7 ประโยชน์ของวิตามินซี ดีต่อใจ และ ดีต่อร่างกาย ที่คนรักสุขภาพห้ามพลาด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สาระน่ารู้วันนี้ขอพาทุกคนรู้จัก ประโยชน์ของวิตามินซี ที่ดีต่อใจ และ ดีต่อร่างกาย อย่างที่ทราบกันดีว่าวิตามินซี เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งหมายความว่าร่างกายของคุณไม่สามารถผลิตเองได้ กระนั้น ประโยชน์ของวิตามินซี ก็มีหลายบทบาทและเชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพที่ควรค่าแก่การนำมารับประทานเสริม เพื่อผลลัพธ์ทางสุขภาพที่น่าประทับใจค่ะ

 

7 ประโยชน์ของวิตามินซี ทางวิทยาศาสตร์

วิตามินซีที่ละลายน้ำได้ พบได้ในผักและผลไม้หลายชนิด เป็นวิตามินร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง อยากได้รับ ประโยชน์ของวิตามินซี  ควรทานผักผลไม้ เช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี พริกหวาน บรอกโคลี ผักคะน้า และผักโขม เป็นต้น
ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวันคือ 75 มก. สำหรับผู้หญิง และ 90 มก. สำหรับผู้ชาย แม้ว่าโดยทั่วไปควรได้รับวิตามินซีจากอาหาร แต่หลายคนก็หันมารับประทานในรูปแบบอาหารเสริมเพื่อตอบสนองความต้องการเพราะการรับประทานอาหารให้ได้เท่ากับวิตามินซีที่ดีต่อร่างกายจริง ๆ นั้นอาจไม่พอ

มาดูกันว่าร่างกายจะได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจจากวิตามินซีในแง่ใดบ้าง

1. ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ

วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเสริมสร้างการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายได้ดี และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นโมเลกุล ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ปกป้องเซลล์จากโมเลกุลอันตรายที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังทำให้ร่างกายอ่อนเยาว์กว่าวัย

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการบริโภควิตามินซีมากขึ้นสามารถเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดได้ถึง 30% สิ่งนี้ช่วยให้การป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายต่อสู้กับการอักเสบที่เกิดขึ้นทั้งภายในร่างกายและภายนอกร่างกายนั่นเอง

 

2. ลดความดันโลหิตสูงได้ดี

ผลจากการทดลองพบว่า ประมาณหนึ่งในสามของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันที่มีความดันโลหิตสูง เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก เมื่อทานวิตามินซีจะช่วยลดความดันโลหิตทั้งในผู้ที่มีและไม่มีความดันโลหิตสูง

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในสัตว์พบว่า การเสริมวิตามินซีช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดที่นำเลือดออกจากหัวใจซึ่งช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ ยิ่งไปกว่านั้นจากการวิเคราะห์การศึกษาในมนุษย์ 29 ชิ้นพบว่าการเสริมวิตามินซีช่วยลดความดันโลหิตซิสโตลิก ได้ 3.8 มิลลิเมตรปรอทและความดันโลหิตไดแอสโตลิก (ค่าต่ำกว่า) ในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในผู้ใหญ่ที่มีความดันโลหิตสูงอาหารเสริมวิตามินซีช่วยลดความดันโลหิตซิสโตลิกได้ถึง 4.9 มิลลิเมตรปรอทและความดันโลหิตลดลง 1.7 มิลลิเมตรปรอทโดยเฉลี่ยค่ะ

  • แม้ว่าผลลัพธ์เหล่านี้จะมีแนวโน้มที่ดี แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าผลต่อความดันโลหิตจะเป็นผลในระยะยาวหรือไม่อย่างไร  ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่ควรพึ่งวิตามินซีเพียงอย่างเดียวในการรักษา ควรได้รับการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก โดยปัจจัยหลายอย่างเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง หรือระดับคอเลสเตอรอล LDL (ไม่ดี) และระดับ HDL (ดี) ต่ำ

  • วิตามินซีช่วยลดปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ซึ่งอาจลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์การศึกษา 9 ชิ้นกับผู้เข้าร่วม 293,172 คนพบว่าหลังจาก 10 ปีผู้ที่รับประทานวิตามินซีอย่างน้อย 700 มก. ทุกวันมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลดลง 25% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานวิตามินซีเสริม ถือเป็นผลการทดลองที่น่าพอใจ

และที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือการวิเคราะห์อีก 15 การศึกษาพบว่า การบริโภควิตามินซีจากอาหาร ที่ไม่ใช่อาหารเสริมช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้เช่นกัน แต่ไม่มากเท่ากับการทานวิตามินซีเสริมโดยตรง

อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อสรุปจากนักวิทยาศาสตร์ว่า คนที่บริโภคอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซีนั้น มีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าคนที่ทานอาหารเสริมหรือไม่ ดังนั้นจึงยังไม่ชัดเจนว่าความแตกต่างเกิดจากวิตามินซี หรือด้านอื่น ๆ ของอาหารหรือไม่

ในระยะสั้นดูเหมือนว่าการรับประทานหรือบริโภควิตามินซีอย่างน้อย 500 มก. ทุกวันอาจลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ อย่างไรก็ตามหากคุณรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซีอยู่แล้วอย่างต่อเนื่องและจำนวนเท่าที่ร่างกายในแต่ละวัน อาหารเสริมอาจไม่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจเพิ่มเติมนะคะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

4. ลดระดับกรดยูริกในเลือด และช่วยป้องกันโรคเกาต์

โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่มีผลต่อผู้ใหญ่ เป็นโรคที่สร้างความเจ็บปวดอย่างไม่น่าเชื่อ และมีการอักเสบของข้อต่อโดยเฉพาะนิ้วหัวแม่เท้า ผู้ที่เป็นโรคเกาต์จะมีอาการบวม และมีอาการปวดอย่างรุนแรงอย่างกะทันหัน

  • อาการของโรคเกาต์ จะปรากฏขึ้นเมื่อมีกรดยูริกในเลือดมากเกินไป กรดยูริกเป็นของเสียที่ร่างกายผลิตขึ้น ในระดับสูงมันอาจตกผลึกและสะสมในข้อต่อได้
  • มีการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า วิตามินซีอาจช่วยลดกรดยูริกในเลือด และป้องกันการโจมตีของโรคเกาต์ได้ดีเยี่ยม ตัวอย่างเช่นการศึกษาที่มีผู้ชาย 1,387 คนพบว่าผู้ที่บริโภควิตามินซีมากที่สุดมีระดับกรดยูริกในเลือดต่ำกว่าผู้ที่บริโภคน้อยที่สุด

การศึกษาอื่นติดตามผู้ชายที่มีสุขภาพดี 46,994 คนในช่วง 20 ปีเพื่อตรวจสอบว่าการบริโภควิตามินซีเชื่อมโยงกับการพัฒนาโรคเกาต์หรือไม่ พบว่าผู้ที่รับประทานอาหารเสริมวิตามินซีมีความเสี่ยงโรคเกาต์ลดลง 44%

  • นอกจากนี้การวิเคราะห์จากการศึกษา 13 ชิ้นพบว่าการเสริมวิตามินซีเป็นเวลา 30 วันช่วยลดกรดยูริกในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับยาหลอก  แม้ว่าจะมีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างการบริโภควิตามินซีและระดับกรดยูริก แต่ก็จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลของวิตามินซีต่อโรคเกาต์อย่างต่อเนื่องต่อไป

 

5. ช่วยป้องกันการขาดธาตุเหล็กของร่างกาย

ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารสำคัญ ที่มีหน้าที่หลากหลายในร่างกาย จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย

อาหารเสริมวิตามินซี สามารถช่วยปรับปรุงการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร วิตามินซีช่วยในการเปลี่ยนธาตุเหล็กที่ดูดซึมได้ไม่ดี เช่น แหล่งธาตุเหล็กจากพืชให้อยู่ในรูปแบบที่ดูดซึมได้ง่ายขึ้น

นี่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้รับประทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ มังสวิรัติ เนื่องจากเนื้อสัตว์เป็นแหล่งธาตุเหล็กที่สำคัญ ในความเป็นจริงการบริโภควิตามินซี 100 มก. อาจช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กได้ 67%  เป็นผลให้วิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยงของโรคโลหิตจางในผู้ที่มีแนวโน้มที่จะขาดธาตุเหล็ก

มีการศึกษาหนึ่งทดลองกับเด็ก 65 คนที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเล็กน้อยได้รับวิตามินซีเสริม นักวิจัยพบว่า วิตามินซี เป็นอาหารเสริมเพียงอย่างเดียวช่วยควบคุมโรคโลหิตจางได้
หากคุณมีระดับธาตุเหล็กต่ำ ควรบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีมากขึ้น หรือ การเสริมวิตามินซีอาจช่วยให้ระดับธาตุเหล็กในเลือดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

 

6. วิตามินซี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ดี

เหตุผลหลักประการหนึ่งที่ผู้คนรับประทานอาหารเสริมวิตามินซีคือการเพิ่มภูมิคุ้มกันเนื่องจากวิตามินซีมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายส่วนของระบบภูมิคุ้มกัน

  • วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรียกว่าลิมโฟไซต์และฟาโกไซต์ซึ่งช่วยป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อ ไม่ว่าจะไวรัสหรือเชื้อโรคที่อยู่รอบกายเรา
  • วิตามินซี ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในขณะที่ปกป้องพวกมันจากความเสียหายของโมเลกุลที่อาจเป็นอันตรายเช่นอนุมูลอิสระ
  • วิตามินซีเป็นส่วนสำคัญของระบบป้องกันผิวหนัง มันถูกลำเลียงไปยังผิวหนังอย่างแข็งขันซึ่งสามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างอุปสรรคของผิว ดังนั้นจึงมีผู้หญิงหลายคนใช้การทานวิตามินซีเพื่อช่วยเรื่องผิวพรรณ

บทความที่เกี่ยวข้อง : 9 ผัก ผลไม้สีส้ม แหล่งรวมวิตามิน บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน ผิวสดใสแข็งแรง !!

