TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ฝังยาคุม กับ กินยาคุม ต่างกันอย่างไร ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

บทความ 5 นาที
ฝังยาคุม กับ กินยาคุม ต่างกันอย่างไร ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

หลายคนสงสัย การฝังยาคุม แตกต่างจากการกินยาคุมอย่างไร แบบไหนได้ผลดีกว่ากัน การฝังยาคุมและการกินยาคุมมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

การกินยาคุมกำเนิด หรือ ฝังยาคุม คงเป็นตัวเลือกสำหรับสาว ๆ หลาย ๆ คน อาจจะด้วยปัจจัยหลายอย่างทำให้การกินยาคุม หรือฝังยาคุมจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อไหร่ที่พร้อมแล้ว หากหยุดกินยาคุมหรือเอาเข็มคุมกำเนิดออก ต้องรอนานแค่ไหนถึงจะท้อง และการฝังยาคุมกับกินยาคุมมันต่างกันมากน้อยแค่ไหน วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาฝากสาว ๆ กันแล้ว ไปดูกันเลย

 

ยาฝังคุมกำเนิด คืออะไร ?

ฝังยาคุม

ฝังยาคุม

การฝังยาคุม คือการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว โดยใช้ฮอร์โมนเดี่ยวบรรจุไว้ภายในแท่งพลาสติก แล้วนำไปฝังที่ใต้ท้องแขน เมื่อตัวฮอร์โมนทำปฏิกิริยากับร่างกาย ก็จะทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้

 

ผลข้างเคียงของการฝังยาคุมกำเนิด มีอะไรบ้าง

  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาแบบกะปริดกะปรอย หรือมีตกขาวมาก บางรายอาจมีประจำเดือนติดต่อกันหลายวัน หรือในบางรายอาจจะไม่มีประจำเดือนเลย
  • ในบางรายมีอาการปวดท้องประจำเดือน ในช่วง 2 – 3 เดือนแรก
  • มีอาการปวดแขนบริเวณที่ฝังยาคุม
  • แผลที่ฝังยาคุมอาจเกิดรอยแผลเป็นหรือเกิดอาการอักเสบได้
  • มีอารมณ์แปรปรวน เจ็บเต้านม
  • มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
  • เกิดภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดต่ำ

 

ข้อเสียของการฝังยาคุมกำเนิด

  • การฝัง หรือการถอดยาคุมจะต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถใส่หรือถอดเองได้
  • ประจำเดือนจะมาแบบกะปริดกะปรอย ซึ่งอาจทำให้เป็นปัญหาของหลาย ๆ คน แต่เมื่อผ่านระยะ 1 ปีไปแล้ว ปัญหาแบบนี้ก็จะลดลง
  • อาจพบภาวะแทรกซ้อนจากการฝังยาคุมได้ เช่น มีก้อนเลือดคลั่งบริเวณที่กรีด
  • อาจพบตำแหน่งแท่งยาที่แตกต่างไปจากเดิม แต่กรณีแบบนี้พบได้น้อย

 

ยาคุมแบบกินมีแบบไหนบ้าง ?

ยาคุมแบบกิน เป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แบบชั่วคราว แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ ชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว กับชนิดฮอร์โมนรวม ที่มีกลุ่มเอสโตรเจนผสมกับฮอร์โมนในกลุ่มโพสเจสติน ซึ่งมีแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ซึ่งมีข้อแตกต่างกันดังนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง : 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 28 ยาคุมกำเนิดแบบไหน แม่ให้นมบุตรกินได้ ?

 

  • ยาคุมแบบ 21 เม็ด

ทุกเม็ดที่กินเข้าไปไม่มีแป้ง กินยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วหยุดกินยาเป็นเวลา 7 วัน ก่อนเริ่มแผงใหม่ และในช่วงระยะเวลาที่หยุดยานั้น ประมาณ 1 – 3 วัน ประจำเดือนก็จะมา

 

  • ยาคุมแบบ 28 เม็ด

มีตัวยาที่เป็นฮอร์โมน 21 เม็ด และแป้งอีก 7 เม็ด กินยาในเวลาเดียวกัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วต่อแผงใหม่ ซึ่งในช่วงที่กินเม็ดแป้งประมาณเม็ดที่ 1 – 3 ประจำเดือนก็จะมา

 

  • ยาคุมฉุกเฉิน

การใช้ยาคุมฉุกเฉินใช้กรณีฉุกเฉิน หรือมีความผิดพลาดเท่านั้น เนื่องจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินระยะยาว อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อระบบสืบพันธุ์ในอนาคตได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาคุมฉุกเฉิน ใช้อย่างไร วิธีกินที่ถูกต้อง ยาคุมฉุกเฉินป้องกันการท้องได้จริงหรือ?

