X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • พัฒนาการลูก
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • การศึกษา
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ฉีดยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ดีหรือไม่ เรามีคำตอบ

บทความ 5 นาที
ฉีดยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ดีหรือไม่ เรามีคำตอบฉีดยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ดีหรือไม่ เรามีคำตอบ

อย่างที่เราทราบกันดีกว่า การคุมกำเนิดนั้น มีด้วยกันหลายวิธี ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละคน แต่ละครอบครัวนั้น จะสะดวกใช้วิธีไหนในการช่วยในเรื่องของการคุมกำเนิด และอีกหนึ่งวิธีที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่มักจะลืมทานยาอยู่บ่อยครั้ง การเลือกทานยาคุมกำเนิดคงจะไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร อีกทั้งการลืมทานยาคุม บ่อย ๆ ก็ยังส่งผลให้เกิดการคุมกำเนิดนั้นไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการ ฉีดยาคุมกำเนิด จึงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย แต่การฉีดยาคุม จะดีหรือไม่ ควรฉีดยาคุมตอนไหน และมีราคาเท่าไหร่ เรามีมาฝากกันค่ะ

ยาคุมกำเนิดชนิดฉีด

ยาคุมกำเนิดแบบฉีด (Injectable contraceptive)  เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวแบบหนึ่ง โดยจะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในบริเวณกล้ามเนื้อของผู้ที่ต้องการคุมกำเนิด ในระยะเวลาตามที่แพทย์กำหนด หลังจากฉีดตัวยาจะค่อย ๆ ขับฮอร์โมนออกมา ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากในรายที่ต้องการเว้นระยะการมีบุตรในระยะเวลาที่ต้องการ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง ทำได้ง่าย สะดวก และมีราคาถูก

 

ฉีดยาคุมกำเนิด ควรฉีดยาคุมตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ดีหรือไม่ เรามีคำตอบ

 

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิด โดยวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการคุมกำเนิดในระยะสั้น ๆ และไม่สะดวกที่จะทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ หรือสม่ำเสมอ โดยยาคุมกำเนิดแบบฉีดนี้ จะมีทั้งแบบ 1 เดือน และแบบ 3 เดือน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ที่รับการฉีด อีกทั้งราคายังไม่สูงมาก ซึ่งจะอยู่ประมาณ 150 - 400 บาท เท่านั้น ถือว่าไม่แตกต่างจากการคุมกำเนิดด้วยการทานยาเม็ดฮอร์โมน

โดยตัวยาจะไปกระตุ้นฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) ซึ่งจะเป็นตัวยับยั้งการตกไข่ ทำให้ไม่มีไข่มารอปฏิสนธิ นอกจากนั้นยังทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวทำให้ไข่ไม่สามารถฝังตัวได้ และยังทำให้มูกบริเวณปากมดลูกมีความเหนียวข้น ส่งผลให้เป็นอุปสรรคกับตัวอสุจิที่จะว่ายผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ยากยิ่งขึ้น จึงสามารถช่วยคุมกำเนิดได้

บทความเพิ่มเติม : ยาคุมยี่ห้อไหนดี ยาคุมแต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกันอย่างไร?

 

ฉีดยาคุมกำเนิด แบบไหนดี ราคาเท่าไหร่ ?

สำหรับการฉีดยาคุมกำเนิดนั้น สามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ การฉีดชนิดรายเดือน และชนิด 3 เดือน ซึ่งจะมีข้อแตกต่างดังนี้

1. ยาคุมแบบฉีด ชนิด 1 เดือน (Cyclofem, 25 mg.)

  • เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม (มีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสติน)
  • นัดฉีดทุก ๆ 1 เดือน
  • โดยประจำเดือนจะมาเป็นปกติในทุก ๆ เดือน
  • ผู้ที่ให้นมบุตรไม่ควรฉีด เพราะตัวยาจะทำให้น้ำนมแห้ง
  • ฉีดบริเวณต้นแขน
  • ราคาเข็มละ 300-400 บาท

 

2. ยาคุมแบบฉีด ชนิด 3 เดือน (DMPA, 150 mg.)

  • เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (ฮอร์โมนโปรเจสติน)
  • นัดฉีดทุก ๆ 3 เดือน
  • จะทำให้ประจำเดือนไม่มา แต่ไม่ส่งผลถึงสุขภาพโดยรวม
  • สามารถให้น้ำนมบุตรได้ตามปกติ
  • ฉีดบริเวณสะโพก
  • ราคาเข็มละ 150-300 บาท

 

ฉีดยาคุมตอนไหน ?

