ของหวานแบบบิงซูเป็นของหวานยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ แน่นอนว่ารวมถึงคนท้องด้วย คนท้องกินบิงซูได้ไหม หากระวังมากพอการทานยังคงปลอดภัยอยู่ แต่แบบไหนที่เรียกว่าคนท้องระวังมากพอ คุณแม่สามารถอ่านได้จากบทความนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปกินครั้งถัดไป
คนท้องกินบิงซูได้ไหม
สำหรับเมนูของหวานจากเกาหลีอย่าง “บิงซู” เป็นเมนูที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ หรือแม่ท้องรุ่นใหม่ แต่ถ้าจะพูดถึงน้ำแข็งไส ความเสี่ยง หรือความคล้ายคลึงกันก็มีมากกว่าที่คิด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งที่ใสออกมาในรูปแบบไหน เราก็คงต้องขอเตือนคนท้องว่าบิงซูเป็นเมนูที่สามารถทานได้ แต่ต้องระวังในหลายเรื่อง เช่น ความสะอาด หรือปริมาณในการทาน เพราะเสี่ยงต่อโรคบางโรคด้วย กองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการเผยให้ระวังเชื้อโรคที่สามารถติดต่อผ่านทางน้ำลาย รวมไปถึงระวังปริมาณในการทานด้วย เพราะทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน หรือทำให้คุณแม่เสี่ยงโรคอ้วน เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินโรตีได้ไหม แม่ท้องรู้ไหมว่าโรตี 1 ชิ้นเท่ากับข้าว 1 จาน
4 ข้อต้องระวัง หากแม่ท้องจะกินบิงซู
บิงซูเป็นเมนูที่ทานได้สำหรับคุณแม่ แต่ก็มีข้อจำกัดจุกจิก และข้อระวังที่มากมาย แม่ท้องคนไหนที่ชอบกินบิงซูมากเป็นพิเศษ อาจต้องรู้ความเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อปรับปริมาณในการทานให้เหมาะสม เพราะคนท้องไม่สามารถกินบิงซูมากเท่าไหร่ก็ได้ ดังนี้
1. พลังงานของบิงซูมากกว่าที่คิด
ใครจะรู้ว่าเมนูหวานเมนูนี้จะให้พลังงานกับร่างกายอย่างมหาศาล มากกว่าการทานมื้อหลักในบางถ้วย โดยพลังงานจากบิงซูจะเฉลี่ยอยู่ที่ 300 -750 กิโลแคลอรี ตามปริมาณในการทาน ซึ่งหากเทียบกับเมนูหวานอื่น ๆ เช่น ข้าวเหนียวทุเรียนและมะม่วง หรือฮันนีโทสต์ บิงซูถือเป็นเมนูอาหารของหวานที่ให้พลังงานมากที่สุดแล้วหากเทียบกับเมนูที่เรากล่าวมา และแม่ท้องคงรู้ดีว่า การกินบิงซูไม่ใช่มื้อหลัก และไม่ได้อยู่ท้องทำให้อิ่มเลย ทำให้สุดท้ายแล้ว คุณแม่ก็ต้องทานอาหารมื้อหลักแยกออกมาอยู่ดี ส่งผลให้เสี่ยงน้ำหนักขึ้นสูง นอกจากนี้ความหวานของเมนูนี้ยังทำให้คุณแม่เสี่ยงภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์อีกด้วย
2. โรคติดต่อทางน้ำลาย
ไม่ว่าจะเป็นไวรัสตับอักเสบเอ, คอตีบ, วัณโรค, คางทูม หรือไข้หวัดใหญ่ แค่เอ่ยชื่อขึ้นมาเชื่อว่าคุณแม่ท้องก็คงจะรู้สึกเป็นกังวลแน่นอน ใครจะอยากเป็นโรคเหล่านี้ในระหว่างตั้งครรภ์ อาหารหลายชนิดหากกินช้อนกลางจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับมื้ออาหารได้ดี แต่สำหรับการกินบิงซูนั้นแตกต่างออกไป เมนูหวานนี้โดยปกติแล้วจะมีช้อนแยกของแต่ละคน ไม่ได้ทานร่วมกัน ซึ่งดูเหมือนจะมีความสะอาดปลอดภัย แต่ความเสี่ยงก็ยังคงอยู่ เพราะทุกคนตักบิงซูจากถ้วยชามเดียวกัน ก็สามารถทำให้มีน้ำลายที่ติดไปกับช้อนปนเปื้อนบนบิงซูด้วย หากใครมาตักในตำแหน่งเดียวกันก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงนั่นเอง
ดังนั้นก่อนจะนัดกันไปกินบิงซู แม่ท้องคงต้องมั่นใจหน่อยว่า คนรอบข้างมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางสารคัดหลั่งอย่างน้ำลายหรือไม่ ยิ่งกรณีที่คุณแม่สงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงโรคเหล่านี้ คุณแม่อาจต้องงดการไปกินบิงซูก่อนเพื่อความปลอดภัย
3. เสี่ยงท้องเสียจากเชื้อโรค
อย่างที่เราทราบกันดีว่ามีเชื้อโรคบางชนิดที่สามารถพบเจอได้ในอาหารแทบทุกเมนู หนึ่งในเชื้อโรคที่ว่านี้ คือ “เชื้อซาลโมเนลล่า (Salmonella)” หากร่างกายของคุณแม่รับเชื้อโรคนี้เข้าไปจะทำให้มีอาการท้องเสีย, อาเจียน หรือเป็นไข้หนาวสั่น เป็นต้น อาหารที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้ อาจมีการปนเปื้อนอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของคุณแม่แต่ละคนว่าสามารถรับเชื้อชนิดนี้ได้มากแค่ไหน ยิ่งถ้าร่างกายแข็งแรง เชื้อร้ายนี้ก็จะแสดงอาการผิดปกติออกมาน้อยลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามทางด้านสถาบันอาหารก็ได้ทำการสุ่มตรวจร้านบิงซูในกรุงเทพฯ เป็นจำนวน 5 ร้าน ซึ่งถือเป็นข่าวดี ที่การสุ่มตรวจไม่ได้พบเจอเชื้อซาลโมเนลล่าปนเปื้อนอยู่ จึงทำให้คุณแม่พอสบายใจในเรื่องนี้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การทานอาหารไม่ว่าจะเมนูไหน ความสะอาด และสุขอนามัยต้องมาก่อนเสมอ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินเป็ดได้ไหม เป็ดย่าง ข้าวหน้าเป็ด ทำไมเชื่อกันว่าอันตรายกับครรภ์ ?
