เนื้องอกมดลูก หนึ่งในอุปสรรคของคนอยากมีลูก ใครที่เคยคิดว่า ผ่าตัดแล้วจะหมดปัญหา ลองอ่านเรื่องราวของคุณแม่ Lallychat Lerdkornprarphatt ที่กว่าจะตั้งท้อง กว่าจะประคับประคองลูกน้อยให้ลืมตาดูโลกอย่างปลอดภัยนั้นไม่ง่ายเลยค่ะ
คุณแม่ได้โพสต์เล่าประสบการณ์เตือนใจแม่ๆ ไว้ในเพจ Herkid รวมพลคนเห่อลูก จากผู้หญิงที่ฝันอยากมีลูก แต่ติดอุปสรรคจาก “เนื้องอกในมดลูก” และปัญหาสุขภาพส่วนตัวของคุณแม่ จนต้องทำเด็กหลอดแก้วถึง 3 ครั้ง และเมื่อสำเร็จ การตั้งครรภ์ก็ไม่ง่ายเลย ทั้งต้องฉีดยากันแท้งทุกวัน กินยานับสิบเม็ด เฝ้าระวังเลือดออก และใช้ชีวิตเหมือนผู้ป่วยติดเตียงตลอดการอุ้มท้อง ท่ามกลางความเสี่ยงที่หมอบอกตรง ๆ ว่า “ลูกไม่น่ารอด” แต่หัวใจแม่ไม่เคยยอมแพ้ จนในที่สุดลูกสาวก็ลืมตาดูโลก แม้ต้องอยู่ใน NICU เกือบเดือนก็ตาม
แม่แชร์เรื่องจริงเตือนใจ “เนื้องอกมดลูก” ทำลูกในท้องเกือบไม่รอด!!
#เป็นเนื้องอกในมดลูก
ทำให้ลูกเกือบตุย !!
ขอเล่าว่า การเป็นเนื้องอกในมดลูก
เป็นอุปสรรคตั้งแต่ตอนท้อง
ท้องธรรมชาติไม่ได้
ทำให้ต้องทำเด็กหลอดแก้ว ถึง 3 ครั้ง
ยิ่งฉีดกระตุ้นไข่ ฮอร์โมนก็ยิ่งรวน
ใครเป็นเนื้องอกในมดลูก
**** อย่าเอาออกโดยการผ่าส่องกล้อง !!
แผลหายเร็วจริง 1 วันเดินได้ 3 วันปกติ
แต่ข้อจำกัด คือ เอาออกได้เฉพาะก้อนใหญ่ๆ
พอลูกคนนี้ติด ก็มีอาการแท้งคุกคาม
เนื่องจากเดินเยอะ ทำงานเยอะ เครียด
ฉีดยากันแท้งทุกวัน กินยาวันละ 30 เม็ด
ยัยเนื้องอกทั้งหลาย ที่เล็กๆ ก็ผุดขึ้นมา
ยังกะดอกเห็ด ใหญ่ขึ้นๆๆๆ โตพร้อมลูก
เลือดที่ไหลตลอดเวลา
ทำให้ลูกจะไปหลายรอบ
มีครั้งนึงที่เลือด เยอะมาก
บึ่งไปรพ. หมอบอกว่าไม่น่ารอดแล้ว
ร้องไห้กลาง รพ. เลย แต่ลูกก็รอด
ประคับประคองกันไป
แบบแม่เป็นผู้ป่วยติดเตียง
จน 32 weeks ปวดหลัง ปวดตัวมากๆ
ทั้งเนื้องอก ทั้งลูกเบียดกันสุดๆ
แล้วอยู่ๆ ก็โผล๊ะ !!!!
ฉีดยากระตุ้นปอด กระตุ้นหัวใจ
( เคสประมาณนี้ เด็กตุยเยอะมาก )
พยาบาลพูดเลยว่า
บางคนมา รพ. อีกทีเด็กไม่หายใจแล้ว
แต่สรุป ลูกสาวก็รอดทุกอุปสรรคมาได้
เลยมาแชร์มุมมอง สำหรับแม่ๆ ที่ลังเล
ถ้ามีเนื้องอก #แนะนำผ่าเปิดหน้าท้องข่ะ
เจ็บนานหน่อย บางคนครึ่งปี แต่ได้เอาออกหมด
ลูกจะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับเรา
ตอนนั้นไม่มีความรู้
ลูกอยู่ใน Nicu เกือบเดือน ทั้งสงสารลูก
และเหนื่อยตัวเอง ต้องนั่งรถไปกลับ รพ. ทุกวัน
ทั้งที่เจ็บแผลผ่า ไหนจะปั๊มนมอีกกก ~
แถมค่ารักษา ก็นู่นนนนน หมดตัวได้เลย
ด้วยความเข้มแข็งของคุณแม่ ในที่สุดหนูน้อยก็เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงแล้วนะคะ คุณแม่เก่งมากๆ เลยค่ะ theAsianparent ขอขอบคุณคุณแม่ Lallychat Lerdkornprarphatt ที่แบ่งปันเรื่องราวอุทาหรณ์อันเป็นประโยชน์ ให้กับคุณแม่ท่านๆ อื่นได้เฝ้าระวังโรคภัยต่างๆ ของผู้หญิง รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่อาจเป็นอุปสรรคในการมีลูก อย่างไรก็ตาม อาการหรือความรุนแรงอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสุขภาพส่วนตัวร่วมด้วย หากคุณแม่มีเนื้องอกในมดลูก และต้องการมีลูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดนะคะ

สำหรับผู้หญิงทุกคน เนื้องอกมดลูก อันตรายอย่างไร เรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่าค่ะ
เนื้องอกมดลูก คืออะไร?
เนื้องอกมดลูก เกิดจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกที่โตผิดปกติ สามารถเกิดได้ทั้ง ด้านนอกผนังมดลูก ภายในเนื้อมดลูก หรือในโพรงมดลูก
โดยเนื้องอกมี 2 ชนิด คือ ชนิดธรรมดา (ไม่ใช่มะเร็ง) และ ชนิดที่เป็นมะเร็ง แต่ข่าวดีคือ ส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นชนิดธรรมดา ไม่ใช่มะเร็งค่ะ
ใครเสี่ยงเป็นเนื้องอกในมดลูก?
แม้แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่พบว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนสำคัญ เนื้องอกจึงพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ (20–50 ปี) และมักจะฝ่อตัวลงหลังหมดประจำเดือน
อาการที่ควรระวัง
ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของก้อน อาจมีอาการ เช่น
- ปวดท้องน้อย หรือปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ
- เลือดออกเยอะในช่วงมีประจำเดือน
- ปัสสาวะบ่อย หรือท้องผูก
- แท้งง่าย หรือมีลูกยาก
- คลำพบก้อนที่ท้องได้เอง
การวินิจฉัย
แพทย์จะซักประวัติ ตรวจภายใน และใช้การอัลตราซาวด์เพื่อยืนยันตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก
วิธีรักษา
ขึ้นอยู่กับขนาดก้อน และว่าคุณแม่ยังต้องการมีลูกหรือไม่ค่ะ
- ก้อนเล็ก อาการไม่มาก: ใช้ยาแก้ปวดและติดตามอาการ
- ก้อนใหญ่ หรือมีอาการชัดเจน: ผ่าตัดเอาออก ซึ่งมี 2 วิธี
- ผ่าเปิดหน้าท้อง กรณีผ่าตัดเนื้องอกและมดลูกออกหมดจะทำให้การรักษาหายขาด เหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตรเพียงพอแล้ว หรือผู้ป่วยอายุมาก
- ผ่าตัดผ่านกล้อง แผลเล็ก หายเร็ว แต่มีโอกาสกลับมาเป็นเนื้องอกในมดลูกใหม่ได้
ในกรณีที่คุณแม่ต้องการมีลูก ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับคุณแม่แต่ละคนมากที่สุด

เนื้องอกมดลูกขณะตั้งครรภ์ อันตรายแค่ไหน?
เนื้องอกมดลูก อาจมีขนาดเปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งครรภ์เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น
การดูแลระหว่างตั้งครรภ์
คุณแม่ที่มีปัญหาสุขภาพควรฝากครรภ์สม่ำเสมอเพื่อติดตามก้อนเนื้องอกและการเจริญเติบโตของลูก รีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนด หรือเลือดออกผิดปกติ หากมีความเสี่ยงคุณหมออาจให้ยายับยั้งการคลอดและยากระตุ้นปอดทารก
เนื้องอกมดลูกกับมะเร็ง
มีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้ แต่น้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง ภาวะแทรกซ้อนพบไม่บ่อย แต่ถ้าก้อนกดทับท่อไต อาจทำให้เกิดโรคไตได้
เนื้องอกมดลูก ห้ามกินอะไร
- เนื้อแดงและเนื้อแปรรูป – อาจเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงเนื้องอกมดลูก
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ – มีผลต่อระดับฮอร์โมน อาจกระตุ้นการเกิดเนื้องอก
- น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว – ทำให้น้ำหนักขึ้นและอาจเร่งการโตของเนื้องอก
- ผักและผลไม้ เช่น แอปเปิล บรอกโคลี ส้ม มะนาว มะเขือเทศ ช่วยลดฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกิน และให้สารต้านอนุมูลอิสระ
- ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ เช่น โยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกส์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและลำไส้ทำงานดี
วิธีป้องกันเนื้องอกในมดลูก
คุณแม่ควรเลือกวิธีคุมกำเนิดที่ไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอ ตรวจร่างกายและอัลตราซาวด์เป็นประจำ รวมทั้งสังเกตอาการผิดปกติแล้วรีบพบแพทย์ การอยู่ในความดูแลของแพทย์จะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ได้ดีที่สุดค่ะ
สุดท้ายนี้ขอให้คุณแม่ทุกคนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ตั้งครรภ์อย่างราบรื่น และคลอดลูกน้อยอย่างปลอดภัยนะคะ
ที่มา : โรงพยาบาลพญาไท , โรงพยาบาลนวเวช , โรงพยาบาลเมดพาร์ค , โรงพยาบาลกรุงเทพ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ คนอยากมีลูก กินอะไรให้พร้อมตั้งท้อง
เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ทำปอดรั่ว !? ใครปวดท้องเมนส์หนักทุกเดือน เช็กด่วน!
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!