“มดลูก” เป็นอวัยวะที่สำคัญในการตั้งครรภ์ค่ะ ดังนั้น คู่รักบ้านไหนที่วางแผนจะมีลูก การเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างสุขภาพที่ดีทั้งสำหรับคุณแม่และทารกในอนาคตค่ะ โดยเฉพาะการดูแลและบำรุงมดลูกให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์และรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนได้ดีขึ้น ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การเลือกอาหารที่เหมาะสม มาดูกันค่ะว่า อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ เพื่อสร้างรากฐานที่ดีสำหรับคนอยากมีลูก มีอะไรบ้าง อาหารแบบไหนจำเป็น เมนูไหนต้องลดหรืองดบ้าง เพื่อสร้างมดลูกแข็งแรงดีพร้อมสำหรับการมีลูกค่ะ

อาหารบํารุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ สำคัญยังไง?
จริงๆ แล้วการเตรียมความพร้อมก่อนการตั้งครรภ์นั้นมีหลายปัจจัยที่คุณแม่มือใหม่ต้องให้ความสำคัญนะคะนอกเหนือไปจาก “การกิน” การออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงแต่การจะบำรุงอวัยวะสำคัญในการรองรับทารกน้อยอย่าง “มดลูก” นั้น การเลือกอาหารที่เหมาะสมดูจะส่งผลได้อย่างมากค่ะ เนื่องจากเปรียบเสมือนการเติมวิตามินบำรุงรังไข่กับมดลูกนั่นเอง ซึ่งความสำคัญของ อาหารบํารุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ มีดังนี้
- ช่วยเตรียมความพร้อมเพื่อการมีแนวโน้มตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น จากการกินอาหารบำรุงมดลูกและรังไข่ให้แข็งแรงสมบูรณ์มากที่สุดเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเจริญพันธุ์มากขึ้น
- เมื่อมดลูกแข็งแรงจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ตัวอ่อนฝังตัวในมดลูกได้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สูงขึ้นด้วย
- การกินอาหารบำรุงมดลูกและรังไข่ จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแท้ง การคลอดบุตรก่อนกำหนด ตลอดจนเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์แก่ผู้ประสบภาวะมีบุตรยากได้
อย่างไรก็ตาม คุณแม่มือใหม่ที่วางแผนตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ หรือนักโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับ อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ รวมถึงพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลก่อนได้ค่ะ
|
“สารอาหาร” อะไรบ้าง? ที่ช่วย “บำรุงมดลูก”
|
โฟลิก |
- เป็นสารอาหารที่สำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพมดลูก
- ช่วยในการพัฒนาระบบประสาทของทารกในอนาคต
- ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาภาวะความผิดปกติของการเจริญเติบโตในทารก
- ช่วยเสริมการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย
|
วิตามิน E |
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงมดลูก
- ป้องกันการเกิดปัญหาภาวะมดลูกอักเสบหรือการติดเชื้อที่มดลูก
|
ธาตุเหล็ก |
- เป็นสารอาหารที่สำคัญในการสร้างเลือดและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับมดลูก
- ป้องกันภาวะโลหิตจางและความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่ไม่แข็งแรง
|
กรดไขมันโอเมก้า 3 |
- ช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของระบบสืบพันธุ์
- เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังมดลูก ทำให้มดลูกได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการเตรียมตัวสำหรับการตั้งครรภ์
|
วิตามิน C |
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- มีส่วนช่วยในการทำให้เยื่อบุผนังมดลูกแข็งแรงและยืดหยุ่น
|
สังกะสี (Zinc) |
- เป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์และระบบสืบพันธุ์
