ในช่วงตั้งครรภ์ หนึ่งในสัญญาณที่สำคัญของการตรวจสอบสุขภาพของทารกในครรภ์คือการเคลื่อนไหวหรือการดิ้นของลูกน้อย การดิ้นของทารกในครรภ์เป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถสังเกตได้ แต่ในบางครั้ง การดิ้นที่เปลี่ยนแปลงไปอาจเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพของทารกหรือภาวะครรภ์ที่ต้องเฝ้าระวัง วันนี้เรามาศึกษาเกี่ยวกับ ลูกดิ้นแบบไหนอันตราย ไปพร้อมกัน
ทำไมทารกในครรภ์ถึงดิ้น
ทารกในครรภ์ดิ้นเนื่องจากการพัฒนาของกล้ามเนื้อและระบบประสาทที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ การดิ้นของทารกเป็นสัญญาณของการเจริญเติบโตและสุขภาพที่ดี ทารกเริ่มดิ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยการดิ้นของทารกในครรภ์สามารถอธิบายได้จากหลายประการดังนี้
-
การพัฒนากล้ามเนื้อและระบบประสาท
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ทารกในครรภ์จะเริ่มพัฒนากล้ามเนื้อและระบบประสาท การดิ้นของทารกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ ทารกจะเริ่มจากการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การยืดเหยียดแขนขา การหมุนตัว หรือการเปลี่ยนท่าทาง การฝึกฝนการเคลื่อนไหวเหล่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อและระบบประสาทของทารกพัฒนาได้ดีขึ้น
ทารกในครรภ์สามารถรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น เสียง แสง และการสัมผัสจากแม่ เมื่อแม่พูดคุยหรือสัมผัสหน้าท้อง ทารกอาจตอบสนองด้วยการดิ้นเพื่อแสดงความรู้สึกหรือการตอบสนองต่อสิ่งเร้าเหล่านั้น
มดลูกเป็นพื้นที่ที่จำกัดและการเติบโตของทารกทำให้ทารกต้องเปลี่ยนท่าทางบ่อยครั้งเพื่อหาตำแหน่งที่สบาย การดิ้นเป็นวิธีหนึ่งที่ทารกใช้ในการปรับท่าทางและค้นหาตำแหน่งที่เหมาะสม
-
การตอบสนองต่อระดับน้ำตาลในเลือดของแม่
ระดับน้ำตาลในเลือดของแม่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของทารก หลังจากที่แม่ทานอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกระตุ้นให้ทารกดิ้นมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือดทำให้ทารกได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นและทำให้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น
-
การตอบสนองต่อสภาวะแวดล้อมในมดลูก
ทารกอาจดิ้นเพื่อปรับตัวต่อสภาวะแวดล้อมในมดลูก เช่น อุณหภูมิ ความดัน และระดับน้ำคร่ำ การเคลื่อนไหวช่วยให้ทารกรู้สึกสบายและสามารถปรับตัวต่อสภาวะแวดล้อมได้ดีขึ้น
บทความที่น่าสนใจ: 7 อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ไตรมาสสอง ต้องระวัง อาการแบบไหนเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ
ลูกในครรภ์ เริ่มดิ้นตอนไหน
การดิ้นของลูกในครรภ์เป็นการเคลื่อนไหวที่มีความสำคัญสำหรับการติดตามสุขภาพและการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์ ลูกจะเริ่มแสดงการดิ้นอย่างเป็นระยะเวลาหลังจากที่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อของลูกเริ่มพัฒนาและเจริญเติบโตพอสมควร โดยทั่วไปแล้วเริ่มเรียนรู้ถึงการดิ้นเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 4 ของการตั้งครรภ์ การดิ้นนี้เป็นสัญญาณที่ช่วยให้แม่สามารถรับรู้ถึงความเจริญเติบโตและสุขภาพของลูกได้ง่ายขึ้น
