หลายครอบครัวไทยเติบโตมากับแนวคิดว่า “เป็นเด็กดีต้องไม่สู้คน” แต่ในโลกปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงและการกลั่นแกล้ง (bullying) เกิดขึ้นได้ทั้งในชีวิตจริงและโลกออนไลน์ การสอนลูกให้ “กล้าสู้” จึงไม่ใช่เรื่องของความก้าวร้าว แต่การ สอนลูกให้สู้คน คือการเสริมพลังภายใน (empowerment) เพื่อให้ลูกรู้จักปกป้องตัวเองอย่างเหมาะสม เด็กที่ถูกสอนให้ยอมตลอดเวลา มักกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่กล้าพูดปฏิเสธแม้จะรู้สึกไม่สบายใจ
สถานการณ์การบูลลี่ในประเทศไทย
การบูลลี่ในโรงเรียนไทยเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยมีข้อมูลจากหลายแหล่งที่ชี้ให้เห็นถึงความรุนแรงของสถานการณ์
- 92% ของนักเรียนไทย เคยถูกกลั่นแกล้งทางร่างกายหรือจิตใจในโรงเรียน โดย 13% มีภาวะซึมเศร้าทางคลินิก จากการถูกบูลลี่
- การบูลลี่ที่พบบ่อย ได้แก่ การทำร้ายร่างกาย (62%) การล้อเลียนชื่อพ่อแม่ (43%) และการเรียกชื่อหยาบคาย (42%)
- เด็กชาย มักถูกทำร้ายทางร่างกาย เช่น การตี เตะ ผลัก หรือขังไว้ ส่วน เด็กหญิง มักถูกล้อเลียนด้วยคำพูดหรือท่าทางทางเพศ
- เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น (ADHD) มีอัตราการถูกบูลลี่สูงถึง 69.4% โดยส่วนใหญ่เป็นเหยื่อมากกว่าผู้กระทำ
ผลกระทบของการบูลลี่ต่อเด็ก
การบูลลี่มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเด็กอย่างลึกซึ้ง
- ความเครียดและความวิตกกังวล: เด็กที่ถูกบูลลี่มีแนวโน้มที่จะมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า และความนับถือตนเองต่ำ
- ผลกระทบต่อการเรียน: เด็กที่ถูกบูลลี่มักมีผลการเรียนตกต่ำ และอาจหลีกเลี่ยงการไปโรงเรียน
- ผลกระทบระยะยาว: การบูลลี่ในวัยเด็กอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในวัยผู้ใหญ่ เช่น ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
การบูลลี่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งในด้านจิตใจและพฤติกรรม การสอนลูกให้มีทักษะการเผชิญหน้าอย่างมั่นใจโดยไม่ใช้ความรุนแรงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและลดผลกระทบจากการบูลลี่ พ่อแม่และผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างทักษะเหล่านี้ให้กับลูก เพื่อให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นใจและมีสุขภาพจิตที่ดี

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่า “สู้คน”
- สอนลูกให้สู้คน ไม่ใช่การสอนให้ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการสอนให้เผชิญกับความไม่ยุติธรรมอย่างมีสติ
- สอนลูกให้สู้คน ไม่ใช่การฝึกให้ก้าวร้าว แต่เป็นการฝึกความมั่นใจในการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
- สอนลูกให้สู้คน ไม่ใช่การสร้างศัตรู แต่เป็นการสร้างความกล้าหาญในการสื่อสารความรู้สึก
