ขนมอะไรทำไมถูกจัง 20 – 30 บาท รูปร่างกลม ๆ หอมนุ่ม ทานได้ง่าย เรากำลังพูดถึง “ขนมไข่นกกระทา” แต่ของอร่อยแบบนี้จะทานได้มากแค่ไหนกัน คนท้องกินขนมไข่นกกระทาได้ไหม ถ้าอยากกิน ควรเลือกซื้อแบบไหนให้มีประโยชน์ต่อคุณแม่ดีนะ แม่ท้องคนไหนชอบขนมชนิดนี้ห้ามพลาดบทความนี้
ขนมไข่นกกระทาทำมาจากอะไร ?
หลายคนคงรู้จัก “ขนมไข่นกกระทา” หรือ “ขนมไข่เต่า” ที่มีลักษณะกลม สีน้ำตาลอ่อน เนื้อสัมผัสนุ่ม และสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า ร้านอาหารที่มักจะขายรวมกับของทอดจำพวกกล้วยทอด เผือกทอด เป็นต้น ขนมชนิดนี้ได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว และถูกส่งต่อมาจนถึงตอนนี้ ขนมไข่นกกระทาทำด้วยแป้งมัน แล้วนำไปทอดให้สุก ในปัจจุบันโดยทั่วไปมีการกำหนดให้เรียกขนมชนิดนี้ว่าขนมไข่นกกระทาเท่านั้น เพราะชื่อไข่เต่าถูกงดเรียกไปจากความสุ่มเสี่ยงการสูญพันธุ์ของเต่านั่นเอง
คนท้องกินขนมไข่นกกระทาได้ไหม
ด้วยราคาที่ไม่แพง และหาซื้อได้ไม่ยาก คงไม่มีคุณแม่คนไหนที่ไม่เคยกินขนมไข่นกกระทาแน่นอน หากคนท้องต้องการกิน ก็สามารถกินได้แน่นอน แต่ปัญหาหลักที่ต้องคำนึง คือ ส่วนผสมที่ใช้ในการทำขนมชนิดนี้ เพราะมีทั้งสูตรแป้งมันแบบเนียน ๆ สารอาหารที่น้อยนิดจนแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย กับสูตรมันเทศที่พอมีประโยชน์อยู่บ้าง หากคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการกินขนมไข่นกกระทาควรเลือกสูตรมันเทศไว้ก่อน โดยจะสังเกตได้ชัด เช่น มีสีม่วงจากการเลือกใช้มันเทศญี่ปุ่น หรือมันม่วง เป็นต้น นอกจากนี้อย่าลืมที่จะทานในปริมาณที่พอเหมาะ พอดี และเน้นสารอาหารให้หลากหลายในมื้ออื่น ๆ ด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินบิงซูได้ไหม เมนูหวานยุคใหม่ ที่มีข้อต้องระวังมากที่สุด
พลังงานจากขนมไข่นกกระทา
โดยทั่วไปหากทานจนพออิ่มจะตกอยู่ที่ประมาณ 10 -11 ลูก ซึ่งจะเทียบเท่ากับพลังงานโดยประมาณ 190 กิโลแคลอรี ซึ่งถือว่าพลังงานที่ได้รับนั้นไม่ได้มากเลย สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นขนมที่ทานเล่นได้ระหว่างวัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะส่งผลต่อน้ำหนักของแม่ท้องแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขนมชนิดนี้ก็คือว่ามีคุณค่าทางสารอาหารที่น้อยมาก ไม่ใช่ของกินเล่นที่มีประโยชน์อะไรนอกจากความอร่อย และการให้พลังงานจากแป้งมันเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการเลือกทานขนมชนิดนี้ยังมีทางเลือกมากขึ้น เพราะในปัจจุบันมีการใช้มันเทศชนิดต่าง ๆ มาทำขนมชนิดนี้ ทำให้การเลือกร้านที่ใช้มันเทศเป็นส่วนผสมจะดีกว่าการใช้แป้งมันแบบสูตรดั้งเดิม เพราะมันเทศมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น มีโพแทสเซียมสูง และมีส่วนช่วยการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด สามารถช่วยควบคุมไม่ให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ เป็นต้น
ขนมไข่นกกระทาสูตรแป้งมัน VS มันเทศ
การใช้แป้งมันเป็นส่วนผสมหลัก ไม่ได้ซับซ้อนเป็นสูตรโบราณที่ส่งต่อมาจากอดีต เพราะในเวลานั้นสามารถหาวัตถุดิบที่หลากหลายได้ไม่ง่าย การนำวัตถุดิบเพียงเล็กน้อยมาทำขนมจึงกลายมาเป็นทางเลือกของคนค้าขายสมัยก่อน แต่ในปัจจุบันที่สินค้า และวัตถุดิบอาหารสามารถหาได้ง่ายโดยทั่วไป การเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์น่าจะดีกว่ามาก ขนมไข่นกกระทา หากเลือกซื้อร้านที่ใช้แป้งมันเป็นหลัก อาจส่งผลต่อร่างกาย ดังนี้
- ร่างกายโทรมเร็ว : ในแป้งมีสารอินซูลินที่ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด เหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่การกินแป้งมากเกินไป จะทำให้อินซูลินในร่างกายมีปริมาณมากเกินความจำเป็น ส่งผลต่อคอลลาเจนในร่างกายขาดความยืดหยุ่น ทำให้ร่างกายโทรมกว่าอายุจริง เพราะผิวพรรณที่ดูแก่กว่าวัยนั่นเอง
