เมื่อใกล้เวลาเปิดเทอม คุณพ่อคุณแม่อาจกังวลใจหลายอย่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเครื่องแต่งกาย หรือการเดินทางไปส่งลูก อย่างไรก็ตาม สำหรับการเข้าเรียนชั้นประถมอาจมีความแตกต่างจากการเรียนอนุบาลเป็นอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องของร่างกายและจิตใจของลูก วันนี้เราจะพามาดูกันว่า เตรียมพร้อมเข้า ป 1 ต้องเตรียมอะไรให้ลูกบ้าง ไปติดตามกันค่ะ
เตรียมความพร้อมด้านอารมณ์
อันดับแรกเลย การเตรียมพร้อมด้านอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กเป็นอย่างมาก เพราะเด็กที่กำลังจะเข้าสู่วัยเรียนจะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง และแสดงอารมณ์ออกมาบ่อย ๆ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรช่วยให้ลูกอารมณ์ดี โดยใช้วิธีดังต่อไปนี้
การฝึกลูกเข้าสังคม เรียกได้เลยว่าเป็นเรื่องสำคัญ หากลูกของคุณเข้าเรียนในระดับชั้นอนุบาลมาก่อน ก็อาจมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนในโรงเรียนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก แนะนำว่าให้คุณพ่อคุณแม่นัดลูกเล่นกับเพื่อนใหม่ก่อน เพื่อให้เขาได้ทำความรู้จักกับเด็กคนอื่น อีกทั้งยังเป็นการช่วยพัฒนาทักษะการเข้าสังคมของลูกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นทักษะที่จำเป็นของเด็ก
การทำความรู้จักสถานที่และผู้คนใหม่ ๆ อาจเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเด็ก อย่างไรก็ตาม การพาลูกไปดูโรงเรียนก่อนจะช่วยลดความตื่นเต้นของเขาได้ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปดูโรงเรียนเพื่อช่วยให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการพาไปดูห้องเรียน ไปดูสนามเด็กเล่น และพบครูประจำชั้น สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถเข้ากับโรงเรียนได้ แต่หากคุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกเรียนโรงเรียนเดิม ก็อาจพาเข้าไปพูดคุยกับครูและผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ก็ได้ค่ะ รับรองว่าช่วยให้เขาปรับตัวได้เร็ว
-
ปล่อยให้ลูกตื่นเต้นกับการเข้าเรียน
แม้ว่าการปล่อยให้ลูกตื่นเต้นกับการเข้าเรียนจะเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้เขาได้มีโอกาสแสดงอารมณ์ตัวเอง ก็จะช่วยให้ลูกเตรียมความพร้อมทางอารมณ์ได้ ซึ่งการปล่อยให้ลูกตื่นเต้นที่ว่านี้ เช่น การให้ลูกอ่านหนังสือที่ตัวเองเรียน การลองชุดนักเรียน หรือการซื้อเครื่องเขียนต่าง ๆ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ลูกเพลิดเพลินและรอคอยที่จะได้เข้าเรียนค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เตรียมลูกก่อนเข้าอนุบาล พ่อแม่ควรสอนลูกเรื่องอะไรบ้าง ทักษะอะไรที่ลูกควรมี!
เตรียมความพร้อมด้านพัฒนาการ
ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมถัดมา คือการเตรียมความพร้อมด้านพัฒนาการ สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีพ่อแม่คอยช่วย ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการเรียนในโรงเรียนเป็นอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่สามารถเตรียมความพร้อมให้ลูกได้ด้วยวิธีดังนี้
รู้หรือไม่ว่าการสอนลูกใช้ห้องน้ำ ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ หากลูกของคุณเข้าห้องน้ำเป็น ก็จะรู้จักการดูแลสุขอนามัยของตัวเองได้ ดังนั้น เด็กในวัยนี้ควรรู้จักวิธีอาบน้ำ วิธีเช็ดตัว ล้างมือ และถอดเสื้อผ้าเองได้โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่คอยสอน ซึ่งเมื่อลูกใช้ห้องน้ำเป็นแล้ว ก็จะช่วยให้เข้ากล้าเข้าห้องน้ำที่โรงเรียนได้ด้วย
-
สอนลูกให้รู้จักทำความสะอาดร่างกาย
นอกจากการสอนลูกใช้ห้องน้ำแล้ว การทำความสะอาดร่างกายก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ เพราะเด็กในวัยนี้มักเล่นซนจนอาจไปโดนโคลน น้ำ สี หรือทราย ซึ่งก่อให้เกิดความสกปรกนั่นเอง คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนไม่ให้ลูกเล่นกับสิ่งสกปรกเหล่านี้ และควรสอนลูกล้างมืออย่างถูกวิธี เพื่อที่เขาได้เห็นการทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนร่างกายตัวเอง
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกให้แต่งตัวเป็น เพราะการเรียนพละหรือการทำกิจกรรมบางวิชา อาจต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย เพราะฉะนั้น หากลูกของคุณสามารถแต่งตัวได้ด้วยตัวเอง ก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าลูกจะต้องพึ่งพาใคร ที่สำคัญสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สอนลูกควรจะสอนตั้งแต่วิธีการใส่เสื้อ สอนลูกใส่ถุงเท้า ใส่รองเท้า เพื่อให้ลูกตัวสามารถแต่งตัวเองได้
การสอนลูกกินข้าวในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงสอนให้ลูกจับช้อนกินข้าว แต่เป็นการสอนมารยาทบนโต๊ะอาหาร ว่าการกินข้าวที่ดีควรเป็นอย่างไร เช่น ไม่ควรกินเลอะเทอะ กินแบบเร่งรีบ หรือกินไปด้วยพูดไปด้วย เพราะนอกจากจะทำให้เกิดคราบสกปรกแล้ว ยังเป็นการเสียมารยาทอีกด้วย นอกจากนี้ หากลูกของคุณเป็นคนเลือกกิน คุณพ่อคุณแม่ก็อาจสอนลูกให้พยายามกินอาหารนั้น ๆ หรือส่งเสริมให้ลูกกินอาหารอื่น ๆ แทนที่มีประโยชน์และได้รับสารอาหารครบถ้วน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กเริ่มเรียน ได้ตอนไหน เตรียมตัวลูกก่อนเข้าเรียนอนุบาลอย่างไรดี?
