วิตามินอี ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร? อันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิตามินอี เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่เรามักได้ยินอยู่เสมอเรื่องประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ ซึ่งเขาสามารถบำรุง ดูแล และป้องกันในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับ คุณแม่ตั้งครรภ์ แล้วเราอาจจะต้องตระหนักสักนิดว่าวิตามินอีมีประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือไม่? และช่วยในด้านใดบ้าง? เพื่อให้ร่างกายของเราสามารถรับประทานได้อย่างถูกต้องและไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อลูกน้อยในครรภ์ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นตามไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ

 

วิตามินอี คือ?

Vitamin E หรือ วิตามินอี เป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ในไขมัน พบในอาหารหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมที่ช่วยเสริมวิตามินอีอีกด้วย ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในผู้ที่มีภาวะขาดวิตามินอี ซึ่งหาได้ยาก แต่อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่าง และในทารกที่คลอดก่อนกำหนดที่มีน้ำหนักตัวต่ำมาก

บทความที่เกี่ยวข้อง : 9 วิตามินบำรุงหลังคลอด สุดยอดอาหารเสริมของคุณแม่มือใหม่ ปี 2023

 

 

อาหารใดบ้างที่มี วิตามินอี ?

วิตามินอีนั้นมักจะซ่อนอยู่ในอาหารที่คุณนั้นคาดไม่ถึง ในบางครั้งคุณอาจจะทานวิตามินอีเข้าไปโดยที่คุณนั้นก็ไม่รู้ตัว มาดูกันดีกว่าค่ะ อาหารใดบ้างที่มีวิตามินอยู่

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
อาหาร 100 กรัม ปริมาณสารอาหาร (มิลลิกรัม)
น้ำมันดอกทานตะวัน 41
เมล็ดทานตะวัน 37
เฮเซลนัต 24.95
อัลมอนด์ 23.98
บรอกโคลี 7.72
พิสตาชิโอ 4.16
มะเขือเทศเชอร์รี 1.11
ไข่ 0.95
พริกแดง 0.94
บลูเบอร์รี 0.89

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินบำรุงก่อนคลอด วิตามินเสริมคนท้องมีอะไรบ้าง วิตามินเสริมจำเป็นไหม

 

ประโยชน์ของ วิตามินอี มีอะไรบ้าง?

วิตามินอีเป็นวิตามินที่สำคัญที่จำเป็นสำหรับการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งหมายความว่าช่วยชะลอกระบวนการที่สร้างความเสียหายให้กับเซลล์ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย ดังต่อไปนี้

  • ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์อาจทานวิตามินอีควบคู่กับยาต้านอัลไซเมอร์บางชนิดเพื่อทำให้ความจำเสื่อมช้าลงได้ แต่ทั้งนี้จะต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • ลดระดับโปรตีนในเลือด เพื่อป้องกันความผิดปกติของเลือดที่เรียกว่า เบต้าธาลัสซีเมีย (beta-thalassemia)
  • ลดอาการปวดท้องประจำเดือน โดยการทานวิตามินเป็นเวลา 2 วันก่อนการเป็นประจำเดือนและ 3 วันหลังเป็นประจำเดือนจะช่วยลดอาการปวดท้องได้
  • ช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ของผู้ชายที่มีภาวะมีบุตรยา จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จมากขึ้น
  • ลดอาการของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Syndrome : PMS) ที่เป็นเรื่องของความวิตกกังวล ความอยากอาหาร และภาวะซึมเศร้าในผู้หญิงบางคนที่อยู่ในช่วงก่อนมีประจำเดือน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

หากรับวิตามินอีมากเกินไปส่งผลอย่างไร ?

การทานวิตามินเสริมไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ หรืออาหารที่มีวิตามินอีในปริมาณที่มากกว่าความจำเป็นของร่างกายที่ต้องการในแต่ละวันอาจส่งผลทำให้เกิดผลข้างเคียงดังต่อไปนี้

  • คลื่นไส้
  • ท้องร่วง
  • ปวดท้อง
  • อ่อนเพลีย อ่อนแรง
  • ปวดศีรษะ
  • ตาพร่ามัว
  • มีผื่นขึ้น
  • พบรอยช้ำ และมีเลือดออก

 

ภาวะ ขาดวิตามินอี สามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ ?