การดิ้นของลูกสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ การดิ้นที่มีลักษณะเคลื่อนไหวที่สัมพันธ์กับกิจกรรมของแม่ เช่น เมื่อแม่กินอาหารหรือเคลื่อนไหว ลูกอาจเคลื่อนไหวตามไปด้วย และการดิ้นที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุจากกิจกรรมของแม่ อาจเป็นเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเองของลูก การดิ้นนี้สามารถช่วยในการติดตามสุขภาพของลูกและสามารถเชื่อมโยงกับการประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความถี่และลักษณะของการดิ้นของลูกในครรภ์จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลและสภาพภายในครรภ์ มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาของวัน และสภาพอื่นๆ เช่น การหลับหรือตื่น การเคลื่อนไหวของแม่ หรือแม้แต่สภาวะอารมณ์ของแม่เองก็สามารถมีผลต่อการดิ้นของลูกในครรภ์ได้ด้วย
ทารกในครรภ์ดิ้นช่วงเวลาไหนบ้าง
คุณแม่ควรสังเกตการดิ้นของทารกเป็นประจำ โดยทั่วไปแล้ว ทารกควรดิ้นอย่างน้อย 10 ครั้ง ใน 2 ชั่วโมง หากรู้สึกว่าทารกดิ้นน้อยลง ควรนอนตะแคงซ้าย จับเวลา 2 ชั่วโมง นับจำนวนครั้งที่ทารกดิ้น หากทารกดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้ง ควรไปพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ปกติแล้วทารกในครรภ์สามารถดิ้นได้ตลอดทั้งวัน โดยช่วงเวลาที่มักดิ้นบ่อย คือ
- หลังทานอาหาร: ประมาณ 1 ชั่วโมงหลังทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารมื้อเย็น เพราะน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้น ทำให้ทารกมีพลังงาน
- ก่อนนอน: ช่วงเวลานี้ทารกจะรู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายของคุณแม่สงบ ทารกจึงมีพื้นที่ขยับตัวได้มากกว่า
- ตอนอาบน้ำอุ่น: น้ำอุ่นจะช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย
- ตอนฟังเพลง: เสียงเพลงบางประเภท เช่น เพลงคลาสสิก mozart อาจกระตุ้นให้ทารกดิ้นได้
อย่างไรก็ตามการดิ้นของทารกในครรภ์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุครรภ์ กิจวัตรประจำวันของแม่ อารมณ์ของแม่ ท่าทางของแม่ ฯลฯ
วิธีการนับลูกดิ้น
การนับลูกดิ้นเป็นกระบวนการที่ใช้ในการติดตามความสมบูรณ์และสุขภาพของทารกในครรภ์ การที่ทารกมีการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอและมีความเข้มของการเคลื่อนไหวที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่ดีว่าทารกมีสุขภาพดีอยู่ในครรภ์ โดยวิธีการนับลูกดิ้นที่ใช้กันทั่วไปมีหลายวิธีดังนี้
- การนับจำนวนครั้งที่ทารกเคลื่อนไหว: ในช่วงเวลาที่ทารกมักมีการเตะหรือเคลื่อนไหวมากที่สุด เช่น เช้าและกลางคืน คุณสามารถนับจำนวนครั้งที่ทารกเคลื่อนไหวในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบว่ามีการเคลื่อนไหวเพียงพอต่อปกติหรือไม่
- การนับเวลาที่ทารกเคลื่อนไหว: นับเวลาที่ทารกมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เช่น นับเวลาที่เคลื่อนไหวภายในชั่วโมงหนึ่งหรือสองชั่วโมง เพื่อตรวจสอบว่าทารกมีความเข้มของการเคลื่อนไหวในระยะเวลาที่กำหนด
- การใช้เครื่องมือบันทึกลูกดิ้น: มีเครื่องมือทางการแพทย์หรือแอปพลิเคชันที่ช่วยในการบันทึกลูกดิ้นของทารก เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยในการบันทึกข้อมูลเคลื่อนไหวของทารกได้ตลอดเวลา
การนับลูกดิ้นเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการติดตามสุขภาพของทารกในครรภ์ แต่หากคุณมีคำถามหรือความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับลูกดิ้นหรือสุขภาพของทารก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการประเมินเพิ่มเติมและคำแนะนำที่เหมาะสม
บทความที่น่าสนใจ: 11 สิ่งที่แม่ท้องต้องรู้ น้ำหนักตอนท้อง แท้งคุกคาม วิธีเร่งคลอด โดยคุณหมอสูติ
ลูกในครรภ์ดิ้นแบบไหนคือปกติ
การดิ้นของลูกในครรภ์มีหลายรูปแบบซึ่งถือว่าเป็นปกติ แต่ละครรภ์และลูกน้อยอาจมีลักษณะการดิ้นที่ไม่เหมือนกันไปตามเวลาและการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์ด้วย ซึ่งลูกจะมีการดิ้นบ่อยขึ้นเมื่ออายุของลูกในครรภ์เพิ่มขึ้น โดยการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ที่ปกติ จะมีลักษณะดังนี้
