อาการครรภ์เป็นพิษ เกิดจากอะไร
อาการครรภ์เป็นพิษ เป็นอาการที่ผิดปกติของหญิงตั้งครรภ์ โดยจะมีอาการร่วม 3 ประการ คือ อาการบวม ความดันโลหิตสูง และสารไข่ขาวในปัสสาวะ ส่วนใหญ่จะพบเมื่อมีการตั้งครรภ์ได้ 5-6 เดือนขึ้นไป จนกระทั่งหลังคลอด 1 สัปดาห์ โดยอาการครรภ์เป็นพิษจะถูกแบ่งออกเป็น 2 อาการ คือ
- พรีอีแคลมป์เชีย (preeclampsia) จะทำให้คุณแม่มีอาการบวม ความดันโลหิตสูง และมีสารไข่ขาวในปัสสาวะ แต่ไม่มีอาการชักหรือหมดสติแต่อย่างใด
- อีแคลมป์เชีย (eclampsia) จะทำให้คุณแม่มีอาการบวม ความดันโลหิตสูง มีสารไข่ขาวในปัสสาวะ และมีอาการชักหรือหมดสติ ซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตลงได้
สาหตุที่ทำให้คนท้องมีอาการครรภ์เป็นพิษ
สำหรับสาเหตุของครรภ์เป็นพิษยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่นัก ระยะเวลาและความรุนแรงของการเกิดโรคก็ไม่มีความแน่นอน ต้องรอให้อาการแสดงก่อนคุณหมอจึงจะวินิจฉัยได้ แต่มีการสันนิษฐานจากหลักฐานที่ทีมีว่า อาการครรภ์เป็นพิษ เกิดจากที่รกสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อเข้าสู่กระแสเลือดของคุณแม่จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง และเกิดเป็นภาวะครรภ์เป็นพิษได้ โดยปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดครรภ์เป็นพิษ มีดังต่อไปนี้
- คุณแม่ตั้งครรภ์ในขณะอายุที่น้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 35 ปี
- เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรก
- มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
- ตั้งครรภ์แฝด
- ตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก คือ อาการที่เนื่อเยื่อรกที่มากกว่าผิดปกติ ทำให้มีอาการท้องโตเหมือนคนท้องแต่ไม่มีเด็ก เมื่อมีการลอกตัวออกมา จะมีเลือดออกทางช่องคลอดมีก้อนเล็กๆ คล้ายไข่ปลา
- มีประวัติครรภ์เป็นพิษหรือหลอดเลือดหัวใจในครอบครัว
- มีโรคประจำตัว หรือโรคแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต เบาหวาน โรคแพ้ภูมิตนเอง (SLE) ข้ออักเสบรูมาตอยด์
- มีประวัติการเกิดครรภ์เป็นพิษ ทั้งจากตัวคุณแม่เอง หรือทางเครือญาติ
ลักษณะอาการของครรภ์เป็นพิษ
- ปวดหัวรุนแรง
- มีอาการตาพร่ามัว มองเห็นแสงเป็นจุดๆ หรือเห็นแสงวูบวาบร่
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดตรงใต้ลิ้นปี่
- บวมตามมือ ตามเท้า และใบหน้า
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากเกินไปอย่างรวดเร็วใน 1 -2 วัน
- ปัสสาวะลดลงหรือปัสสาวะไม่ออก
- ปวดศีรษะโดยเฉพาะบริเวณท้ายทอย หน้าผาก
- ความดันโลหิตสูงกว่า 130/80
- อาจมีการชัก หรือหมดสติ (อันตรายมาก)
- บางรายมีอาการมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก เอนไซม์ตับขึ้นสูง และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
อาการครรภ์เป็นพิษ
อาการครรภ์เป็นพิษกระทบต่อลูกในท้องอย่างไร
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคลมชัก
- เกิดน้ำในปอด
- เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
- มีเลือดออกจากตับ
- สูญเสียการมองเห็น
- ทารกในครรภ์เติบโตช้า
- น้ำคร่ำน้อย ทำให้ทารกเติบโตผิดปกติ
- ทารกคลอดก่อนกำหนด
- มีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด
- ทารกเสียชีวิตในครรภ์
คนที่มีอาการครรภ์เป็นพิษควรทำอย่างไร
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- อย่าปล่อยให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจนมากเกินไป (ตามเกณฑ์ขึ้นเดือนละไม่เกิน 2 กิโลกรัม)
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เค็มจัด
- พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
- ไม่ควรทำอะไรที่เหนื่อยจนเกินไป
- หลีกเลี่ยงการดื่มชา หรือกาแฟ
- พยายามยกขาสูงเมื่อมีโอกาสเช่น ขณะนั่ง นอน
- งดมีเพศสัมพันธ์ เพราะในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์อาจทำให้หัวใจเต้นสูง เกิดเป็นความดันสูงได้
อาการแบบไหนที่ควรมาพบแพทย์ด่วน
ในกรณีที่คุณแม่ได้รับการวินิจฉัยจากคุณหมอแล้วว่ามีอาการครรภ์เป็นพิษ คุณแม่ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด และคอยสังเกตุอาการตัวเองอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
- มีความดันโลหิตที่สูงหว่าหรือเท่ากับ 160/110
- ลูกดิ้นน้อยกว่าวันละ 10 ครั้ง
- มีอาการน้ำเดิน หรือมีน้ำไหลออกจากช่องคลอด
- มีอาการปวดหัวรุนแรง ตาพร่ามัว พร้อมกับจุกแน่นที่ลิ้นปี่
ที่มา: thaihealth, หนังสือพิมพ์แนวหน้า, haamor
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
อาหารต้านหวัดคนท้อง เมนูอาหารต้านหวัด แก้ไอ เสริมสร้างภูมิต้านทานคนท้อง
คนท้องดื่มน้ํากี่ลิตร คนท้องกินน้ําเย็นดีไหม คนท้องกินน้ำมากเป็นไรไหม แม่ท้องต้องกินน้ำกี่แก้วต่อวัน
ท้องแล้วไม่อยากกินข้าว เบื่ออาหาร มีวิธีแก้ไหม คนท้องควรทำอย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!