รู้ไหมคะว่า ความพิการแต่กำเนิดของทารกในไทยนั้นสามารถพบได้ถึง 3 ใน 100 คน หรือราว 30,000 คนต่อปี ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงบางประการที่อาจนำไปสู่ความพิการแต่กำเนิดของลูกน้อยได้ บทความนี้จะมาแนะนำ 6 เคล็ดลับลดความเสี่ยง ทารกพิการแต่กำเนิด ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการคลอดลูกน้อยออกมาให้แข็งแรงสมบูรณ์ค่ะ
ทารกพิการแต่กำเนิด คืออะไร?
ก่อนจะไปดูเคล็ดลับลดความเสี่ยง ทารกพิการแต่กำเนิด มาทำความเข้าใจกันสักนิดค่ะว่าความพิการแต่กำเนิดคืออะไร? ซึ่งความพิการแต่กำเนิดนั้นเป็น ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับทารกตั้งแต่แรกเกิด โดยเกิดจากการเจริญผิดปกติของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทำให้เด็กที่คลอดออกมามีความผิดปกติทางรูปร่าง หรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง และอาจเป็นได้ทั้งความผิดปกติทางร่างกาย จิตใจ หรือพัฒนาการ ที่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของลูกน้อยในระยะยาวได้

กลุ่มโรคความเสี่ยง ทารกพิการแต่กำเนิด มีอะไรบ้าง
จริงๆ แล้วโรคที่จัดว่าเป็นความพิการแต่กำเนิดนั้นมีอยู่มากกว่า 7,000 โรคค่ะ ซึ่งมีหลายภาวะ แต่ส่วนใหญ่จะมี 6 กลุ่มโรคที่มีโอกาสพบ ได้แก่
-
โรคหลอดประสาทไม่ปิด
- พบได้ 1 ต่อ 800 ของทารกแรกเกิด
- เกิดจากหลอดประสาทเชื่อมปิดไม่สมบูรณ์ระหว่างตัวอ่อนมีอายุได้ 23-28 วันหลังปฏิสนธิ
- เป็นผลจากทั้งปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม เช่น การขาดโฟลิกในช่วงตั้งครรภ์ หรือได้รับสารเคมีระหว่างตั้งครรภ์ บางครั้งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
- 90% ของทารกที่ได้รับการผ่าตัดแก้ไขจะมีชีวิตเกิน 1 ปี และ 75% ของทารกพิการแต่กำเนิด ด้วยโรคนี้สามารถมีชีวิตจนเป็นผู้ใหญ่ได้ แต่จะพิการขาทั้งสองข้าง ระบบทางเดินปัสสาวะ-อุจจาระทำงานบกพร่อง และยังอาจมีอาการพิการทางสมองร่วมด้วย
-
ปากแหว่งเพดานโหว่
- เป็นความพิการของส่วนศีรษะและใบหน้า ทารกจะมีปัญหาการดูดกลืนอาหาร เจริญเติบโตช้า ระบบทางเดินหายใจไม่ปกติ และมีปัญหาด้านการสื่อสาร
- พบ 1 ต่อ 1,000 ราย
- เกิดจากพันธุกรรมและภาวะขาดสารของแม่ในขณะที่ตั้งครรภ์ ฯลฯ
- ปัจจุบันสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด
- ทารกพิการแต่กำเนิดด้วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่นี้อาจได้รับผลกระทบกับจิตใจด้วย เนื่องจากจะมีปมด้อยในการเข้าสังคมเพราะหน้าตาและการพูดไม่ปกติ แม้ว่าจะได้รับการผ่าตัดแล้วก็ตาม