อายุครรภ์ 18-20 สัปดาห์
- รู้สึกเหมือนมีการกระพือปีก หรือสะอึก
- รู้สึกได้เบาๆ
อายุครรภ์ 20-24 สัปดาห์
- รู้สึกถึงการดิ้น เหยียด แขน ขา ชัดเจนขึ้น
- อาจจะรู้สึกถึงการสะกิด กลิ้ง หรือ หมุนตัว
อายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์
- รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่รุนแรงขึ้น
- ทารกอาจจะเปลี่ยนท่าทางบ่อย
- คุณแม่บางรายอาจจะรู้สึกไม่สบายท้องจากการดิ้นของทารก
อายุครรภ์ 28-36 สัปดาห์
- ลักษณะการเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงก่อนหน้า แต่รุนแรงขึ้น
- ทารกอาจจะดิ้นน้อยลงในบางช่วงเวลา
อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไป
- ทารกมีพื้นที่น้อยลงในครรภ์
- การเคลื่อนไหวอาจจะช้าลง แรงน้อยลง
- แต่ยังคงรู้สึกถึงการดิ้นได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ คุณแม่ควรสังเกตการดิ้นของทารกเป็นประจำ โดยทั่วไปแล้ว ทารกควรดิ้นอย่างน้อย 10 ครั้งใน 2 ชั่วโมง หากรู้สึกว่าทารกดิ้นน้อยลง หรือเคลื่อนไหวผิดปกติ ควรนอนตะแคงซ้าย นิ่ง ๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง และนับการดิ้น หากยังรู้สึกว่าทารกดิ้นน้อยลง หรือ เคลื่อนไหวผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที
ลูกดิ้นแบบไหนอันตราย
การที่ลูกดิ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลูกในครรภ์มีสุขภาพดีและกำลังเจริญเติบโต การดิ้นของลูกจะเริ่มรู้สึกได้ชัดเจนในช่วงกลางของการตั้งครรภ์ ประมาณ 18-25 สัปดาห์ โดยทั่วไปการดิ้นของลูกจะมีรูปแบบและความถี่ที่คงที่ในช่วงหลังของการตั้งครรภ์ หากมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ควรให้ความสำคัญและปรึกษาแพทย์ โดยสัญญาณการดิ้นที่อาจบ่งบอกถึงปัญหา มีดังต่อไปนี้
- ปกติแล้วลูกในครรภ์จะดิ้นเป็นประจำทุกวัน การดิ้นที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดอาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ต้องได้รับการตรวจสอบ
- แนะนำให้คุณแม่ลองนับจำนวนครั้งที่ลูกดิ้นในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง โดยทั่วไปควรจะรู้สึกการดิ้นอย่างน้อย 10 ครั้ง ถ้าพบว่ามีการดิ้นน้อยกว่านั้น ควรติดต่อแพทย์ทันที
- หากไม่รู้สึกว่าลูกดิ้นเลยในช่วงเวลา 2 ชั่วโมง ควรลองเปลี่ยนท่านอนหรือดื่มน้ำเย็นเพื่อกระตุ้นการดิ้น ถ้ายังไม่มีการตอบสนอง ควรรีบไปพบแพทย์
การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
- ถ้าการดิ้นของลูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่น การดิ้นแรงมากผิดปกติหรือการดิ้นที่มีลักษณะไม่สม่ำเสมอ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจสอบ
หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการดิ้นของลูก ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลทันที เพื่อรับคำแนะนำและการตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสม อย่าละเลยหรือรอให้เวลาผ่านไป เนื่องจากการดูแลและการติดตามสุขภาพของลูกในครรภ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการตั้งครรภ์
ที่มา: toplinemd.com, news-medical.net, s-momclub.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ลูกดิ้นตอนกี่เดือน นับลูกดิ้นยังไง การดิ้นของลูกน้อยในครรภ์ เรื่องสำคัญที่แม่ต้องรู้
ฟีเจอร์ นับลูกดิ้น กับ theAsianparent เว็บไซต์แม่และเด็กที่ดีอันดับหนึ่ง
ทำไมต้องนับลูกดิ้น ความสำคัญของการนับลูกดิ้นที่แม่ท้องทุกคนควรรู้!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!