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าการรับประทานวิตามินซี อาจทำให้เวลาในการรักษาบาดแผลสั้นลง ยิ่งไปกว่านั้นระดับวิตามินซีที่ต่ำ ยังเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่ไม่ดี ตัวอย่างเช่นผู้ที่เป็นโรคปอดบวมมักจะมีระดับวิตามินซีลดลงและการเสริมวิตามินซีได้แสดงให้เห็นว่าช่วยลดระยะเวลาในการฟื้นตัวให้สั้นลงค่ะ

 

7. ปกป้องความจำและความคิด เมื่ออายุมากขึ้น

ภาวะสมองเสื่อมเป็นคำกว้าง ๆ ที่ใช้อธิบายอาการของความคิดและความจำที่ไม่ดี ส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 35 ล้านคนทั่วโลกและมักเกิดในกลุ่มผู้สูงอายุ

การศึกษาชี้ให้เห็นว่าความเครียดจากการเกิดออกซิเดชันและการอักเสบที่อยู่ใกล้กับสมองกระดูกสันหลังและเส้นประสาท (เรียกรวมกันว่าระบบประสาทส่วนกลาง) สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อมได้

วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง ระดับวิตามินนี้ในระดับต่ำมีความเชื่อมโยงกับความสามารถในการคิดและจดจำที่บกพร่องลงกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้นการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าคนที่มีภาวะสมองเสื่อมอาจมีระดับวิตามินซีในเลือดลดลงเช่นกัน

  • นอกจากนี้การบริโภควิตามินซีในปริมาณสูงจากอาหารหรืออาหารเสริมแสดงให้เห็นว่ามีผลในการป้องกันความคิดและความจำเมื่อคุณอายุมากขึ้น เหมาะสำหรับวัยผู้ใหญ่ไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ

อาหารเสริมวิตามินซี ช่วยป้องกันภาวะต่าง ๆ เช่นภาวะสมองเสื่อม หากได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอจากอาหาร อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์ เพื่อทำความเข้าใจผลของการเสริมวิตามินซีต่อสุขภาพของระบบประสาทมากยิ่งขึ้นค่ะ

ในขณะที่วิตามินซีมีประโยชน์ที่พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์มากมาย แต่ก็มีการกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลความจริง หรือมีหลักฐานที่ได้รับการสนับสนุนเพียงพออีกมากมาย

 

 

ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์เกี่ยวกับวิตามินซี

  • ป้องกันโรคไข้หวัด แม้ว่าวิตามินซีจะช่วยลดความรุนแรงของโรคหวัดและระยะเวลาในการฟื้นตัวได้ 8% ในผู้ใหญ่และ 14% ในเด็ก แต่ก็ไม่ได้ป้องกันโรคเหล่านี้ได้ 100% เพียงแค่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น

 

  • ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง การศึกษาจำนวนหนึ่งได้เชื่อมโยงการรับประทานวิตามินซีเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายชนิด อย่างไรก็ตามการศึกษาส่วนใหญ่พบว่า วิตามินซีไม่มีผลต่อความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

 

  • ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสายตา เพราะวิตามินซีช่วยลดความเสี่ยงของโรคตา เช่น ต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ อย่างไรก็ตามการทานอาหารเสริมวิตามินซีไม่ก่อให้เกิดอันตรายได้

 

  • อาจรักษาความเป็นพิษของสารตะกั่ว แม้ว่าคนที่มีความเป็นพิษจากสารตะกั่วจะมีระดับวิตามินซีต่ำ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนจากการศึกษาในมนุษย์ที่แสดงว่าวิตามินซีสามารถรักษาความเป็นพิษของสารตะกั่วได้

 

วิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ซึ่งต้องได้รับจากอาหาร หรือ อาหารเสริม ช่วยเพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความดันโลหิต ป้องกันโรคเกาต์ เพิ่มภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ลดภาวะสมองเสื่อมได้

โดยรวมแล้วอาหารเสริมวิตามินซี เป็นวิธีที่ดีและง่ายในการเพิ่มปริมาณวิตามินซีให้เพียงพอในแต่ละวัน หากคุณแม่หรือสาว ๆ อยากมีสุขภาพที่แข็งแรง และยังช่วยเรื่องผิวพรรณได้ดี แนะนำให้พยายามทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง หรือสามารถทานอาหารเสริมวิตามินซีควบคู่ได้ ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ผักผลไม้วิตามินซีสูง ป้องกันหวัดลูก ดีต่อสุขภาพคนท้อง สร้างเนื้อเยื่อและกระดูกทารกในครรภ์

9 ผลไม้สีแดง กินแล้วผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูอ่อนวัย อร่อยต้านมะเร็ง !!

ลูกเป็นหวัดง่าย เพราะ ขาดวิตามินซี ยี้ผักผลไม้

ที่มา : healthline

บทความโดย

Thippaya Trangtulakan