คนท้องกินข้าวเหนียวทุเรียนได้ไหม ควรกินแค่ไหน ถึงจะไม่เสี่ยงเบาหวาน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ช่วงนี้มองไปทางไหนก็มีแต่ทุเรียน ราชาของผลไม้แสนอร่อย และเมนูขนมไทยอย่างข้าวเหนียวทุเรียนก็มาคู่กัน แม่ท้องเห็นแล้วอดใจไม่ไหว ก่อนอื่นคุณแม่ลองมาดูข้อมูล คนท้องกินข้าวเหนียวทุเรียนได้ไหม หรือควรกินปริมาณเท่าไหร่จึงจะปลอดภัยต่อแม่และลูกน้อยในท้อง มาดูกันเลยค่ะ

 

 

คนท้องกินข้าวเหนียวทุเรียนได้ไหม กินเท่าไหร่ถึงจะไม่เสี่ยง

สำหรับแม่ท้องที่อยากกินข้าวเหนียวทุเรียน ต้องบอกเลยว่าสามารถกินได้ค่ะ แต่ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป เพราะจะเสี่ยงโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โรคอ้วน และไขมันในเลือดสูงได้ เพราะเมนูข้าวเหนียวทุเรียน มีแคลอรีสูง และยังประกอบไปด้วยน้ำตาล น้ำกะทิ และความหวานจากทุเรียนอีก จึงไม่ควรกินในปริมาณที่มากจนเกินไป และแม่ท้องที่มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน หรือกำลังเป็นเบาหวานอยู่ อาจจะงดกินไปก่อน หรือกินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ให้ลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนนะคะ

 

ปริมาณข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิที่แม่ท้องกินได้

ข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิ 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 400 แคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับการกินข้าวซอย หรือข้าวผัดปลาเค็ม 1 จาน ดังนั้นถ้าหากแม่ท้องอยากกินจริง ๆ ควรกินเป็นอาหารจานหลัก หากอยากกินเป็นของว่างให้ลดปริมาณลงครึ่งถ้วย และควรกินนาน ๆ ครั้ง ไม่แนะนำให้กินบ่อย ๆ หรือกินทุกวันนะคะ

 

กินทุเรียนตอนท้อง มีประโยชน์อย่างไร

หากแม่ท้องอยากกินทุเรียน ควรเลือกกินทุเรียนพันธุ์หมอนทอง หรือชะนีไข่ เพราะทุเรียนพันธุ์นี้ มีโฟเลตสูง ซึ่งดีต่อสุขภาพของแม่และลูกน้อยในครรภ์

  • ช่วยให้คุณแม่เจริญอาหาร
  • แก้อาการอ่อนเพลีย
  • รักษาแผลร้อนใน
  • ป้องกันภาวะซีด หรือโลหิตจาง
  • ช่วยบำรุงผิว
  • ป้องกันพยาธิในลำไส้
  • ช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้เด็กพิการแต่กำเนิด

แต่อย่าลืมว่า ถึงแม้ทุเรียนจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของแม่ท้องและลูกน้อยในท้อง ก็ไม่ควรกินเยอะ กินเท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งปริมาณทุเรียนที่คนท้องควรกินต่อวันนั้น จะอยู่ที่ 1 พู หรือประมาณวันละ 2 เม็ด และไม่ควรกินเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง : 13 อาหารลดน้ำตาลในเลือด สำหรับคนท้อง ลดความเสี่ยงเบาหวาน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

แม่ท้องกินข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิอย่างไรให้ปลอดภัย

ความสะอาด

นอกเหนือจากปริมาณที่แนะนำไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่แม่ท้องควรคำนึงถึงเลยก็คือ ความสะอาด นั่นเองค่ะ ควรเลือกกินข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิจากร้านที่สะอาด สุขลักษณะ ปรุงสดใหม่ เพื่อให้ปลอดจากสารปนเปื้อนต่าง ๆ รวมไปถึงเชื้อโรคด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การปรุงอย่างเหมาะสม

ถ้าหากเลือกได้ควรเลือกร้านที่ทำสูตรหวานน้อย และถ้าแม่ท้องสามารถทำกินเองได้ ให้ลดปริมาณน้ำตาลลง ควรเลือกใช้น้ำตาลมะพร้าว และเลือกทุเรียนที่ไม่แก่มาก หวานกำลังดี และใช้กะทิคั้นสด จากนั้นนำไปปรุงสุก

 

วิธีทำน้ำกะทิทุเรียนสูตรหวานน้อย

ส่วนผสม

  • ทุเรียน 200-300 กรัม ( 1 พู )
  • น้ำกะทิ 500 กรัม
  • น้ำตาลมะพร้าว 80 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตย 3-4 ใบ
  • ข้าวเหนียวมูน

วิธีทำ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ตั้งหม้อ (ไฟอ่อน) แล้วใส่กะทิ น้ำตาลมะพร้าว เกลือ ใบเตย ลงไปในหม้อ จากนั้นให้เคี่ยวด้วยไฟอ่อน คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  2. เมื่อส่วนผสมเข้าดี และน้ำตาลละลายเข้ากันแล้ว ให้ใส่เนื้อทุเรียน (แกะเม็ดออกก่อน หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ) ตามลงไปในหม้อ
  3. ต้มต่อจนเดือด ก็เป็นอันเสร็จค่ะ ตักน้ำกะทิทุเรียนมาราดบนข้าวเหนียวมูน พร้อมทาน

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินข้าวเหนียวมะม่วงได้ไหม กินเพลิน ๆ ระวังเสี่ยงเบาหวาน !