เนื่องจากวิตามินอีสามารถพบได้ในอาหารทั่วไปอย่างเช่น ผัก ผลไม้ต่าง ๆ และสามารถทานอาหารเสริมวิตามินอีได้ ภาวะขาดวิตามินอีนั้นจึงเป็นเรื่องที่พบน้อย แต่สำหรับผู้ที่มีภาวะขนาดวิตามินอีกนั้น จะพบว่ามีความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร หรือไม่สามารถดูดซึมไขมันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งมีสาเหตุมาจากภาวะตับอ่อนอักเสบ โรคซิติกไฟโบรซิส () และโรค celiac โดยโรคเหล่านี้เป็นสัญญาณของโรคร้ายอื่น ๆ ที่จะตามมา ได้แก่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ความผิดปกติของจอตา (Retinopathy) เป็นความเสียหายของเรตินาของดวงตาที่อาจทำให้การมองเห็นบกพร่อง
  • ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy ) เป็นความเสียหายของเส้นประสาทส่วนปลาย มักจะอยู่ที่มือหรือเท้า ทำให้อ่อนแรงหรือเจ็บปวด
  • โรคสูญเสียการทรงตัว (Ataxia) อาการเดินเซ ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลและการไม่ประสานงานกันของอวัยวะที่เคลื่อนไหวของแขนและขา ทำให้เดินได้ลำบาก
  • การทำงานของภูมิคุ้มกันลดลง

 

 

วิตามินอี มีประโยชน์ต่อ คุณแม่ตั้งครรภ์ อย่างไร ?

สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์นั้น วิตามินอีถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมันได้ โดยวิตามินอีมีส่วนช่วยเสริมสร้าง ป้องกัน และบำรุงรักษาร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ดังต่อไปนี้

  • ช่วยให้ร่างกายของคุณแม่สร้าง และรักษาเซลล์เม็ดเลือดแดงที่บริเวณผิวหนัง และดวงตาให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
  • ช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายอย่าง สารอนุมูลอิสระ (Reactive oxygen species : ROS) รวมถึงยังมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจนและเมแทบอลิซึมของธาตุเหล็กและโฟเลตอีกด้วย
  • ช่วยป้องกันความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นความไม่สมดุลของปริมาณอนุมูลอิสระที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของคุณแม่ และการต่อต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการพัฒนาภาวะการตั้งครรภ์สู่ภาวะครรภ์เป็นพิษ ความเสี่ยงของการจำกัดการเจริญเติบโตของมดลูก และภาวะน้ำเดิน หรือการคลอดก่อนกำหนด (PROM)
  • ช่วยลดโอกาสที่จะทารกในครรภ์จะเป็นโรคหอบหืด และมีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจหลังจากคลอดได้

 

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการวิตามินอีเท่าไหร่ ?

แม้ว่าจะเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญคือการรับประทานวิตามินอีเพื่อสุขภาพที่ดี ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณไม่ควรที่จะทานมาก หรือน้อยจนเกินไป โดยปริมาณที่คุณหมอแนะนำให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์คือ 3 มิลลิกรัมต่อวัน และคุณแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องของการทานอาหารและจะได้รับวิตามินอีในจำนวนที่มากจนเกินไป เพราะการได้รับวิตามินอีในปริมาณที่สูงจากอาหารเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิตามินบี 12 มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นสำหรับคนท้องหรือไม่?

 

 

คนท้องสามารถทาน อาหารเสริมวิตามินอี ได้ไหม?

วิตามินอีกนั้นถือว่าปลอดภัยสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ทั้งช่วยเสริมสร้างร่างกายของคุณแม่ให้มีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยในพัฒนาการของทารกในครรภ์อีกด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามการทานอาหารเสริมวิตามินอีนั้นอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ในช่วงการตั้งครรภ์ระยะแรก หรือช่วงไตรมาสแรก ดังนั้นคุณแม่ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมวิตามินอีในช่วง 8 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ทั้งนี้คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ที่ดูแลครรภ์ก่อนทานเสริม เพื่อความปลอดภัยของตนเองและทารกในครรภ์นะคะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับประโยชน์ของวิตามินอี สามารถหาทานได้ง่าย และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่และทารกในครรภ์อีกด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ท่านใดต้องการที่จะทานอาหารเสริมวิตามินอีแล้วละก็ อย่าลืมปรึกษาแพทย์ที่ดูแลครรภ์ก่อนนะคะ เพราะไม่อยากงั้นอาจส่งผลอันตรายต่อตัวคุณแม่และทารกน้อยในครรภ์ได้

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วิตามินคนท้อง ควรกินแบบไหน วิตามินอะไรบ้างที่ห้ามกิน

แม่ให้นมลูก กินวิตามินได้ไหม ? 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 57

10 วิตามินบำรุงหลังคลอด สุดยอดอาหารเสริมของคุณแม่มือใหม่

แชร์ประสบการณ์หรือ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ของวิตามินอี ได้ที่นี่!

วิตามินอี ดีกับคุณแม่ตั้งท้องจริงไหมคะ แล้วมีผลกับลูกในท้องไหมคะ

ที่มา : healthline, who, cochrane, webmd, aptaclub

บทความโดย

Siriluck Chanakit