 

ผลข้างเคียงของการกินยาคุมแบบเม็ดมีอะไรบ้าง

  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีเลือดออกผิดปกติ
  • อารมณ์แปรปรวน
  • มีหลอดเลือดอุดตัน
  • หากลืมกินจะทำให้ประสิทธิภาพของตัวยาลดลง

 

ฝังยาคุม กับ กินยาคุม แตกต่างกันอย่างไร ?

  • การฝังยาคุมจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงกว่าชนิดเม็ด เนื่องจากสามารถฝังได้นาน 3 – 5 ปี แล้วแต่ชนิดของตัวยา
  • ไม่ต้องกินยาเม็ดทุกวัน ลดโอกาสเสี่ยงในการลืมกินยา
  • การฝังยาคุม มีฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว ต่างกับยาคุมแบบเม็ดที่บางยี่ห้อจะมีฮอร์โมนผสม ทำให้ผู้ที่ฝังยาคุม ไม่มีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นฝ้า
  • ใช้ได้ดีในแม่ให้นมลูก เนื่องจากตัวยาไม่มีผลต่อการหลั่งน้ำนม
  • การฝังยาคุมไม่ทำให้การทำงานของตับเปลี่ยนแปลง ผู้ที่กินยาคุมแบบเม็ดในระยะเวลานานมีโอกาสทำให้การทำงานของตับเปลี่ยนแปลงได้

 

ฝังยาคุมแล้ว ถุงยางยังจำเป็นอยู่ไหม ?

ฝังยาคุม

ฝังยาคุมต่างจากยาคุมแบบกินอย่างไร

แม้ว่าการฝังยาคุม จะเป็นทางเลือกในการคุมกำเนิด ที่ได้ประสิทธิภาพดีที่สุดกว่ายาคุมชนิดอื่น ๆ แต่การใส่ถุงยางอนามัย ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ ในการป้องกัน และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่การใส่ถุงยางก็ไม่ได้ช่วยป้องกันโรคได้ทุกโรคเสมอไป มีโรคบางโรคที่ถุงยางไม่สามารถป้องกันได้ เช่น โลน เริม หิด หูดหงอนไก่ และหูดข้าวสุก เป็นต้น

 

อยากตั้งครรภ์ ควรหยุดคุมกำเนิดตอนไหน ?

  • ยาคุมแบบเม็ด

ในกรณีที่เป็นฮอร์โมนผสม หลังจากการหยุดยา ภายใน 1 – 3 เดือน หรือนานถึง 1 ปี เนื่องจากร่างกายต้องปรับตัว หากเป็นฮอร์โมนเดี่ยว สามารถตั้งครรภ์หลังจากหยุดยาภายใน 1 สัปดาห์

 

  • แผ่นแปะยาคุมกำเนิด

สามารถตั้งครรภ์ได้ภายใน 3 เดือน

บทความจากพันธมิตร
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่
เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่
ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More  คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025
ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025
เครื่องปั๊มนมรุ่น Galaxy III จากแบรนด์ Attitude Mom ที่สุดของเครื่องปั๊มนม! การันตีด้วยรางวัล Parents' Choice
เครื่องปั๊มนมรุ่น Galaxy III จากแบรนด์ Attitude Mom ที่สุดของเครื่องปั๊มนม! การันตีด้วยรางวัล Parents' Choice

 

  • วงแหวนคุมกำเนิด

หลังจากนำวงแหวนออก สามารถตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือน

 

  • ห่วงยาคุมกำเนิด

สามารถตั้งครรภ์ได้ภายในระยะเวลา 1 ปี

 

ฝังยาคุม

การฝังยาคุมกำเนิด

 

  • ยาฝังคุมกำเนิด

จะสามารถกลับมามีลูกได้ ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่นำยาคุมกำเนิดแบบฝังออกจากแขน

 

  • ยาฉีดยาคุมกำเนิด

สามารถตั้งครรภ์ อย่างน้อยภายใน 10 เดือน หรือนานที่สุด 18 เดือน สำหรับผู้ที่ใช้วิธีการฉีดยาคุม หากต้องการวางแผนในการมีบุตร ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาในขั้นตอนของการมีบุตร

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : 

กินยาคุมนานๆ ข้อเสียของการกินยาคุม ผลตกค้างของยาเม็ดคุมกำเนิด ที่สาวๆ ต้องรู้

100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 36 การกินยาคุมช่วงตั้งครรภ์ อันตรายไหม?

ลืมกินยาคุม 1 วัน จะเป็นอะไรไหม ต้องทำอย่างไร วิธีกินยาที่ถูกต้อง

 

ที่มา : worldwideivf , medthai , thematter

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Nanticha Phothatanapong

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • ฝังยาคุม กับ กินยาคุม ต่างกันอย่างไร ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
แชร์ :
  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่
    บทความจากพันธมิตร

    เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่

  • ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More  คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่
    บทความจากพันธมิตร

    เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่

  • ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More  คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว