คุณแม่หลังคลอดหรือคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกอยู่ต้องการอาหารและสารอาหารในปริมาณมากกว่าปกติเพื่อผลิตน้ำนม แต่สำหรับอาหารบางชนิดก็มีข้อจำกัดในการกิน เพราะหากกินโดยไม่ระมัดระวัง อาจมีผลกระทบต่อน้ำนมและส่งผลถึงลูกน้อยได้ ไม่ว่าจะเป็นผัก เนื้อสัตว์หรือผลไม้ แล้วถ้าหาก ให้นมลูกกินมังคุดได้ไหม กินแล้วลูกจะท้องเสียหรือเปล่า คำถามนี้ก็มีคุณแม่หลายท่านอยากรู้คำตอบเหมือนกัน มาหาข้อมูลไปพร้อมกันค่ะ
มังคุด ผลไม้ฤทธิ์เย็น
ถ้าพูดถึงผลไม้ไทย หลายคนคงรู้จักและคุ้นเคยกับ มังคุด เป็นผลไม้ฤทธิ์เย็น เนื้อจะมีสีขาวสะอาด เรียงเป็นกลีบ มีรสชาติหวานอร่อย และยังเป็นผลไม้ที่มีราคาไม่แพง หาซื้อง่ายตามฤดูกาล ซึ่งบอกเลยว่ามังคุดเป็นผลไม้สารพัดประโยชน์ และยังเป็นยารักษาโรคอีกด้วย ทั้งช่วย บำรุงผิวพรรณ บรรเทาร้อนใน และมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
ประโยชน์ของมังคุด
- ต้านอนุมูลอิสระ มังคุดอุดมไปด้วยสารแซนโทน (xanthones) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และความเสื่อมของเซลล์
- ลดการอักเสบ สารแซนโทนในมังคุดยังมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบ และโรคผิวหนัง
- บำรุงผิวพรรณ สารต้านอนุมูลอิสระในมังคุดช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น และมีสุขภาพดี
- ช่วยย่อยอาหาร มังคุดมีใยอาหารสูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการท้องผูก
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในมังคุดช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและป้องกันการติดเชื้อได้ดีขึ้น
- บำรุงสายตา เบต้าแคโรทีนในมังคุดช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเสื่อมของดวงตา และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจก
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ สารต้านอนุมูลอิสระในมังคุดช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยการลดระดับคอเลสเตอรอลและลดความดันโลหิต
นอกจากนี้มังคุดยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยดับกระหายและลดอาการร้อนในได้เป็นอย่างดี การลดอาการไอ สารในมังคุดบางชนิดทำให้หลับสบายขึ้น
แม้ว่าในมังคุดอุดมไปด้วยสารแซนโทนที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ แต่ก็สารนี้ก็สามารถเป็นพิษกับคุณแม่ได้ หากกินมังคุดมากเกินไปและติดต่อกัน อาจจะทำให้เกิดเป็นพิษต่อตับ ไต และยังไปลดจำนวนของเม็ดเลือดขาวจนทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลงจากปกติ และบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ รวมถึงอาจจะมีอาการอย่างอื่นกับบางคนได้ เช่น ผิวหนังบวมแดง เป็นผื่นคันขึ้นตามตัว ปวดศีรษะ ปวดบริเวณข้อปวดกล้ามเนื้อ ท้องเสีย ถ่ายเหลว ลำไส้แปรปรวน เป็นต้น อีกทั้งมังคุดยังมีความหวาน อาจจะทำให้น้ำตาลในร่างกายคุณแม่สูงขึ้นได้ แล้วแบบนี้ ให้นมลูกกินมังคุดได้ไหม เรามาหาคำตอบกันต่อเลยค่ะ
ให้นมลูกกินมังคุดได้ไหม จะทำให้ลูกท้องเสียหรือเปล่า ?
มังคุดมีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย แต่สำหรับคุณแม่ ให้นมลูกกินมังคุดได้ไหม ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอว่าสามารถให้คุณแม่กินได้หรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอก่อนกินมังคุด หรือถ้าต้องการกิน ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม คือประมาณ 6-7 ลูก เพราะมังคุดเป็นผลไม้ที่มีรสหวาน หากกินมากเกินไป อาจส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดสูงค่ะ
และโดยทั่วไปแล้ว มังคุดไม่ได้เป็นผลไม้ที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสียในเด็กที่กินนมแม่ แต่อาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ลูกน้อยท้องเสียได้ เช่น การติดเชื้อ หรือการแพ้อาหารชนิดอื่นๆ แต่ทั้งนี้ คุณแม่ลองกินมังคุดเพียงเล็กน้อยก่อน แล้วสังเกตอาการของลูกน้อย หากลูกน้อยไม่มีอาการผิดปกติ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ผื่นคัน หรือไม่ยอมกินนม แสดงว่าลูกน้อยอาจไม่แพ้ และคุณแม่ก็สามารถกินมังคุดได้ค่ะ
เพิ่มน้ำนมด้วยตัวช่วย 7 ผลไม้บำรุงที่ต้องหามากิน
มีผลไม้หลายชนิดที่มีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นน้ำนม ทำให้แม่มีน้ำนมมากขึ้นและเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อย ซึ่งผลไม้ที่สามารถช่วยกระตุ้นน้ำนมได้และหากินได้ง่าย ราคาไม่แพง มีดังนี้ค่ะ
1. อะโวคาโด
อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินเค วิตามินอี โพแทสเซียม วิตามินบี โฟเลต และยังช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีนในน้ำนม ทำให้ลูกน้อยได้รับโปรตีนที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต อะโวคาโดก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยบำรุงร่างกายและเพิ่มปริมาณน้ำนมได้เป็นอย่างดี
2. กล้วย
กล้วยไม่เพียงแต่หวานอร่อย ยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยควบคุมน้ำในร่างกายและกระตุ้นการผลิตน้ำนม เพิ่มปริมาณน้ำนมเหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย นอกจากนี้ กล้วยยังมีใยอาหารสูง ช่วยในระบบขับถ่าย และมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
3. มะละกอ
มะละกอเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียมและฟอสฟอรัส และยังช่วยบำรุงเลือด กระดูก สายตา บำรุงร่างกายและยังช่วยเพิ่มน้ำนมสำหรับคุณแม่ให้นมลูกอีกด้วย
4. อินทผลัม
อินทผลัมอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างแคลเซียม ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส ที่ช่วยบำรุงร่างกายของคุณแม่หลังคลอด และยังช่วยเพิ่มปริมาณและคุณค่าทางอาหารในน้ำนม ทำให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารครบถ้วน แคลเซียมในอินทผลัมช่วยบำรุงกระดูกของคุณแม่ และยังส่งผ่านไปยังลูกน้อยผ่านทางน้ำนม ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงตั้งแต่ในวัยเด็ก
5. ขนุนหรือเม็ดขนุน
ใครจะรู้ว่าเม็ดขนุนนอกจากจะอร่อยแล้ว ยังเป็นคลังสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงน้ำนมให้คุณแม่ได้อีกด้วย อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามินบี 1 ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงร่างกายและกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้คุณแม่ได้เป็นอย่างดีค่ะ
6. บลูเบอร์รี่
เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้คุณแม่และลูกน้อยค่ะ และสารต้านอนุมูลอิสระนี้สามารถส่งไปยังลูกน้อยได้ผ่านน้ำนมคุณแม่ ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคให้กับลูกน้อยได้ค่ะ
7. พุทรา
พุทราอัดแน่นไปด้วยสารอาหารหลากหลาย ทั้งวิตามินบีรวม วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการบำรุงร่างกายและกระตุ้นการผลิตน้ำนม เพิ่มปริมาณน้ำนม ทั้งยังช่วยในการบำรุงผิวพรรณและระบบขับถ่ายอีกด้วย
คำถามสงสัย แม่ให้นมกินผลไม้อะไรได้บ้าง ?
ในผลไม้จะมีใยอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดีและมีพลังงานในการผลิตน้ำนม อีกทั้งยังมีวิตามินอื่นๆ อีกหลากหลาย แต่ผลไม้บางชนิดควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป
4 ผลไม้ควรเลี่ยงสำหรับแม่ให้นม เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
แม้ว่าผลไม้จะอุดมไปด้วยสารอาหารวิตามินมากมาย แต่ก็มีบางชนิดที่ควรระวัง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้ค่ะ การเลือกกินผลไม้ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดีและมีน้ำนมให้ลูกน้อยได้อย่างเพียงพอ มาดูว่าคุณแม่ให้นมควรหลีกเลี่ยงผลไม้ชนิดใด
1. ลูกพรุน
ลูกพรุนจะมีใยอาหารค่อนข้างสูง มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ซึ่งแน่นอนว่าหากกินลูกพรุนมากเกินไป อาจทำให้คุณแม่มีอาการท้องเสียรุนแรง และสารบางชนิดในลูกพรุนอาจผ่านเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยผ่านทางน้ำนมคุณแม่ ก็ทำให้ลูกน้อยมีอาการท้องเสียได้เช่นกันค่ะ
2. ส้ม
ส้มมีรสชาติเปรี้ยว อาจส่งผลให้รสชาติของน้ำนมเปลี่ยนไป อีกทั้งยังมีใยอาหารและน้ำตาลฟรุกโตสสูง ซึ่งอาจทำให้ลูกน้อยท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือมีอาการปวดท้องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกน้อยมีระบบย่อยอาหารที่ยังไม่แข็งแรง บางรายอาจแพ้ส้ม หรือมีอาการแพ้ต่อสารบางชนิดในส้ม ซึ่งก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยมีอาการผื่นคัน หรืออาการแพ้อื่นๆ ได้ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม : ให้นมลูกกินส้มได้ไหม !? แม่ลูกอ่อนกินเปรี้ยว ลูกจะท้องเสียหรือเปล่า
3. เชอร์รี่