- ช่วยให้มดลูกพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
|

เปิดลิสต์ 15 อาหารบํารุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์
-
ข้าวกล้อง และข้าวโอ๊ต
เป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและส่งเสริมระบบทางเดินอาหารให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ มีคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานได้มาก เป็นสารอาหารที่สำคัญในช่วงการตั้งครรภ์เพื่อรองรับพัฒนาการของทารก มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น ธาตุเหล็ก และวิตามิน B ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก ช่วยในกระบวนการควบคุมน้ำหนักในระยะการตั้งครรภ์
-
ไข่
ช่วยบำรุงมดลูกและรังไข่ให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ เป็นอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน มีวิตามิน B1, B2, แคลเซียม และธาตุเหล็ก เป็นแหล่งสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมอง ลดการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ การกินไข่ในปริมาณที่เหมาะสมยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย โดยคุณแม่ที่วางแผนการตั้งครรภ์ควรกินไข่ทุกวัน โดยเฉพาะไข่เป็ด วันละ 1 ฟอง
-
นมสด
มีโปรตีนและแคลเซียมสูง ช่วยกระตุ้นการตกไข่และเสริมสร้างให้มดลูกแข็งแรง เหมาะสำหรับคนที่ประสบปัญหาการตกไข่โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผอมหรือมีน้ำหนักน้อย
-
แซลมอน
เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญ โดยเฉพาะสารอาหารอย่างโอเมก้า 3, สังกะสี, ธาตุเหล็ก และวิตามิน B12 ทั้งยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน และช่วยเกี่ยวกับระบบขับถ่ายด้วย
-
หอยนางรม
ครอบครัวไหนมีปัญหาภาวะมีบุตรยาก กำลังมองหา อาหารบํารุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ ควรกินหอยนางรมก่อนวันไข่ตกค่ะ เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุสังกะสี ช่วยกระตุ้นการผลิตไข่ที่มีคุณภาพ
-
เมล็ดฟักทอง
อุดมด้วยสังกะสีที่ช่วยลดโอกาสแท้งระหว่างตั้งครรภ์ ทั้งยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 กับธาตุเหล็ก ซึ่งธาตุเหล็กที่ได้จากพืชนั้นร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ดีกว่าธาตุเหล็กที่ได้จากสัตว์ค่ะ
-
ถั่ว
เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการบำรุงมดลูก เพราะโปรตีนจากถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วปากอ้า ถั่วพู หรือถั่วแขก ล้วนมีโปรตีนและธาตุเหล็กสูง จึงช่วยผลิตไข่ที่มีคุณภาพ เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ รวมถึงลดโอกาสเกิดเนื้องอกในมดลูกได้
-
งาดำ
การทานงาดำอย่างน้อย วันละ 3-4 ช้อนชาเป็นประจำมีส่วนช่วยแก้ปัญหาโรคนอนไม่หลับ ช่วยทำให้สมองผ่อนคลาย และเสริมสร้างแคลเซียมแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี หากนอนหลับพักผ่อนเพียงพอจะส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายก็ทำงานปกติ นับเป็นอีกหนึ่งอาหารบำรุงไข่และมดลูกให้แข็งแรงเตรียมความพร้อมสำหรับมีบุตร ยิ่งรับประทานระหว่างตั้งครรภ์ก็ยิ่งส่งผลดีต่อทารกในครรภ์อีกด้วย
-
น้ำเต้าหู้
การดื่มน้ำเต้าหู้ที่ทำมาจากถั่วเหลืองซึ่งมีโปรตีนสูงเป็นประจำ มีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์สูง น้ำเต้าหู้ยังเป็นอาหารบำรุงในช่วงตั้งครรภ์ได้เช่นกัน เพราะจะช่วยเสริมโปรตีนให้กับทารกในครรภ์ ลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพ้นมวัว และเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กับร่างกายคุณแม่ด้วย
-
ผักโขม