โดยทั่วไป การฉีดยาคุมกำเนิดมักจะฉีดภายใน 5 วันหลังจากประจำเดือนมา ซึ่งหากฉีดในระยะนี้ ตัวยาจะออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิดได้ในทันที

แต่หากเลือกฉีดยาคุมหลังจากเวลาที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ผู้รับการฉีดจะต้องใช้เวลาประมาณ 7 วัน เพื่อรอให้ตัวยาเริ่มออกฤทธิ์ และสามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากคุณจะต้องมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ควรจะใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น

 

ฉีดยาคุมกำเนิดหลังคลอดบุตร

สำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดหลังจากคลอดบุตร ด้วยวิธีการฉีดยาคุม ในกรณีที่มารดาไม่ได้ให้นมบุตรหลังคลอด ก็สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้ในทันที ในขณะที่มารดาที่จะต้องให้นมบุตร จำเป็นจะต้องทิ้งช่วงหลังจากคลอดบุตร ไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์ แต่ถ้ามีความจำเป็นจะต้องฉีดยาคุมกำเนิดก่อนเวลาดังกล่าว ก็สามารถทำได้ แต่ควรจะปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน

 

ฉีดยาคุมหลังคลอดบุตร ได้ตอนไหน

  • ในกรณีฉีดยาคุมกำเนิดภายใน 21 วัน หลังทำการคลอดบุตร ตัวยาคุมกำเนิดจะออกฤทธิ์ในการคุมกำเนิดได้ในทันที
  • ในกรณีฉีดยาคุมกำเนิดหลังจากวันที่ 21 นับจากทำการคลอดบุตร จะต้องรอให้ตัวยาคุมออกฤทธิ์ประมาณ 7 วัน

ขณะที่ผู้ที่ผ่านการทำแท้ง หรือมีการแท้งเองโดยธรรมชาติ สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้ในทันที แม้ว่าการฉีดยาคุมกำเนิดจะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้แต่อย่างใด ดังนั้น การใช้ถุงยางอนามัย ในการป้องกันร่วมด้วยก็จะทำให้คุณปลอดภัยกับโรคติดต่อได้อีกด้วย

 

ผลข้างเคียงเมื่อฉีดยาคุมกำเนิด ?

 

ฉีดยาคุมกำเนิด ควรฉีดยาคุมตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ดีหรือไม่ เรามีคำตอบ

 

สำหรับผลข้างเคียงเมื่อฉีดยาคุมกำเนิดนั้น อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ในบางคนอาจจะมีอาการเกือบครบทุกข้อ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่มีอาการต่าง ๆ เหล่านั้นเลยก็เป็นได้ ซึ่งอาการโดยรวมที่เรารวบรวมมาได้มีดังนี้

  • ยาคุมชนิดฉีด แบบ 1 เดือน: ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ปวด หรือเวียนศีรษะอยู่บ่อยครั้ง มีอาการคัดตึงบริเวณเต้านม
  • ยาคุมชนิดฉีด แบบ 3 เดือน: ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือประจำเดือนหยุดตลอด 3 เดือนเลยก็เป็นได้ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย บริเวณช่องคลอดแห้ง ปวดกระดูก โพรงกระดูกพรุน (ซึ่งจะดีขึ้นหลังจากหยุดฉีดยา)

ทั้งนี้ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดของการฉีดทั้งสองชนิดนี้ มีความแตกต่างกันเพียงแค่ระยะเวลาของการเข้ารับการฉีด หากแต่ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดนั้นมีเท่ากัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล

บทความเพิ่มเติม : กินยาคุมตอนท้อง ท้องแล้วกินยาคุม จะอันตรายต่อลูกในท้องไหม

 

ใครเหมาะกับการฉีดยาคุมกำเนิด

  • สตรีที่ต้องการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่มีประสิทธิภาพสูง และปลอดภัย
  • สตรีที่ลืมรับประทานยาคุมกำเนิดบ่อย ๆ ต้องการความสะดวก ไม่ต้องการรับประทานยาคุมกำเนิดแบบเดิมทุก ๆ วัน
  • สตรีหลังคลอดที่กำลังให้นมบุตร (ต้องเป็นยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว)
  • สตรีที่มีอาการปวดประจำเดือนเป็นประจำ
  • สตรีที่สูบบุหรี่

 

ฉีดยาคุมกำเนิด ควรฉีดยาคุมตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ดีหรือไม่ เรามีคำตอบ

 

บทความจากพันธมิตร
โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป
การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป
วิธีรับมือเมื่อเด็กทารกท้องเสีย และการป้องกันเบื้องต้น ที่แม่ต้องรู้
วิธีรับมือเมื่อเด็กทารกท้องเสีย และการป้องกันเบื้องต้น ที่แม่ต้องรู้

ข้อดีของการ ฉีดยาคุมกำเนิด ?

