อาการหายใจไม่สะดวก หายใจติดขัดมักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากในช่วงตั้งท้องนั้น ร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่ม วันนี้ theAsianparent Thailand จะพาคุณแม่ทุกท่านมาดูกันว่าทำไม คนท้องหายใจไม่สะดวก เกิดจากสาเหตุอะไร และมีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้คุณแม่หายใจสะดวกมากขึ้น พร้อมแล้ว ไปดูพร้อมกัน
คนท้องหายใจไม่สะดวก เกิดจากอะไร?
อาการหายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ ทำให้ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้น โดยฮอร์โมนเหล่านี้จะกระตุ้นให้สมองต้องการออกซิเจนมากขึ้น เพื่อให้ลูกในครรภ์รับออกซิเจนที่เพียงพอในการหายใจ ทำให้คุณแม่อาจรู้สึกเหมือนไม่สามารถหายใจได้เต็มปอด และต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เสมอ ทั้งนี้คุณแม่สามารถเผชิญกับอาการหายใจไม่สะดวกตามไตรมาส ดังต่อไปนี้
เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สมองมีความต้องการออกซิเจน เพื่อให้ลูกในครรภ์ได้มีออกซิเจนที่เพียงพอ ทำให้คุณแม่ต้องหายใจลึก และถี่อยู่เสมอ อย่างไรก็ตามอาการดังกล่าว อาจเกิดคุณกับคุณแม่บางคนเท่านั้น
ในช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสที่สอง คุณแม่จะเริ่มมีอาการที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะน้ำหนักตัว ซึ่งหากคุณแม่คนไหนที่ตั้งครรภ์ลูกแฝด ก็อาจมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมดลูก และผนังทรวงอกมีการขยายตัวมากขึ้น ส่งผลต่อความจุของปอด จนทำให้หายใจไม่สะดวกนั่นเอง
การเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้มดลูกมีการขยายใหญ่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ไปเบียดอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะกะบังลมที่ถูกดันสูงขึ้น และปอดที่ถูกกดทับ ทำให้คุณแม่หายใจไม่สะดวก และหายใจลำบาก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าอาการหายใจสะดวก หายใจไม่อิ่มจะเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ เพราะทารกในครรภ์มีการเก็บสะสมออกซิเจนไว้อย่างเพียงพอผ่านทางรก
บทความที่เกี่ยวข้อง : หายใจลำบาก อาการหายใจลำบากเกิดจากอะไร พร้อมวิธีรักษา
ภาวะแทรกซ้อนของอาการหายใจไม่สะดวก
อาการหายใจไม่สะดวก เป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายได้ เช่น
- โรคหอบหืด : สำหรับคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด อาจมีปัญหาในการหายใจที่รุนแรงมากขึ้น และอาจร้ายแรงถึงขั้นกระทบต่อชีวิตแม่ และลูกในครรภ์ได้ ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืดควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาการหายใจไม่อิ่ม อาจรุนแรงมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาส 3
- ปอดบวม : คุณแม่ที่มีอาการหายใจไม่สะดวกที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ อาจมีโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ปอดบวม เป็นต้น
- โลหิตจาง : หากผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจาง อาจเกิดอาการหายใจไม่อิ่มระหว่างตั้งครรภ์ได้ โดยคุณแม่อาจมีอาการปวดศีรษะ เหนื่อยล้า และมีริมฝีปาก หรือปลายนิ้วที่ซีด และออกสีม่วง
- โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด : คุณแม่ที่มีอาการเจ็บขณะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วมากขึ้น อาจเกิดโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปิดได้ แม้ว่าโรคนี้จะไม่ปรากฏบ่อยนัก แต่หากเป็นแล้ว ก็อาจป่วยอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
รับมืออย่างไรเมื่อมีอาการหายใจไม่สะดวก?
สำหรับคุณแม่ที่มีอาการหายใจไม่สะดวก หายใจลำบากขณะตั้งครรภ์ สามารถใช้วิธีดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกเพิ่มขึ้น
- นั่งหลังตรง : การนั่งพักหลังตรงบนเก้าอี้หรือโซฟา ให้อกผายไหล่ผึ่ง จะช่วยให้ปอดขยาย และเพิ่มความจุของอากาศภายในปอดได้ ส่งผลให้คุณแม่หายใจสะดวกมากขึ้น
- นอนหมอนหนุนสูง : คุณแม่สามารถใช้หมอนหนุนศีรษะขณะนอนหลับ เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่กะบังลมถูกดันให้สูงขึ้น
- เคลื่อนไหวให้น้อยลง : พยายามเคลื่อนไหวให้น้อยลง ไม่เร่งรีบในการทำกิจกรรมต่าง ๆ และค่อย ๆ ทำอย่างใจเย็น ก็จะช่วยให้หายใจได้ดียิ่งขึ้น
- ไม่ทำงานหนัก : การทำงานหนัก หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงตั้งครรภ์ อาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อย และหายใจไม่ทัน จนเกิดอาการหายใจไม่สะดวกได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรนั่งพักชั่วครู่ แล้วค่อยเริ่มทำงานหรือทำกิจกรรมต่อ
- นอนตะแคง : เมื่อคุณแม่รู้สึกหายใจไม่สะดวก สามารถนอนตะแคงเพื่อช่วยหายใจสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยคุณแม่สามารถนอนตะแคงทางด้านซ้าย เพื่อให้มดลูกไม่กดทับเส้นเลือด ก็จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี และหายใจโล่งมากขึ้น
- หากิจกรรมคลายเครียด : การทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อคลายความเครียด สามารถช่วยขจัดความวิตกกังวลซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะหายใจไม่อิ่มได้ โดยคุณแม่สามารถเลือกทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือนอนหลับเพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้น
- ออกกำลังกาย : การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว ๆ วิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือเล่นโยคะ สามารถช่วยพัฒนาการหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนออกกำลังกาย เพื่อความปลอดภัย และความเหมาะสม
- อดทน : แน่นอนว่าอาการหายใจไม่สะดวก อาจทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัด และไม่สบายตัว แต่คุณแม่สามารถอดทน อดกลั้น เพราะหลังจากที่คลอดลูกแล้ว คุณแม่ก็จะสามารถกลับมาหายใจได้เป็นปกติ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ระบบการหายใจผิดปกติ หายใจลำบากคืออะไร? พร้อมวิธีรักษา
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์?
อย่างที่ทราบกันว่าอาการหายใจไม่สะดวก เกิดจากการที่ระดับของฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง จนส่งผลให้ร่างกายไปกระตุ้นสมองให้รับออกซิเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากคุณแม่มีอาการดังต่อไปนี้เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยต่อไป
- ผิวซีด
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- รู้สึกมีอาการจะเป็นลม
- รู้สึกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
- เจ็บหน้าอก หายใจแล้วรู้สึกเจ็บ
- ริมฝีปาก นิ้วมือ และนิ้วเท้าซีด หรือมีสีม่วง
- ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด และไอร่วมกับการมีไข้
- มีอาการหายไม่สะดวกอย่างรุนแรง เกิดขึ้นโดยเฉียบพลัน
- สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยโรคหืด ร่วมกับหายใจไม่สะดวก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
คนท้องหายใจไม่สะดวก อาจเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นกับคุณแม่ท้องได้ในทุกไตรมาส เพราะร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง จนทำให้เกิดภาวะหายใจไม่สะดวกนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ป่วยเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และมีอาการอื่น ๆ อย่างเช่น เจ็บหน้าอก ไอเรื้อรัง ปากซีด จะเป็นลม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัย และรักษาต่อไป
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรคหอบหืด โรคที่เกี่ยวกับระบบหายใจ อย่าปล่อยไว้ อันตรายถึงชีวิต!
ระบบหายใจ โรคระบบหายใจอาการเป็นอย่างไร วิธีรักษา ระบบ หายใจ
บริหารลมหายใจ ด้วยหลัก จิตประภัสสร ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 78
ที่มา : pobpad, momandbaby
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!