ช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ 9 เดือนถือได้ว่าเป็นช่วงที่คุณแม่ต้องอดทนเป็นอย่างมาก เพราะคุณแม่หลาย ๆ คนต้องงดกินอาหารโปรดหลาย ๆ อย่าง เพราะกลัวว่าจะส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์ แต่ใช่ว่าหลังจากคลอดลูกน้อยออกมาแล้ว จะสามารถกินอะไรก็ได้ตามใจปาก เพราะช่วงที่ให้นมลูกก็เป็นช่วงที่คุณแม่ต้องเลือกกิน โดยในวันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่า ให้นมลูกกินทุเรียนได้ไหม แม่ให้นมกินทุเรียน อันตรายหรือเปล่า
ให้นมลูกกินทุเรียนได้ไหม ส่งผลอะไรหรือเปล่า
แม่ให้นมลูกสามารถกินทุเรียนได้ ไม่ถือเป็นของแสลง แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินบ่อยเกินไป เนื่องจากทุเรียนมีน้ำตาล คาร์โบไฮเดรท และไขมันในปริมาณค่อนข้างสูงกว่าผลไม้ชนิดอื่น โดยทุเรียน 2 พูจะให้พลังงานเท่ากับข้าว 2 ทัพพี อีกทั้งในทุเรียนไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อทารกผ่านทางนมแม่ และทุเรียนยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร ที่ช่วยบำรุงร่างกายของแม่
ที่มา : babimild.com, enfababy.com
กินทุเรียนช่วงให้นม แล้วนมจะเหม็น ?
ถึงแม้ว่าทุเรียนจะเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นแรง แต่กลับไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชี้ชัดว่าการกินทุเรียนส่งผลต่อกลิ่นของน้ำนมแม่โดยตรง อย่างไรก็ตามสารอาหารบางชนิดจากทุเรียน อาจผ่านน้ำนมแม่ไปยังทารกและส่งผลต่อกลิ่นของทารกได้บ้าง ซึ่งในทารกบางคนอาจไวต่อกลิ่น ของสารอาหารบางชนิด มากกว่าทารกคนอื่น ๆ โดยกลิ่นของทุเรียน เป็นกลิ่นที่เฉพาะเจาะจง ทารกบางคนอาจชอบ หรือไม่ชอบกลิ่นนี้ ดังนั้น การกินทุเรียน อาจส่งผลต่อกลิ่นของน้ำนมแม่ในบางกรณี แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำนมแม่เหม็น หากกังวลว่าน้ำนมแม่เหม็นหรือไม่ ควรสังเกตอาการของทารก ว่าดูดนมน้อยลง หรือร้องไห้มากขึ้นหรือเปล่า หากทารกดูดนมปกติ ไม่มีอาการผิดปกติ แสดงว่าทารกไม่ได้รังเกียจกลิ่น แต่หากทารกดูดนมน้อยลง หรือร้องไห้มากขึ้น อาจเป็นไปได้ว่าทารกรู้สึกเหม็นกลิ่นทุเรียน โดยคุณแม่ควรควรปรึกษาแพทย์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้นมบุตร เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการแก้ไข
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 12 อาหารที่แม่ลูกอ่อนห้ามกินอะไร ให้นมลูกห้ามกินอะไร เมนูไหนเป็นอาหารต้องห้าม
ให้นมลูกกินทุเรียนแค่ไหนถึงจะพอดี ควรกินพันธุ์ไหนดี
แม่ให้นมลูกสามารถกินทุเรียนได้ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินบ่อยเกินไป และสังเกตอาการของลูกหลังกินทุเรียน โดยมีปริมาณที่แนะนำดังนี้
- กินทุเรียนในปริมาณที่พอเหมาะ ประมาณ 1-2 พู
- กินทุเรียนหลังให้นมลูก อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพื่อสังเกตอาการของลูก
- ดื่มน้ำตามหลังกินทุเรียน เพื่อช่วยขับร้อน
สำหรับพันธุ์ทุเรียนที่แนะนำได้แก่ :
- ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง : เป็นพันธุ์ทุเรียนที่นิยมทานกันมาก เนื้อหนา รสหวาน มัน กลิ่นหอม หาซื้อได้ง่าย
- ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว : เนื้อเนียน ละเอียด รสหวาน มัน กลิ่นหอม แต่หาซื้อยากกว่าพันธุ์หมอนทอง
- ทุเรียนพันธุ์คราบัว : เนื้อสีเหลืองอ่อน รสหวาน มัน กลิ่นหอม แต่เนื้อไม่หนาเท่าพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว
ข้อควรระวัง :
- ทุเรียนมีฤทธิ์ร้อน อาจทำให้แม่มีอาการร้อนใน ท้องผูก หรือเกิดสิว
- ทุเรียนมีน้ำตาลสูง ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินบ่อยเกินไป
- สังเกตอาการของลูกหลังกินทุเรียน เช่น ง่วงนอน ร้องไห้ หรือมีอาการแพ้ หากมีอาการผิดปกติ ควรหยุดกินทุเรียน และปรึกษาแพทย์
คุณแม่คนไหนที่ควรงดกินทุเรียนตอนให้นม
ถึงแม้ว่าโดยปกติ คุณแม่ที่ให้นมจะสามารถกินทุเรียนได้ แต่มีคุณแม่บางกลุ่มที่ควรจำกัด หรืองดการทานทุเรียน ดังนี้
1. คุณแม่ที่มีปัญหาสุขภาพ
- คุณแม่ที่มีโรคเบาหวาน : ทุเรียนมีน้ำตาลสูง การทานทุเรียนอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
- คุณแม่ที่มีความดันโลหิตสูง : ทุเรียนมีเกลือแร่โพแทสเซียมสูง การทานทุเรียนอาจส่งผลต่อความดันโลหิต
- คุณแม่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร : ทุเรียนมีฤทธิ์ร้อน การทานทุเรียนอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย
2. คุณแม่ที่มีลูกแพ้ทุเรียน
คุณแม่ควรสังเกตอาการของลูกหลังทานทุเรียน เช่น ง่วงนอน ร้องไห้ ผื่นแพ้ หากลูกมีอาการแพ้ ควรหยุดทานทุเรียนทันที และปรึกษาแพทย์
3. คุณแม่ที่มีลูกทารกแรกคลอด
ในช่วง 1-2 เดือนแรกหลังคลอด ระบบย่อยอาหารของทารกยังไม่พัฒนาอย่างเต็มที่ การทานทุเรียนอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหารของทารก ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสียได้
4. คุณแม่ที่มีลูกทารกที่มีปัญหาสุขภาพ
หากลูกทารกมีปัญหาสุขภาพ เช่น ท้องผูก ท้องเสีย ไอ เป็นหวัด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานทุเรียน
แม่ให้นมนั้นสามารถทานทุเรียนได้ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินบ่อยเกินไป และต้องไม่ลืมสังเกตอาการของลูกหลังกินทุเรียน หากคุณแม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการให้นมบุตร
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
กินทุเรียนตอนท้องได้ไหม คนท้องกินทุเรียน ดีต่อทารกหรือเปล่า?
หลังผ่าคลอดกินทุเรียนได้ไหม แม่ให้นมกินทุเรียนจะเป็นอะไรหรือเปล่า?
คนท้องกินข้าวเหนียวทุเรียนได้ไหม ควรกินแค่ไหน ถึงจะไม่เสี่ยงเบาหวาน