4. ประโยชน์ที่ไม่ทั่วถึง
แม้ว่าโดยปกติแล้ว บิงซูจะมีจุดเด่นมากในแง่ของการใส่ท็อปปิ้งต่าง ๆ ลงไปก่อนทาน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านว่าจะออกแบบบิงซูออกมาแบบไหน แน่นอนว่าสำหรับบางร้านก็ไม่มีท็อปปิ้งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย เช่นการใช้ช็อกโกแลตบราวนี่,ไอศกรีม, ครีม หรือนมข้นหวานล้วน ๆ เป็นต้น ในขณะที่บางร้านเราจะเห็นว่ามีการออกแบบเมนูที่ใช้ผลไม้บางชนิด เช่น กล้วย, มะม่วง, สตรอว์เบอร์รี หรือกีวี เป็นต้น ซึ่งโดยมากแล้วจะเป็นผลไม่รสหวานที่เสริมความหวานให้บิงซูที่หวานอยู่แล้ว ทำให้การทานผลไม้ในบิงซูก็ยากที่จะพูดว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายได้เต็มที่
นอกจากความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ตามมากับเมนูบิงซูนี้ตามที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าปริมาณของผลไม้ที่มานั้น อาจไม่ได้คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะได้รับเลย ถ้าต้องการทานของหวานเย็น ๆ และไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นบิงซู แม่ท้องอาจทานผลไม้แช่เย็นไปเลย คงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่ามาก
วิดีโอจาก : VIPS Station
คนท้องกินบิงซูอย่างไรให้ปลอดภัย
- เลี่ยงการกินบิงซูในถ้วยเดียวกันหากสามารถทำได้ และเป็นสิ่งที่แม่ท้องควรทำเพื่อความปลอดภัย ให้แยกทานเป็นถ้วยเล็ก ๆ ในปริมาณที่สามารถทานได้หมดด้วยตัวคนเดียว
- เลือกเมนูที่ส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าส่งผลร้าย แม้บิงซูจะไม่ได้มีประโยชน์มาก แต่การเลือกเมนูที่มีท็อปปิ้งผลไม้ก็ยังดีกว่าท็อปปิ้งแบบอื่น
- เลี่ยงการทานในปริมาณมาก เนื่องจากจำนวนพลังงานที่สูง ควรระวังเรื่องแคลอรีใน 1 วัน หากวันไหนกินบิงซู มื้อหลักบางมื้ออาจต้องลดจำนวน หรือกินผักผลไม้แทนเนื้อมากขึ้น เป็นต้น
- เลือกร้านที่ดูสะอาดได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการ หรือขั้นตอนในการทำบิงซูมากขึ้นไปในตัว นอกจากนี้คุณแม่ยังต้องระวังความสะอาดของตนเองควรล้างมือก่อน – หลังทานอาหารทุกครั้ง
- หากพบว่าท็อปปิ้งเก่า หรือมีกลิ่น สีของบิงซูแปลก อาจแสดงถึงความไม่สะอาด หรือวัตถุดิบที่เก่า แม่ท้องควรเลี่ยง หรือเปลี่ยนร้านทานจะปลอดภัยกว่า
บิงซูเป็นของหวานที่น่าทานสำหรับแม่ท้อง เพราะมีความหวาน ตราบใดที่คุณแม่ยังคงระวังในการทานมากพอ ก็ยังสามารถทานได้ภายใต้ความปลอดภัย แต่หากมีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นหลังทาน ไม่ควรรอ ให้รีบพบแพทย์ทันที
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินต้มเล้งแซ่บได้ไหม รสชาตินัว ๆ ต้องเลี่ยงหรือไม่เลี่ยง ?
คนท้องกินหอยทอดได้ไหม อันตรายรอบด้าน ต้องเลือกให้ดี
คนท้องกินหมูสะเต๊ะได้ไหม รู้ไหมว่าน้ำจิ้มอันตรายแค่ไหน
ที่มา : tnews, thairath
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!