- เสี่ยงต่อเบาหวาน : เมื่อแป้งเข้าสู่ร่างกาย จะถูกย่อยเป็นสารอาหารต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือน้ำตาลนั่นเอง ยิ่งกินขนมไข่นกกระทาสูตรแป้งมันมากเท่าไหร่ น้ำตาลในร่างกายก็ยิ่งสูงขึ้น ประกอบกับรสหวานของขนมชนิดนี้ อาจทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้
- เสี่ยงโรคหัวใจ และหลอดเลือด : เป็นผลพวงมาจากปริมาณน้ำตาลที่มากขึ้นในเส้นเลือด นอกจากน้ำตาลแล้วไขมันที่ทานเข้าไปจากมื้อต่าง ๆ จะยิ่งเสริมให้เกิดการอุดตันที่หลอดเลือดได้ ความเสี่ยงที่ตามมาเมื่อหลอดเลือดอุดตัน คือ โรคทางหัวใจ และหลอดเลือดต่าง ๆ นั่นเอง
- เสี่ยงขาดสารอาหาร : อาหารที่มีแป้งเป็นอาหารที่ทำให้อิ่มได้ง่าย หลายครั้งแม่ท้องจะพบว่ากินขนมไข่นกกระทาได้ไม่หมด เพราะส่วนผสมหลักอาจเป็นแป้งมันนั่นเอง ทำให้หนักท้อง สามารถส่งผลให้กินมื้อหลักได้น้อยลง ประกอบสารอาหารที่น้อยมาก จะทำให้ร่างกายคุณแม่ขาดสารอาหารได้
ดังนั้นการเลือกกินขนมไข่นกกระทาสูตรแป้งมัน คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการกินขนมชนิดนี้ การหันมาทานสูตรมันเทศต่าง ๆ เช่น มันเทศญี่ปุ่น, มันม่วง หรือมันเทศ อย่างน้อยก็มีประโยชน์กว่าแป้งล้วน สีของขนมจากมันเทศนั้นจะแตกต่างจากสูตรแป้งอยู่บ้าง เช่น มีสีม่วง เป็นต้น แต่เพื่อความปลอดภัยแม่ท้องอาจถามทางร้านก่อนว่าใช้แป้ง หรือมันเทศเป็นหลักก่อนตัดสินใจซื้อ
วิดีโอจาก : ครัวป้ามารายห์
คนท้องกินขนมไข่นกกระทาอย่างไรให้ปลอดภัย ?
การเลือกซื้อขนมไข่นกกระทาเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เพิ่มความมั่นใจได้ว่า แม่ท้องจะสามารถกินขนมชนิดนี้ได้อย่างอร่อย และมีความปลอดภัยจากวัตถุดิบอย่างแป้งมากขึ้น ดังนี้
- ให้ความสำคัญกับการเลือกวัตถุดิบหลักของทางร้าน หากใช้มันเทศสายพันธุ์ต่าง ๆ เป็นส่วนผสม จะดีกว่าการใช้แป้งล้วนเสมอ
- ทานในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับ 1 คน ประมาณ 10 – 11 ลูก / วัน ก็เพียงพอแล้ว เพื่อให้ได้พลังงานที่เหมาะสมต่อการทานของว่าง
- พยายามเลือกลูกที่ทอดใหม่ ๆ เพราะขนมทีทอดทิ้งไว้ มักวางบนแผง ที่ผู้คนเดินไปเดินมา รวมถึงเชื้อโรคบริเวณนั้นอาจปนเปื้อนขนมได้โดยที่เราไม่รู้ตัว
- ดูความสะอาดของทางร้าน แม่ค้าพ่อค้าที่ทอดขนมสำคัญมากที่จะต้องสวมถุงมือ มีผ้ากันเปื้อน สวมหน้ากากอนามัย และเก็บผมใส่หมวกให้เรียบร้อย เพื่อเลี่ยงเชื้อโรคที่อาจส่งผลต่อร่างกายของคุณแม่
- แม้ว่าจะเลือกทานสูตรมันเทศ แต่คุณแม่ต้องคำนึงว่า ปริมาณของมันเทศจากขนมชนิดนี้ ไม่ได้มากพอที่จะทดแทนผักผลไม้สด ๆ ได้ ดังนั้นสำคัญมากที่คุณแม่ต้องแบ่งมื้ออาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วย
- พลังงานที่ได้รับจากขนมไข่นกกระทาอาจไม่มาก แต่การทานบ่อยก็ไม่ใช่เรื่องดี คุณแม่ท้องควรออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มการเผาผลาญ และทำให้ร่างกายแข็งแรง เช่น การเล่นโยคะ เป็นต้น
ขนมไทยโดยมากแล้วจะมีรสชาติหลัก คือ ความหวาน ทำให้อาจไม่ค่อยดีต่อสุขภาพมากนัก การเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสม ร่วมกับปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโภชนาการจะช่วยให้คุณแม่ปลอดภัยในการกินขนมเหล่านี้มากขึ้นได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินโรตีได้ไหม แม่ท้องรู้ไหมว่าโรตี 1 ชิ้นเท่ากับข้าว 1 จาน
คนท้องกินเป็ดได้ไหม เป็ดย่าง ข้าวหน้าเป็ด ทำไมเชื่อกันว่าอันตรายกับครรภ์ ?
คนท้องกินต้มเล้งแซ่บได้ไหม รสชาตินัว ๆ ต้องเลี่ยงหรือไม่เลี่ยง ?
ที่มา : wikipedia, pobpad
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!