เชอร์รี่อาจมีสารก่อภูมิแพ้ที่สามารถส่งผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูกน้อยได้ ทำให้เด็กเกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน ปากบวม หรือปัญหาทางเดินหายใจ และมีปริมาณก๊าซในจำนวนมาก อาจทำให้ลูกมีอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือปวดท้องได้ค่ะ
4. ผลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีรสชาติเปรี้ยวเกือบทุกชนิดคุณแม่ให้นมควรหลีกเลี่ยงค่ะ ผลเบอรี่บางชนิดมีกากใยสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ระบบย่อยอาหารของลูกน้อยที่ยังไม่แข็งแรงทำงานหนักขึ้น บางชนิดอาจมีสารที่อาจระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารของลูกน้อยได้ ซึ่งส่งผลให้ลูกน้อยมีอาการแพ้ได้ง่าย เช่น ท้องอืด ท้องเสีย ผื่นขึ้น หรือร้องไห้บ่อย แต่ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่คุณแม่สามารถกินได้ คือ บลูเบอร์รี่ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้คุณแม่และลูกน้อยค่ะ
8 ผัก สร้างน้ำนม ตัวช่วยคุณแม่เพิ่มปริมาณน้ำนม
นอกจากการให้นมบ่อยและถูกวิธีแล้ว การกินอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 ตัวช่วยเพิ่มน้ำนม ที่คุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ง่ายๆ เพื่อให้มีน้ำนมที่เพียงพอสำหรับลูกน้อยค่ะ
1. หัวปลี
มีส่วนช่วยในการบำรุงน้ำนมได้เป็นอย่างดี เนื่องจากหัวปลีอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น ธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ แคลเซียมและฟอสฟอรัส เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับทั้งคุณแม่และลูกน้อย ซึ่งล้วนแต่มีบทบาทสำคัญในการผลิตน้ำนม นอกจากนี้ยังมี วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูก อีกด้วยค่ะ
2. มะรุม
มะรุมถือเป็นสุดยอดอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงร่างกายและเพิ่มปริมาณน้ำนมได้เป็นอย่างดี สารอาหารต่างๆ ในมะรุม เช่น วิตามินบี โปรตีน และแร่ธาตุ ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนโปรแลคติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างน้ำนม ทำให้น้ำนมมีปริมาณมากขึ้น อีกทั้งยังมีวิตามินซี แคลเซียม เหล็ก และโปรตีน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงเลือด และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
3. ขิง
มีสารอาหาร เช่น แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี ขิงมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงต่อมน้ำนมด้วยและช่วยเพิ่มการผลิตน้ำนมได้เป็นอย่างดี ยังช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในคุณแม่หลังคลอด ทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวมากขึ้น และมีอารมณ์อยากกินอาหารเพิ่มขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำนมได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
4. ตำลึง
ตำลึงอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค และแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก แคลเซียม ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง มีสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม ทำให้คุณแม่มีน้ำนมให้ลูกน้อยได้อย่างเพียงพอ และมีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูก
5. ใบกะเพรา
ใบกะเพราช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน มีแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ทั้งของคุณแม่และลูกน้อย และยังมีส่วนช่วยในการผลิตน้ำนม อีกทั้งยังช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ทำให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น
6. ใบแมงลัก
ใบแมงลักมีสรรพคุณในการบำรุงโลหิตและกระตุ้นการหลั่งน้ำนม ทำให้คุณแม่มีน้ำนมให้ลูกน้อยเพิ่มขึ้น และมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี และวิตามินซี สูงมาก ที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ใบแมงลักมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้คุณแม่ไม่ง่ายต่อการเจ็บป่วยด้วยค่ะ
7. ฟักทอง
ฟักทองเป็นอีกหนึ่งอาหารที่คุณแม่ให้นมลูกควรกิน เพราะมีส่วนช่วยในการบำรุงน้ำนมได้ดีเช่นกันค่ะ นอกจากจะมีรสชาติหวานอร่อยแล้ว ฟักทองยังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย โดยเฉพาะวิตามินเอ ฟอสฟอรัส และเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการ เพิ่มปริมาณน้ำนม บำรุงสายตา เสริมสร้างกระดูก และเพิ่มภูมิคุ้มกัน
8. กุยช่าย
เป็นอีกหนึ่งพืชผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณแม่ให้นมลูกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยบำรุงน้ำนมให้เพียงพอต่อลูกน้อย กุยช่ายอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิดที่จำเป็นต่อการผลิตน้ำนม เช่น แคลเซียมและฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินซี เบต้าแคโรทีน เป็นต้น
การเลือกกินอาหารให้หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ให้นมลูก มังคุดเป็นเพียงหนึ่งในตัวเลือกที่ดี แต่คุณแม่สามารถเลือกทานผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้อีกมากมาย เช่น กล้วย มะละกอ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
ที่มา : romper.com , คนท้อง.com , โรงพยาบาบบางปะกอก 3 , BIM100APCO.COM , women.trueid.net , Sanook Women , hellokhunmor
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
10 เช็คลิสต์อาหาร ให้นมลูกห้ามกินอะไร ? เพื่อสุขภาพของแม่และพัฒนาการลูกรัก
ปั๊มนมกี่นาที ? นมแม่ ยิ่งปั๊มยิ่งเยอะ จริงไหม ?
ให้นมลูกกินมะม่วงได้ไหม ส่งผลอะไรต่อลูกหรือเปล่า
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!