-
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- คือภาวะที่มีความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะใน 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
- ความผิดปกติที่เกิดขึ้นทำให้มีเลือดดำปนอยู่ในเลือดแดงที่ไปเลี้ยงร่างกาย
- เป็นโรคที่มีความแตกต่างกันตามอาการที่แสดง การรักษาและการดูแลผู้ป่วยจึงแตกต่างกันตามแต่กรณี
-
แขน ขาพิการ
- พบในทารก 2 ต่อ 1,000 ราย
- เกิดจากความผิดปกติในการสร้างอวัยวะระหว่างอยู่ในครรภ์ 3 เดือนแรก ซึ่งสามารถตรวจทราบได้ตั้งแต่ยังไม่คลอด
- สาเหตุความผิดปกติมักเป็นเพราะการใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์ การได้รับสารพิษ หรือติดเชื้อ แม่ไม่ได้วิตามินโฟลิก หรือกินอาหารที่มีโฟเลต จึงเกิดความผิดพลาดขึ้นตอนที่มีการปฏิสนธิ ทำให้เกิดความพิการ
- ความพิการจากโรคนี้เกิดขึ้นได้หลายตำแหน่ง ทั้งแขน ขา มือ เท้า ตลอดจนกระดูกเชิงกราน
- ทารกจะแสดงอาการตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์
-
กลุ่มอาการดาวน์ หรือดาวน์ซินโดรม
- เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม ในคนปกติจะมี 46 โครโมโซม แต่คนที่เป็นโรคดังกล่าวมี 47 โครโมโซม
- เป็นความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ที่พบได้บ่อยที่สุดจากแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก
- พบในทารก 1 ต่อ 1,000 ราย
- ทารกจะมีลักษณะของตาที่เฉียงขึ้นบน ดั้งจมูกแบน ตาห่าง มือเท้าสั้น กล้ามเนื้อที่อ่อนแรง และมักจะมีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดร่วมด้วย และมีพัฒนาการทางสมองล่าช้า

-
กลุ่มโรคกล้ามเนื้อเสื่อมพันธุกรรมดูเชนน์ (Duchenne muscular dystrophy)
- พบได้ไม่บ่อยนัก มักเกิดกับเด็กผู้ชายราว 1 ใน 5,000 คนจากทั่วโลก
- เป็นหนึ่งในโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงทางพันธุกรรม
- เกิดจากพันธุกรรมของยีน โดยเฉพาะในเด็กผู้ชายเมื่ออายุ 3-4 ขวบ ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรงลงเรื่อยๆ
- ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่จะเป็นการรักษาแบบประคับประคองเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติในช่วงเวลาหนึ่ง
- ป้องกันได้โดยการตรวจยีนของคุณแม่ก่อนมีบุตร
สาเหตุความเสี่ยง ทารกพิการแต่กำเนิด
อย่าชะล่าคิดว่าความพิการแต่กำเนิดเป็นเรื่องไกลตัวนะคะ โดยเฉพาะกรณีที่ในครอบครัวไม่เคยมีประวัติพิการมาก่อน เพราะความจริงแล้วการที่ทารกพิการแต่กำเนิด เกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ใช่เฉพาะจากพันธุกรรมเท่านั้น แต่ปัจจัยที่เกิดจากการกินยาของคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือการขาดสารอาหารบางชนิดก็ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ลูกน้อยจะพิการตั้งแต่กำเนิดได้เช่นกันค่ะ
|
สาเหตุ ทารกพิการแต่กำเนิด
|
โครโมโซมผิดปกติ |
อาจมีสาเหตุจากทั้งจากพ่อและแม่ โดยส่วนมากจะเกิดในเด็กที่คุณแม่ตั้งครรภ์เมื่ออายุเกิน 35 ปี |
ความผิดปกติจากการได้รับยาหรือขาดสารอาหาร |
คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ขาดกรดโฟลิก เหล็ก และไอโอดีน หรือมีการรับยาบางชนิด เช่น กลุ่มยารักษาสิว ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทารกในครรภ์มีโอกาสที่จะพิการแต่กำเนิดได้ |
การติดเชื้อ |
ในกรณีคุณแม่ติดเชื้อบางชนิดที่มีผลต่อทารกในครรภ์ จะนำมาสู่การพิการแต่กำเนิด เช่น ถ้าแม่ติดเชื้อหัดเยอรมัน อาจทำให้ทารกในครรภ์มีภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิด |

6 เคล็ดลับลดความเสี่ยง ทารกพิการแต่กำเนิด
ความเสี่ยงทารกพิการแต่กำเนิดไม่ได้สามารถป้องกันได้ทั้งหมดนะคะ แต่ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกที่มีพัฒนาการปกติได้ มาดูกันว่า 6 เคล็ดลับลดความเสี่ยง ทารกพิการแต่กำเนิด ที่จะช่วยให้คุณแม่มีการตั้งครรภ์ที่แข็งแรงมีอะไรบ้าง
-
วางแผนการตั้งครรภ์และปรึกษาแพทย์
มีสถิติที่พบว่า 50% ของคุณแม่ตั้งครรภ์ในปัจจุบันไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนค่ะ ขณะที่ภาวะความพิการแต่กำเนิดนั้นควรจะมีการป้องกันตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งค่ะที่คุณแม่จะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ เพื่อตรวจเช็กโรคประจำตัว ประวัติทางการแพทย์ ยาที่กิน ประวัติสุขภาพของคนในครอบครัว ไปจนถึงแผนการรักษาเพื่อให้คุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนที่แนะนำให้ฉีดก่อนตั้งครรภ์ เช่น วัคซีนหัด โรคคางทูม โรคหัดเยอรมัน (MMR) ที่ต้องได้รับอย่างน้อย 1 เดือนหรือมากกว่านั้นก่อนจะตั้งครรภ์
-
ได้รับกรดโฟลิกอย่างเพียงพอ
กรดโฟลิกเป็นวิตามินที่สำคัญในการพัฒนาสมองและกระดูกสันหลังของทารกค่ะ คุณแม่ที่กินอาหารที่มีโฟเลต เช่น ไข่แดง ตับ ผักใบเขียวเข้ม แครอท แคนตาลูป ฟักทอง อะโวคาโด ถั่ว รวมถึงโฟลิกในรูปแบบเม็ด มีส่วนสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงพิการแต่กำเนิดได้ถึง 50% โดยคุณแม่ควรกินกรดโฟลิกอย่างน้อย 400 ไมโครกรัมต่อวัน ในช่วงก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน และต่อเนื่องจนถึง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ควบคู่กับการกินธาตุเหล็กและไอโอดีนตามคำแนะนำของแพทย์

-
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
ไม่เพียงอาหารในกลุ่มที่มีกรมโฟลิกเท่านั้น แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกินอาหารที่มีประโยชน์และกินให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์ พักผ่อนให้เพียงพอและเรียนรู้วิธีที่จะจัดการไม่ให้เกิดความเครียด ที่สำคัญคือควบคุมน้ำหนักตัวให้พอดี เพราะน้ำหนักตัวที่น้อยกว่าเกณฑ์ หรือน้ำหนักเกิน ไปจนถึงการมีภาวะโรคอ้วน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ทารกพิการแต่กำเนิด และภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ได้มากยิ่งขึ้นค่ะ
-
หลีกเลี่ยงสารอันตราย
เมื่อวางแผนการตั้งครรภ์คุณแม่ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ (รวมถึงการรับควันบุหรี่) และงดการใช้สารเสพติด หรือสัมผัสสารเคมีอันตราย เช่น ยาฆ่าแมลง สารตะกั่ว และรังสี โดยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความปลอดภัยของยาที่กิน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เพิ่มความเสี่ยงที่ลูกน้อยจะพิการแต่กำเนิด
-
ตรวจคัดกรองความผิดปกติของทารกในครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์ตวนได้รับการตรวจคัดกรองตามคำแนะนำของแพทย์ก่อน เช่น การตรวจอัลตราซาวนด์ การเจาะน้ำคร่ำ และการตรวจเลือด เบาหวาน ซึ่งการตรวจคัดกรองจะสามารถช่วยให้พบความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และวางแผนการดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสมค่ะ

-
สุขภาพคุณพ่อก็สำคัญ
คุณแม่เป็นคนอุ้มท้องลูกน้อยก็จริงค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณพ่อเลย เพราะโรคในกลุ่มความพิการแต่กำเนิดบางอย่างอาจเกิดจากฝ่ายชายได้เช่นกัน ทั้งพันธุกรรม อายุ ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งค่ะที่คุณพ่อจะต้องตรวจสุขภาพและวางแผนการดูแลสุขภาพก่อนการมีบุตรด้วยเช่นกัน
การตระหนักรู้ถึงวิธีป้องกัน การลดความเสี่ยงที่ทารกจะเกิดมาพิการแต่กำเนิดนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มต้นทำได้ได้ตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์นะคะ โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพตัวเอง และการขอคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนการตั้งครรภ์ จะช่วยให้ทารกน้อยมีโอกาสเติบโตและมีพัฒนาการสมวัย ปลอดภัยจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
ที่มา : www.healthychildren.org , hdmall.co.th , www.thaihealth.or.th , multimedia.anamai.moph.go.th , www.rama.mahidol.ac.th
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วัคซีนคนท้อง สำคัญอย่างไร? วัคซีนที่คนท้อง ต้องฉีด vs ต้องห้าม
ลูกดิ้นตอนกี่เดือน รู้สึกอย่างไร? สัมผัสแรกแห่งรักจากลูกน้อยในครรภ์
ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง ? คุณแม่มือใหม่กดท้องเองได้มั้ย? เช็กขนาดท้องแม่แต่ละเดือน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!