เป็นผักใบเขียวที่มีโฟเลต หรือ “กรดโฟลิก” สูง ช่วยป้องกันความเสี่ยงการตั้งครรภ์ผิดปกติ ตลอดจนช่วยกระตุ้นร่างกายให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น การกินผักโขม และผักใบเขียวอื่นๆ เป็นประจำยังช่วยให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหารอย่างเพียงพอ ทำให้ขับถ่ายสะดวกด้วย

-
หน่อไม้ฝรั่ง
เป็น อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ ที่มีไนอะซินและวิตามินบี 3 ซึ่งดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต บำรุงกระดูกให้แข็งแรง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
-
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะวิตามิน C ที่ช่วยให้เซลล์ในร่างกายซ่อมแซมตัวเองจากโรคต่างๆ ตลอดจนบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญพันธุ์ของคุณแม่ เบอร์รี่ต่าง ๆ จึงเป็นอาหารบํารุงมดลูกก่อนตั้งครรภ์ที่มีประโยชน์อย่างมาก
-
อโวคาโด
เป็นกลุ่มผลไม้ที่เป็นไขมันดีต่อร่างกายและช่วยสร้างสมดุลแก่ฮอร์โมนของคุณแม่ ป้องกันภาวะมีบุตรยาก
-
มะเขือเทศ
มี “ไลโคปีน” (Lycopene) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินในร่างกาย ทำให้ลดรอยหมองคล้ำ มอบผิวให้อิ่มน้ำสุขภาพดี
-
กล้วยหอม
ให้พลังงานสูง อุดทโพแทสเซียม, วิตามินบี 6, เกลือแร่, กลูโคส และกากใยที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ปรับการทำงานของระบบประสาทกับกล้ามเนื้อ เป็นอาหารที่สามารถกินได้ทุกช่วงเวลาและอิ่มท้องนาน

|
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ก่อนตั้งครรภ์
|
อาหารที่มีน้ำตาลสูง |
เช่น ขนมหวาน บิสกิต เค้ก น้ำอัดลม อาจส่งผลต่อระดับความดันโลหิตและน้ำหนักตัวของทารกในภายหลัง |
อาหารไขมันสูง |
โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว ซึ่งอาจทำให้มีคอเลสเตอรอลสะสมในปริมาณมาก เช่น ของทอด อาหารฟาสต์ฟูด ชาบู หมูกระทะ |
อาหารแปรรูป |
อาหารที่ผ่านกระบวนการบ่ม หมักเกลือ รมควัน ตากแห้ง เช่น ไส้กรอก เบคอน โบโลนา หมูยอ แหนม อาจมีโซเดียมสูง มีวัตถุกันเสีย หรือปนเปื้อนเชื้อลิสทีเรีย (Listeria) |
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ |
เหล้า เบียร์ ไวน์ โซจู น้ำพันช์ อาจลดโอกาสในการตั้งครรภ์ และส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ |
การกิน อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ ไม่จำเป็นต้องกินเฉพาะอาหาร 15 อย่างที่เราบอกนะคะ แต่ควรกินอาหารที่หลากหลาย ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ สดใหม่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารเคมีตกค้าง รวมถึงดื่มน้ำมากๆ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายโดยรวม ช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ในบางกรณีที่คุณแม่ซึ่งกำลังวางแผนตั้งครรภ์ไม่สามารถกินอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นครบถ้วนจากอาหารตามปกติ อาจต้องพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น กรดโฟลิกหรือวิตามินที่ช่วยบำรุงมดลูก แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอนะคะ

ดูแลตัวเองยังไง? ให้พร้อม ก่อนตั้งครรภ์
การกินอาหารให้เหมาะสมมีส่วนช่วยในการบำรุงมดลูกและรังไข่ให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ แต่ก็ควรเป็นไปร่วมกับการปฏิบัติตัวและการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีด้วย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ และส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภำด้ ดังนี้ค่ะ
