอลลาเจนจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลายคือแหล่งผลิตคอลลาเจนที่ดีเยี่ยม ซึ่งหากเทียบกับผลไม้ในตระกูลซิตรัสแล้ว ผลไม้อย่าง สตรอว์เบอร์รี สามารถให้วิตามินซีมากกว่าส้มในปริมาณที่เท่ากัน ยังมี ราสป์เบอร์รี บลูเบอร์รี และแบล็กเบอร์รี ที่มีปริมาณคอลลาเจนสูง นอกจากนี้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงซึ่งช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายอีกด้วย
7. คอลลาเจนจากผักใบเขียว
กินคอลลาเจนให้ดี สามารถเลือกกินจากผักก็ได้ ผักสีเขียวไม่ได้มีแต่ วิตามิน แคลเซียมและฟอสฟอรัสเท่านั้น แต่ผักใบเขียวเข้มอย่าง ผักคะน้า บรอกโคลี และผักโขม สามารถเพิ่มการผลิตคอลลาเจนได้อย่างน่าประทับใจ เพราะผักเหล่านี้จะมีปริมาณวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเสริมคอลลาเจนได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความเสียหายของคอลลาเจนจากอนุมูลอิสระ เช่น แสงแดด หมอกควัน ฝุ่น ควันบุหรี่ การอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอสมาร์ทโฟนนาน ๆ ก็สามารถทำร้ายผิวได้เช่นกัน
8. คอลลาเจนจากถั่วฝักยาวและถั่วงอก
ทราบหรือไม่ว่า คอลลาเจนจากถั่วต่าง ๆ ก็มีด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นถั่วฝักยาวถือว่าเป็นแหล่งของ กรดไฮยาลูโรนิกตามธรรมชาติ ซึ่งทราบกันดีว่าช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียนและอวบอิ่ม สามารถเร่งการผลิตคอลลาเจนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีถั่วงอก ที่สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนของร่างกายได้ดีเช่นเดียวกัน
9. คอลลาเจนจากผลอะโวคาโดและน้ำมันอะโวคาโด
นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินอีและโพแทสเซียมแล้ว อะโวคาโดยังมีคอลลาเจน และยังมีเลซิติน ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ผิวแข็งแรงและเพิ่มการผลิตเซลล์ใหม่ ๆ
10. คอลลาเจนจากเมล็ดฟักทอง
คอลลาเจนจากเมล็ดฟักทอง มาจากการสังเคราะห์จากสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยบำรุงร่างกาย ทั้งนี้มีการวิจัยพบว่าแร่ธาตุสังกะสี อาจช่วยลดอัตราการย่อยสลายคอลลาเจนตามธรรมชาติได้ ซึ่งสามารถเข้าใจได้ว่าอาหารที่อุดมด้วยสังกะสีก็สามารถรับประทานคู่กับคอลลาเจนได้ โดยเฉพาะคอลลาเจนแบบเม็ด
11. คอลลาเจนมาจากสับปะรด
คอลลาเจนสามารถได้รับการสังเคราะห์จากการกินผลสับปะรด และการดื่มน้ำสับปะรด ซึ่งมีส่วนช่วยให้ผิวพรรณกระชับ เปล่งปลั่ง ในขณะที่วิตามินซี และเอนไซม์โบรมีเลนในสับปะรด ก็มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อได้เป็นอย่างดี
บทความที่เกี่ยวข้อง: 20 คอลลาเจนที่ปังที่สุดในปีนี้ กินอย่างไรให้เวิร์ค
หากต้องการกินคอลลาเจนสังเคราะห์
คุณแม่บางท่านอาจจะอยากกินคอลลาเจนตอนท้อง เนื่องจากการรับน้ำหนักอาจทำให้ข้อเข่าเสื่อม หรือขาดสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ทั้งนี้มีปัจจัยทำให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพหรือถูกทำลายได้ง่าย เช่น ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่มีความเครียด คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งบุคคลเหล่านี้อาจได้รับคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายได้ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จึงจำเป็นต้องได้รับเส้นใยโปรตีนจากคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ผลกระทบจากการขาดคอลลาเจน
- ทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง
- ผิวหนังเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย
- กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพ
- โรคข้อเสื่อม
พญ.ณัทดา สามัคยานุสรณ์ แพทย์ผิวหนัง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
กินอย่างไร ให้ผิวสวยไปถึงลูกในท้อง กินอะไร ให้ลูกในท้องผิวดี
วิตามินและ อาหารเสริมในช่วงตั้งครรภ์
7 วิตามิน คนท้อง วิตามินเสริมที่ดีที่สุดสำหรับคนท้องและทารกในครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!