ลูกป่วยบ่อย ทำไงดี
ลูกป่วยบ่อยทำไงดี เป็นเรื่องทำให้คุณพ่อคุณแม่กลุ้มใจอยู่ไม่น้อย ด้วยความที่ภูมิต้านทานของลูกน้อยยังแข็งแรงไม่เพียงพอ จึงอาจเป็นสาตุที่ทำให้ลูกป่วยบ่อย นอกจากนั้นแล้ว สภาพแวดล้อม หรือสิ่งต่างๆรอบตัวก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกป่วยบ่อยได้เช่นกัน

7 วิธีช่วยให้ลูกไม่ป่วยบ่อย
คุณแม่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของลูก ไม่ให้ลูกป่วยบ่อย ได้ด้วย 7 วิธีง่ายๆ ดังนี้
#1 เลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ในน้ำนมแม่จะมีภูมิต้านทาน แอนติบอดี้ และเซลล์เม็ดเลือดขาว ที่ทำหน้าที่ปกป้องลูกน้อยจาก โรคหูติดเชื้อในเด็ก โรคภูมิแพ้ โรคท้องร่วง โรคปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และโรคไหลตายในเด็ก โดยเฉพาะโคลอสตรัม หรือน้ำนมเหลืองที่ไหลออกมาในช่วงสองสามวันแรกหลังคลอด ที่อุดมไปด้วยแอนติบอดี้ที่จำเป็นในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ อีกทั้งจากการศึกษาวิจัยพบว่า น้ำนมแม่มีส่วนช่วยในการเพิ่มพลังสมองของทารก และช่วยป้องกันโรคเบาหวาน โรคลำไส้อักเสบ และโรคมะเร็งบางชนิดได้
#2 รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น
สำหรับเด็กในวัยที่สามารถทานอาหารแข็งได้แล้ว ควรให้เค้าทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น ไฟโตนิวเทรียนท์ ในผักและผลไม้ เช่น แครอท ถั่วเขียว ส้ม สตรอเบอรรี่ มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจได้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกวัยหัดเดิน รับประทานผักและผลไม้ในปริมาณ 10 ช้อนโต๊ะ ต่อวัน และ 1 ถ้วยต่อวัน สำหรับเด็กโต
#3 นอนหลับให้เพียงพอ
หากลูกน้อยนอนหลับไม่เพียงพอ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ ลูกป่วยบ่อย และหากลูกของคุณไม่นอนกลางวัน ก็ควรพาลูกเข้านอนตอนกลางคืนให้เร็วขึ้นนะครับ
เด็กควรนอนนานแค่ไหน? :
- ทารกแรกเกิดควรนอนไม่ต่ำกว่า 18 ชั่วโมงต่อวัน
- เด็กวัยหัดเดินควรนอนประมาณ 12-13 ชั่วโมงต่อวัน
- เด็กก่อนวัยเรียนควรนอนประมาณ 10 ชั่วโมงต่อวัน
ติดตามต่อหน้าถัดไป >>>>
#4 ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
แม้ว่าการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค จะไม่ได้เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้กับลูกน้อยได้โดยตรง แต่ก็เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันอาการป่วยของลูกได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเอาใจใส่ในเรื่องสุขอนามัย ควรฝึกนิสัยการล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่อยู่เสมอ คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้เขาเลือกผ้าเช็ดมือของเขาเองที่มีสีสันสดใส รวมถึงให้เลือกสบู่ที่มีกลิ่นที่เขาชอบได้เอง
คุณพ่อคุณแม่ควรเน้นเรื่องความสะอาดทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังจากออกไปเล่นนอกบ้าน หลังจากเล่นกับสัตว์เลี้ยง และควรสอนลูกเรื่องการจาม การใช้ห้องน้ำ
หากลูกป่วย แนะนำให้ทิ้งแปรงสีฟันของลูกทันที โดยทันตแพทย์หญิง บาร์บารา ริช โฆษกของสถาบันทันตกรรมทั่วไปกล่าวว่า ปกติแล้วเด็กจะไม่ติดเชื้อไวรัสตัวเดียวกันซ้ำสองครั้ง แต่ไวรัสสามารถแพร่จากแปรงสีฟันของลูกไปยังสมาชิกคนอื่นในครอบครัวได้ แต่หากเป็นเชื้อแบคทีเรีย เช่น คออักเสบ เด็กสามารถเป็นซ้ำได้ การทิ้งแปรงสีฟันเป็นการปกป้องลูก รวมถึงคนอื่นๆ ในครอบครัวของคุณจากโรคต่างๆได้อีกทาง

#5 หลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง
หากคุณพ่อหรือคุณแม่สูบบุหรี่ ก็อาจทำให้ลูกได้รับควันบุหรี่ หรือกลิ่นบุหรี่ ที่เป็นสาเหตุทำให้ ลูกป่วยบ่อย ดังนั้น คุณควรเลิกสูบบุหรี่จะดีที่สุด สารท็อกซินจากบุหรี่เป็นอันตรายต่อเซลล์ในร่างกาย ดร. เบเวอรี่ คิงสลีย์ นักระบาดวิทยา ในแอตแลนตา กล่าวว่า เด็กมีความไวที่จะได้รับควันบุหรี่มือสองมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กหายใจในอัตราที่เร็วกว่า และภูมิคุ้มกันของเด็กนั้นยังพัฒนาไม่เต็มที่
นอกจากนี้ ควันบุหรี่มือสอง ยังเพิ่มความเสี่ยงของภาวะ SIDS หรือโรคไหลตายในเด็ก โรคหลอดลมอักเสบ โรคติดเชื้อที่หู และโรคหอบหืด นอกจากนี้ ยังส่งผลเสียต่อสมอง และการพัฒนาระบบประสาทของลูกน้อยอีกด้วย และไม่ใช่บุหรี่จะเป็นตัวการทำร้ายลูกน้อยอย่างเดียวนะครับ แต่บุหรี่ยังส่งผลเสียกับคุณพ่อหรือคุณแม่ที่เป็นผู้สูบอีกด้วย
#6 อยู่กับธรรมชาติ
คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยไปสัมผัสกับธรรมชาติ ให้เค้าได้อยู่กับต้นไม้ใหญ่ ต้นหญ้า โดยอาจจะพาไปออกกำลังกาย เดินเล่น ที่สวนสาธารณะ ดีกว่าไปในที่คนพลุกพล่าน อย่างเช่นห้างสรรพสินค้า ที่อาจจะเป็นแหล่งสะสมและแพร่เชื้อโรค แต่อย่าให้ลูกตากแดดจัดนะครับ
#7 ไปพบแพทย์ ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายของลูกน้อยอยู่ตลอด โดยมากไข้จะขึ้นช่วงเย็นๆ หรือช่วงประมาณสี่ทุ่งถึงเที่ยงคืน แล้วก็ตอนเช้ามืด และควรให้ลูกทานยาตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัดนะครับ
ที่มา parents.com
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
วิธีทำความสะอาดลิ้นลูก แบบง่ายๆ พร้อมวีดีโอสาธิต
ลูกตื่นบ่อยตอนกลางคืน กลางวันง่วง กลางคืนตาแป๋ว แม่ไม่ได้นอนเลย ทำไงดี

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!