 

วิดีโอจาก : Bee happy kitchen

 

อันตรายจากการกินทุเรียนมากเกินไป

หากแม่ท้องกินทุเรียนเยอะเกินไป อันดับแรกคือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ง่าย รวมทั้งอาจเป็นโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีกำมะถันออกฤทธิ์ร้อน ถ้าหากกินมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศร้อน ก็จะยิ่งทำให้อุณหภูมิในร่างกายและความดันโลหิตสูงขึ้นได้ง่ายมากขึ้น จนอาจรู้สึกแน่นท้อง และส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ในที่สุด

ดังนั้น หากแม่ท้องอยากสุขภาพดี และได้ประโยชน์จากการกินทุเรียน ก็ควรกินตามปริมาณที่แนะนำ และควรกินคู่กับอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ด้วยจะดีที่สุด และอย่าลืมออกกำลังควบคู่ไปด้วย เพื่อไม่ให้น้ำหนักสูงเกินเกณฑ์นะคะ

 

สรุปแล้ว การกินข้าวเหนียวทุเรียนนั้นแม่ท้องสามารถกินได้ เพียงแค่กินอย่างพอดี และปรุงให้เหมาะสม ไม่หวานจนเกินไป เลือกกินข้าวเหนียวทุเรียนที่สดใหม่ สะอาด และอย่าลืมที่จะดูแลควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมตามเกณฑ์ที่คุณหมอแนะนำ ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่เองและเจ้าตัวเล็กที่กำลังอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ด้วยนะคะ

 

อันตรายจากการกินของหวานมากเกินไปสำหรับคนท้อง

การทานของหวานมากเกินไปส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่สำหรับคนท้อง อันตรายเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ผลเสียต่อสุขภาพของแม่:

  • น้ำหนักตัวเพิ่ม: ของหวานมักมีแคลอรี่สูง การทานมากเกินไปจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม ส่งผลต่อสุขภาพทั้งของแม่และทารกในครรภ์
  • เบาหวาน: การทานของหวานเป็นประจำ โดยเฉพาะน้ำตาลทรายขาว เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดตั้งครรภ์ ซึ่งส่งผลร้ายแรงต่อทั้งแม่และทารก
  • ความดันโลหิตสูง: ของหวานบางชนิดมีโซเดียมสูง การทานมากเกินไปอาจส่งผลต่อความดันโลหิต
  • ไขมันในเลือดสูง: การทานของหวาน โดยเฉพาะขนมหวานอบทอด เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไขมันในเลือดสูง
  • ฟันผุ: ของหวานเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้ฟันผุได้ง่าย
  • กรดไหลย้อน: ของหวานบางชนิดกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
  • ท้องผูก: การทานของหวานมากเกินไปอาจส่งผลต่อระบบขับถ่าย ทำให้ท้องผูก

ผลเสียต่อสุขภาพของทารก:

  • น้ำหนักตัวแรกคลอดมาก: ทารกที่แม่ทานของหวานมากเกินไป มีโอกาสคลอดออกมาตัวโต น้ำหนักเกิน เกิดปัญหาคลอด
  • เป็นโรคอ้วน: ทารกที่แม่ทานของหวานมาก มีโอกาสเป็นโรคอ้วนในวัยเด็ก
  • เป็นโรคเบาหวาน: ทารกที่แม่ทานของหวานมาก มีโอกาสเป็นโรคเบาหวานชนิด 2
  • มีปัญหาการเรียนรู้: ทารกที่แม่ทานของหวานมาก มีโอกาสมีปัญหาการเรียนรู้

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ​:

คนท้องกินสเต๊กได้ไหม กินแบบ Rare และ Medium Rare ได้ไหม ?

กินอะไรคลอดง่าย กินอะไรคลอดเร็ว วิธีให้คลอดลูกง่าย ด้วยอาหารการกิน คนท้องกินอะไรดี

คนท้องไตรมาสที่ 3 คนท้องใกล้คลอด อาหารคนท้องไตรมาส 3 อาการที่พบบ่อย แม่ท้องไตรมาสสุดท้าย

ที่มา : th.theasianparent.com

บทความโดย

Patteenan