เตรียมความพร้อมด้านการเรียนรู้
ช่วงแรกของการเข้าเรียนชั้นประถม อาจประกอบไปด้วยการเรียนผ่านการเล่นกิจกรรมเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของลูกให้สามารถอ่านออกเขียนได้ เพื่อที่จะช่วยให้เขาเริ่มการเรียนได้ดีและเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นได้เร็ว โดยขั้นตอนการเตรียมความพร้อมการเรียนรู้ มีดังนี้
อย่างหนึ่งที่เด็ก ๆ จะต้องเรียนในปีแรก คือ การอ่านคำ ท่องศัพท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมให้ลูกรู้จักหนังสือและภาษาตั้งแต่อายุน้อย ก็จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการการเรียนที่ดี โดยคุณพ่อคุณแม่อาจพาลูกมาอ่านหนังสือด้วย พูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ หรือปล่อยให้ลูกอ่านหนังสือเอง พยายามทำสิ่งนี้เป็นกิจวัตรประจำวัน ก็จะช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของตัวเองได้เร็ว
-
สอนลูกให้รู้จักชื่อตัวเอง
เชื่อไหมคะว่าการสอนลูกให้รู้จักชื่อตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ก่อนที่เด็ก ๆ จะเริ่มเขียนชื่อของตัวเองได้ เขาจะต้องจำรูปแบบและตัวอักษรในชื่อของเขา วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ลูกจดจำชื่อตัวเองได้เร็ว คือการติดป้ายชื่อลูกบนข้าวของต่าง ๆ วิธีนี้จะช่วยให้เขาจดจำชื่อตัวเองได้ และเมื่อลูกสามารถจำชื่อตัวเองได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถสอนลูกเขียนชื่อตัวเองได้เลยค่ะ
หากลูกของคุณสามารถนับเลขได้ตั้งแต่เด็ก ก็จะช่วยให้เขาสามารถเรียนรู้ได้เร็ว เพราะตัวเลขเป็นสิ่งสำคัญต่อการเรียนมาก ไม่ว่าจะเป็นวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เกมหรือเพลงพาลูกนับเลขได้นะคะ รับรองว่าลูกจะจำได้ง่ายแถมไม่น่าเบื่ออีกด้วย
-
ปล่อยให้ลูกได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
ในช่วงสัปดาห์แรกของการเรียน ลูกของคุณอาจรู้สึกเหนื่อยมาก เพราะต้องเรียนทั้งวัน ดังนั้น เมื่อลูกกลับถึงบ้าน พยายามไม่ชวนลูกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือพาออกไปไหนนะคะ ให้เขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อน หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ ค่อย ๆ พาลูกออกไปทำกิจกรรมได้ค่ะ เพราะเขาจะเริ่มปรับตัวได้แล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีแก้ปัญหาลูกไม่อยากไปโรงเรียน เตรียมลูกเข้าโรงเรียนอนุบาล การสร้างแรงจูงใจให้ลูกไปโรงเรียน
ของใช้และอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมให้ลูก
นอกจากการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจของลูกแล้ว การเตรียมอุปกรณ์และของใช้ให้ลูกก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน โดยตัวอย่างของอุปกรณ์และของใช้สำหรับเด็กเข้าป.1 เช่น
- ชุดพละ ชุดว่ายน้ำ และผ้าเช็ดตัว
- ชุดสำรอง เช่น เสื้อผ้า กางเกงใน ชุดชั้นใน
- กระเป๋าสะพายที่นุ่มสบาย ขนาดพอดีกับตัวลูก
- แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หวี และกระติกใส่น้ำ
- กล่องดินสอ ชุดเครื่อง ดินสอสี ดินสอดำ ไม้บรรทัด และยางลบ
- เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ถุงเท้านักเรียน รองเท้านักเรียน และรองเท้าพละ
เตรียมพร้อมเข้า ป 1 ให้ลูกอาจไม่ใช่เรื่องที่ยาก หากคุณพ่อคุณแม่เตรียมตัวเด็กมาเป็นอย่างดี ลูกก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และสนุกกับการเรียนชั้นประถม นอกจากนี้ หากคุณพ่อแม่มีเวลาและคอยให้กำลังใจลูกบ่อย ๆ รับรองเลยว่าลูกจะมีความสุขและเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เตรียมพ่อแม่พร้อมรับมือ ปัญหาวัยอนุบาลที่ลูกต้องเจอแน่ ๆ
ช่วยด้วย! พ่อแม่ต้องทำอย่างไรดีเมื่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียน
ควรให้ลูกควรเข้าโรงเรียนตอนกี่ขวบ ตอบคำถามคาใจกี่ขวบถึงควรจะฝึก
ที่มา : penguin, parentsone
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!