โดยงดตั้งแต่ในช่วงวางแผนตั้งครรภ์ไปจนตลอดการตั้งครรภ์และการให้นม เนื่องจากอาจทำให้ท่อนำไข่ตีบตันและลดโอกาสการตั้งครรภ์ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจทำให้ตัวอ่อนเสียหายขณะที่ฝังตัวที่ผนังมดลูก และทารกในครรภ์มีปัญหาด้านพัฒนาการและการเจริญเติบโตได้ค่ะ
-
หยุดการคุมกำเนิดด้วยวิธีต่างๆ
เช่น ยาคุมกำเนิด ถุงยางอนามัย ห่วงอนามัย และอาจรออย่างน้อย 3 เดือน หลังหยุดคุมกำเนิดจึงค่อยพยายามตั้งครรภ์ เพื่อลดความเสี่ยงในการแท้งบุตร
กิจกรรมทางเพศควรเกิดขึ้นทุก ๆ 2-3 วันเป็นอย่างต่ำค่ะ และคุณแม่ไม่ควรเครียดหรือกดดันตัวเองมากเกินไป เนื่องจากอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ ลดแรงขับทางเพศ รวมถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้ตั้งครรภ์ได้ยากขึ้น
การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในวิธีดูแลมดลูกให้แข็งแรงเช่นกัน เช่น ว่ายน้ำ, โยคะ, แอโรบิก รวมไปถึงการบริหารอุ้งเชิงกรานโดยการขมิบค้างไว้ประมาณ 5 วินาที สลับกับผ่อนคลาย 5 วินาที ทำแบบนี้ได้เรื่อยๆ ช่วยได้มากค่ะ
-
นวดเพิ่มความแข็งแรงของมดลูก
เป็นการนวดเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ได้ดียิ่งขึ้น เพราะช่วยเพิ่มออกซิเจนในกระแสเลือด ส่งผลให้กล้ามเนื้อมดลูกแข็งแรง สามารถรองรับตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิได้ เมื่อท่อนำไข่เคลื่อนไหวดีก็จะเพิ่มโอกาสการผสมระหว่างไข่กับอสุจิที่เกิดขึ้นในท่อรังไข่สูงขึ้น มดลูกสามารถบีบไล่เลือดประจำเดือนได้ดี ลดอาการปวดประจำเดือน และช่วยขับสารพิษของเสียหรือของตกค้างที่อยู่ในโพรงมดลูกออกได้
โดยควรตรวจภายในและตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพราะบางโรคอาจไม่แสดงอาการในช่วงแรกๆ แต่จะแสดงอาการออกมาในระดับขั้นรุนแรงแล้วซึ่งทำให้ยากต่อการรักษา โดยควรตรวจเพื่อหาโรคต่างๆ ดังนี้
- ตรวจคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก
- ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้, โรคหนองในเทียม, โรคเริม, โรคพยาธิในช่องคลอดจากการติดเชื้อ หรือโรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV)
- ตรวจหาการติดเชื้อในช่องคลอด เช่น การติดเชื้อรา หรือแบคทีเรีย
- ตรวจและหาสาเหตุความผิดปกติของมดลูก เช่น ภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก, ตกขาวผิดปกติ, เนื้องอกมดลูก, เนื้องอกรังไข่ หรือภาวะมดลูกหย่อน
- ตรวจก่อนการคุมกำเนิด เพื่อดูว่าอุปกรณ์ที่จะใช้มีความเหมาะสม เช่น การใส่ห่วงอนามัย
- ตรวจเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เพื่อประเมินความพร้อมในการตั้งครรภ์ หาความเสี่ยง และป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง

นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สุขภาพจิต ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์นะคะ เพราะการสะสมความเครียดมากเกินไปจะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่ผิดปกติ ขาดสมดุล ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งการทำงานของมดลูกและประจำเดือนมาไม่ปกติได้ ดังนั้น ลองหากิจกรรมผ่อนคลายเพื่อลดความเครียด เช่น นั่งสมาธิ หรือฟังเพลง และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนอย่างสมดุล มดลูกและรังไข่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการตั้งครรภ์ในอนาคตค่ะ
ที่มา : beyondivf.com , www.birthsongbotanicals.com , hellokhunmor.com , www.abcthebaby.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ที่ตรวจไข่ตก ดีอย่างไร? อุปกรณ์ช่วยนับวันตกไข่สำหรับคุณแม่
การนับประจำเดือน คืออะไร แล้วนับประจำเดือนส่งผลดีอย่างไร
ความเครียด ทำให้มีลูกยากจริงไหม? แม่เครียดมาก ๆ กลัวตั้งครรภ์ไม่ได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!