  • ให้ความสะดวก ใช้งานง่าย ฉีดครั้งเดียวก็สามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 1 -  3 เดือน โดยไม่ต้องใช้ทุกวันเหมือนยาเม็ดคุมกำเนิด
  • มีประสิทธิภาพการคุมกำเนิดสูงถึงกว่า 99 % เมื่อได้รับการฉีดอย่างถูกต้อง (มากกว่าหรือเทียบเท่ากับการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด)
  • ไม่เป็นอุปสรรคต่อการมีเพศสัมพันธ์ (คุณผู้หญิงบางท่านอาจมีอาการแพ้ถุงยางอนามัย)
  • อาจช่วยแก้ปัญหาในเรื่องโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และอาการปวดประจำเดือน
  • สามารถรับบริการได้ง่าย เนื่องจากวิธีการและอุปกรณ์สำหรับการให้บริการไม่ยุ่งยาก เลือกให้บริการแก่สตรีทั่วไปได้อย่างกว้างขวาง เพราะยาฉีดมีข้อห้ามในการใช้ยาน้อย
  • ราคาถูกเมื่อเทียบกับวิธีคุมกำเนิดแบบอื่น เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือ การใส่ห่วงอนามัย
  • ไม่ขัดขวางขั้นตอนต่าง ๆ ของการร่วมเพศ
  • สามารถใช้ได้ดีในขณะให้นมลูก เพราะไม่ทำให้น้ำนมแห้ง
  • การไม่มีประจำเดือนภายหลังการฉีดมีผลดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง
  • ไม่ต้องพบแพทย์เมื่อต้องการหยุดการคุมกำเนิด ฤทธิ์ของยาจะค่อย ๆ หมดไปเองหากไม่ได้รับการฉีดตามหมอนัด

 

ข้อเสียของการ ฉีดยาคุมกำเนิด ?

  • ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่น โรคเอดส์ ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ และหนองใน เป็นต้น
  • ต้องเดินทางไปพบแพทย์ทุก ๆ 1 เดือน หรือ 3 เดือน
  • ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดอาจลดลง ถ้าไม่ได้ฉีดตามวันที่คุณหมอนัด
  • จะต้องเสียเวลาไปสถานที่รับบริการบ้างและอาจทำให้ลืมเวลานัดได้
  • ต้องให้แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางสาธารณสุขเป็นคนฉีดยาให้
  • ประจำเดือนอาจเปลี่ยนแปลง มาไม่สม่ำเสมอ มากะปริดกะปรอย หรือไม่มีประจำเดือน และหลาย ๆ รายอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • เนื่องจากการที่มีเลือดออกแบบกะปริดกะปรอย (ในช่วงแรกของการฉีด หรืออาจจะหลายเดือน) จึงทำให้ต้องใส่ผ้าอนามัยอยู่ตลอดเวลา จะไม่ใส่ก็ไม่ได้ เพราะบางครั้งก็มาโดยไม่ได้นัดแนะ ปัญหาที่ตามมาก็คือทำให้เกิดความอับชื้น มีตกขาว เป็นต้น
  • ผลข้างเคียงอาจไม่หยุดทันทีหลังจากหยุดฉีดยา เมื่อเกิดอาการข้างเคียงจะต้องรอจนกว่ายาคุมจะหมดฤทธิ์ อาการถึงจะหายไปเอง
  • เมื่อหยุดฉีดร่างกายจะยังไม่พร้อมมีลูกได้ทันที (มีลูกได้ช้ากว่าการคุมกำเนิดแบบอื่น) โดยอาจจะต้องรอไปเกือบ 1 ปี ทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าการฉีดยานาน ๆ จะทำให้เป็นหมัน เรื่องนี้ไม่จริง แต่อาจจะทำให้มีลูกได้ช้า ไม่ทันใจ คนที่ฉีดยาคุมกำเนิดจึงต้องวางแผนไว้อย่างดี เพราะไม่ใช่เมื่อพร้อมจะมีลูกก็จะหยุดฉีดแล้วจะมีได้ทันที แต่ต้องรอไประยะหนึ่งก่อน เช่น บางคนฉีดยาไป 3 ปีกว่า กว่ายาจะหมดฤทธิ์ก็ต้องรอไปอีก 10 เดือน แต่ถ้าฉีดนานกว่านั้นก็อาจจะรอยาวนานขึ้นไปอีก

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

10 ข้อ ควรรู้เกี่ยวกับยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม

ฝังยาคุม กับ กินยาคุม ต่างกันอย่างไร ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

กินยาคุมกำเนิดมานานจะท้องได้หรือไม่ หยุดกินยาคุมจะท้องไหม กับความเชื่อผิดๆ

ที่มา : A , B

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Arunsri Karnmana

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • ฉีดยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ดีหรือไม่ เรามีคำตอบ
แชร์ :
  • โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
    บทความจากพันธมิตร

    โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม

  • 7 วิธีทำให้ประจำเดือนมา ง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ปลอดภัยหายห่วง

    7 วิธีทำให้ประจำเดือนมา ง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ปลอดภัยหายห่วง

  • อาการเมนจะมา มีอะไรบ้าง แบบไหนรุนแรง ต่างจากอาการคนท้องอย่างไร ?

    อาการเมนจะมา มีอะไรบ้าง แบบไหนรุนแรง ต่างจากอาการคนท้องอย่างไร ?

app info
get app banner
  • โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
    บทความจากพันธมิตร

    โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม

  • 7 วิธีทำให้ประจำเดือนมา ง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ปลอดภัยหายห่วง

    7 วิธีทำให้ประจำเดือนมา ง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ปลอดภัยหายห่วง

  • อาการเมนจะมา มีอะไรบ้าง แบบไหนรุนแรง ต่างจากอาการคนท้องอย่างไร ?

    อาการเมนจะมา มีอะไรบ้าง แบบไหนรุนแรง ต่างจากอาการคนท้องอย่างไร ?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2022. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