เครื่องดื่มชาเขียว เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่มีบทบาทต่อการดื่มในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง รวมถึงกิน ชาเขียวลดน้ำหนัก เพื่อช่วยลดความอ้วนและลดพุง แต่สาวกชาเขียวก็ต้องระวัง หากบริโภคชาเขียวในปริมาณที่สูงเกินไปก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้เช่นกัน เราจึงมีเคล็ดไม่ลับมาบอกแม่ ๆ ที่ชอบกินชาเขียว กินอย่างไรถึงจะช่วยให้พุงยุบได้ชัวร์ ๆ
ชาเขียวนอกจากเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยต้านโรคภัยได้แล้ว หนึ่งในสรรพคุณของชาเขียวคือ สามารถช่วยลดพุงได้ เพราะมีผลการวิจัยพบว่า การบริโภคสารสกัดจากชาเขียววันละ 3 ครั้ง จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ผลจากการทดลองสำหรับคนที่ดื่มสารสกัดจากชาเขียวใน 24 ชั่วโมงโดยประมาณ จะเกิดจากปฏิกิริยา Oxidation ของไขมัน (การนำไขมันมาใช้พลังงาน) มากกว่าคนที่กินสารสกัดอื่น ๆ เพราะสารคาเตชินจากชาเขียว ที่เมื่อมารวมตัวกับคาเฟอีนแล้วมีความเกี่ยวข้องกันทางสถิติ พบว่า มีการลดลงอย่างเห็นได้ชัดของดัชนีมวลกาย น้ำหนักตัว และขนาดวัดรอบเอว
ชาเขียวลดน้ำหนัก เคล็ดลับหุ่นสวย
หากพูดถึงวิธีลดน้ำหนัก หลายคนอาจนึกถึงการอดอาหาร หรือกินยาลดน้ำหนัก ที่ถึงแม้จะเห็นผลเร็วทันใจ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูง นั่นก็คือการทำให้ระบบเผาผลาญทำงานผิดปกติ เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น อาการใจสั่น, คลื่นไส้, วิงเวียน และยังเสี่ยงโยโย่หรือกลับมาอ้วนซ้ำได้อีกด้วย
ซึ่งจากข้อมูลในอดีตพบว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน หรือน้ำหนักเกินมาตรฐาน เนื่องจากพฤติกรรมการกินอาหารแบบผิด ๆ คือ ตามใจปากมากกว่าคุณค่าทางอาหาร บวกกับหลายคนขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้อ้วนง่ายหรืออ้วนลงพุง แต่อย่าเพิ่งกังวลใจเกินไปเพราะทุกปัญหาย่อมมีทางแก้
ดูแลหุ่นด้วยชาเขียวตัวช่วยจากธรรมชาติ
รู้หรือไม่ว่าชาเขียวมีดีมากกว่าที่คิด โดยมีการศึกษายืนยันว่าชาเขียวช่วยลดน้ำหนักและรอบเอวได้จริง หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ต่อเนื่องกันเป็นเพียงเวลา 3 เดือน นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนเลือกใช้ชาเขียวลดน้ำหนัก เป็นอีกทางเลือกในการควบคุมน้ำหนักและดูแลรูปร่าง
จากการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน พบว่า การรับประทานชาเขียวลดน้ำหนักต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน ช่วยลดน้ำหนักตัวได้ 4.6% และลดรอบเอวได้ 4.48% โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับความดันโลหิต การศึกษาครั้งนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกลงความเห็นว่า “ชาเขียวลดน้ำหนักเป็นทางเลือกจากธรรมชาติที่สามารถใช้ดูแลรูปร่างได้จริง”
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลดน้ำหนักลดพุงด้วยการคุมอาหาร ลดน้ำหนักแบบไม่อดอาหาร ลดน้ำหนักได้ยั่งยืน
ในชาเขียวมีสารอาหารอะไรบ้าง
1. คาเทชีน (catechin)
สารคาเทชีนที่อยู่ในชาเขียว เป็นสารโพลีฟีนอลชนิดหนึ่ง สารชนิดนี้จะมีอยู่ในไวน์, ช็อกโกแลต, ผัก และผลไม้ เวลากินของเหล่านี้จะรู้สึกขม นั่นเป็นเพราะสารชนิดนี้มีหน้าที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ถ้าร่างกายได้รับสารนี้ทุกวัน ยิ่งถ้าได้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย การลดความอ้วนก็จะยิ่งได้ผลดี
ชาเขียวที่ชงจากใบชาด้วยกาชงชา 1แก้ว (1ถ้วยชา 120 ml) จะมีสารคาเทชีนประมาณ 80 กรัม จากผลการวิจัยพบว่าการดื่มชา 4-5 ถ้วยชาต่อวัน (มีคาเทชีนประมาณ 400-588มิลลิกรัม) และดื่มเป็นประจำจะช่วยลดน้ำหนักได้เดือนละ 1 กิโลกรัม โดยเฉพาะคนที่มีไขมันมาก จะเห็นผลได้ชัดจนคนรอบข้างรู้สึกได้
2. คาเฟอีน
คาเฟอีนที่อยู่ในชา จะกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาล (brown adipose tissue) ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น และกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย คาเฟอีนจะจะออกมามากเมื่ออยู่ในน้ำร้อน ดังนั้นเวลาดื่มชาควรเป็นชาร้อน
ชากับบทบาทการดูแลหุ่น
จากการศึกษาพบว่าสารคาเทชีนในชาเขียว ขนาด 270-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยลดน้ำหนักและไขมันได้ ด้วยกระบวนการดังต่อไปนี้
- กระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและไขมัน : ทำให้อัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเพิ่มขึ้น และยังช่วยเพิ่มการสลายไขมันด้วย
- สามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมัน : ช่วยสลายไขมันเก่าที่สะสมอยู่ในเซลล์ต่างๆของร่างกายได้
- ช่วยลดการดูดซึมไขมันและน้ำตาล : สารสำคัญในชาเขียวสกัดจะไปยับยั้งเอนไซม์ไลเปส และแย่งจับกับตัวรับกลูโคส จึงทำให้ไขมันและน้ำตาลดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยลง
- ช่วยลดความอยากอาหาร : ชาเขียวสกัดช่วยทำให้ร่างกายสร้างพลังงาน ATP ขึ้นมาใช้ ส่งผลให้สมองรับรู้ว่ายังไม่ต้องการอาหาร
ทานชามากเท่าไหร่จึงจะเห็นผล ?
ในการควบคุมน้ำหนัก แนะนำให้กินชาเขียวที่มีปริมาณ 375 มิลลิกรัม ครั้งละ 2 แคปซูล ก่อนอาหารเช้า-กลางวัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน ถึงจะเห็นผลอย่างมีนัยยะสำคัญ (หรือเทียบเท่ากับการดื่มเครื่องดื่มชาเขียวประมาณ 6-10 ถ้วย/วัน) ไม่ใช่แค่ผู้ที่ต้องการควบคุมหรือลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ชาเขียวยังมีคุณประโยชน์ที่ตอบโจทย์อีกมาก เนื่องจากในชาเขียวมีสารสำคัญอย่าง EGCG ปริมาณสูงจึงให้ความคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ช่วยล้างพิษในลำไส้ อีกทั้งยังช่วยต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าจะดื่มชาเขียวเมื่อไรก็ได้ หากเราดื่มให้ถูกเวลา ก็จะยิ่งช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย ไม่เชื่อลองทำตามนี้
- ดื่มชาเขียวระหว่างกินข้าว ลดความอยากอาหาร
- ดื่มชาเขียวหลังมื้ออาหาร ช่วยลดความมันในปาก และ ย่อยในเรื่องของการย่อยอาหาร
- ดื่มชาเขียวก่อนนอน ช่วยล้างไขมันสะสมในตอนเช้า
- ดื่มชาเขียวแทนน้ำหวาน หรือ ขนมหวาน
ใครที่ควรรับประทาน ชาเขียวลดน้ำหนัก ?
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมันอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการล้างพิษ เพื่อให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณสดใส
- ผู้ที่ต้องการบำรุงสุขภาพ และลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ
3 วิธีออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้พุงยุบควบคู่ไปกับการดื่มชาเขียว
- ยกดัมเบล 2 เซต เซตละ 20 ครั้ง
- วิ่งสลับเดิน 40 นาที ต่อ 1 วัน
- กระโดดเชือก 2 เซต เซตละ 100 ครั้ง
ทั้งนี้ อธิบดีกรมอนามัยได้กล่าวว่า “การดื่มชาเขียวให้ได้คุณค่าทางโภชนาการ ควรดื่มชาเขียวรสธรรมชาติ ชงสด ๆ ใหม่ ไม่ปรุงแต่งรสด้วยน้ำตาลหรือสารให้ความหวานชนิดต่าง ๆ และนม แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณใบชาที่ใช้ชง หรือความเข้มข้นในการชงแต่ละครั้ง ส่วนการเลือกซื้อเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มที่ขายตามร้านสะดวกซื้อมาบริโภค ควรใส่ใจสุขภาพ ด้วยการอ่านข้อมูลโภชนาการที่ข้างขวด ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชาเขียวที่มีปริมาณคาเฟอีนและน้ำตาลเกินมาตรฐาน และถ้าเลือกซื้อตามรถเข็นหรือร้านจำหน่ายทั่วไป ควรลดน้ำตาลให้น้อยลงด้วย”
ข้อห้ามและข้อควรระวัง หลีกเลี่ยงการดื่มชาเขียวที่เต็มไปด้วยน้ำตาล หรือ ชาเขียวขวดตามร้านสะดวกซื้อ เพราะมีปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก แนะนำชงทานเองจะดีกว่า ดังนั้นขอเตือนตัวโต ๆ หากต้องการคิดจะลดพุงหรือลดน้ำหนัก ด้วยการบริโภคชาเขียวในปริมาณที่มากเกินก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ จึงควรเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
5 วิธี ลดน้ำหนัก เห็นผลไว ไม่โยโย่ น้ำหนักลดแถมสุขภาพดีระยะยาว
เครื่องดื่มลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคืออะไร
ลองหน่อยมั๊ย! ชาเขียวสูตรสตาร์บัคส์ ทำกินได้ง่าย ๆ ที่บ้าน
ที่มา : blackmores, megawecare
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!