ในสังคมไทยที่ผ่านมา เด็กที่ “ไม่สู้คน” มักได้รับคำชมว่าเป็นเด็กดี เรียบร้อย และไม่ก่อปัญหา แต่เมื่อโลกหมุนเปลี่ยนไป ความสามารถในการเผชิญหน้ากับปัญหา การปกป้องตนเอง และการกล้าพูดในสิ่งที่คิด กลายเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เด็กสามารถอยู่รอดและเติบโตอย่างมั่นคงในสังคมยุคใหม่ได้ การสอนลูกให้ “สู้คน” ในที่นี้ไม่ใช่การสอนให้ทะเลาะหรือใช้กำลัง แต่คือการปลูกฝังทักษะการเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ มีสติ และมีขอบเขตที่ชัดเจน
บทความที่เกี่ยวข้อง 50 สิ่งที่พ่อควรสอนลูกชาย ตั้งแต่เด็ก บทเรียนที่ลูกชายจะใช้ได้ตลอดไป
สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกควรเรียนรู้เรื่อง “การสู้คน”
- มักถูกเพื่อนล้อจนร้องไห้แต่ไม่กล้าบอกใคร
- มีพฤติกรรมยอมตามทุกอย่าง แม้ไม่เห็นด้วย
- ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าพูดความในใจ
- กลับมาบ้านแล้วเก็บความเครียดไว้คนเดียว

หลักการสอนลูกให้ “สู้คน” อย่างสร้างสรรค์
- สอนให้รู้จักขอบเขตของตัวเอง : เริ่มจากให้ลูกรู้ว่าร่างกาย ความคิด และพื้นที่ส่วนตัวของเขามีคุณค่า และเขามีสิทธิ์ที่จะพูดว่า “ไม่”
- ฝึกให้ลูกรู้จักพูด “ไม่” อย่างมั่นใจ : เช่น “หนูไม่ชอบให้พูดแบบนี้” หรือ “หนูไม่อยากเล่นแบบนี้” โดยไม่ต้องเสียงดังหรือก้าวร้าว
- สอนการสื่อสารเชิงบวก : ให้ลูกกล้าพูดความรู้สึกของตัวเองด้วยคำสุภาพ แต่หนักแน่น เช่น “หนูรู้สึกเสียใจที่เพื่อนพูดแบบนั้น” “หนูขอให้หยุดพูดล้อเลียนหนู”
- ฝึกสถานการณ์สมมติ : จำลองสถานการณ์ที่อาจเจอในชีวิตจริง เช่น เพื่อนแกล้ง ล้อชื่อ หรือแย่งของเล่น เพื่อฝึกวิธีตอบสนองอย่างมั่นใจ
- เสริมความมั่นใจผ่านกิจกรรม : กิจกรรมอย่างศิลปะการต่อสู้ เช่น เทควันโด หรือยูโด, การแสดง, หรือกีฬา เป็นเครื่องมือที่ดีในการฝึกวินัยและความกล้า งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (UCLA) พบว่า เด็กที่ได้ฝึกการโต้ตอบอย่างมั่นใจ มีแนวโน้มถูกรังแกน้อยลง และมีความเครียดทางสังคมน้อยลง (Smith et al., 2018)
บทความที่เกี่ยวข้อง มั่นใจเกินร้อย จะถอยยังไง? 5 เคล็ดลับ สอนลูกให้กล้ายอมรับความผิดพลาด
ถ้าลูกใช้ความรุนแรงกลับ จะทำอย่างไร?
พ่อแม่ควรให้พื้นที่ลูกเล่าเหตุการณ์อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ตัดสินก่อน แล้วแยกให้ลูกเห็นว่า “การกล้าสู้” ไม่เท่ากับ “การใช้กำลัง” การสอนให้ลูกควบคุมอารมณ์ตัวเอง เป็นรากฐานของความกล้าหาญที่แท้จริง
บทบาทของพ่อแม่ในการสร้าง นักสู้ที่มีหัวใจ
- รับฟังลูกโดยไม่ตำหนิ
- ชื่นชมเมื่อเขากล้าเผชิญหน้าอย่างสุภาพ
- เป็นแบบอย่างในการพูดและการตั้งขอบเขต
- ให้กำลังใจแม้ลูกจะกลัวหรือยังไม่กล้าสู้ในครั้งแรก
การ “สู้คน” ไม่ได้แปลว่าลูกของเราต้องเป็นนักเลง แต่หมายถึงการที่เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความกล้า รู้คุณค่าในตัวเอง และไม่ยอมให้ใครละเมิดสิทธิ์เขา การให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะ “ยืนหยัด” อย่างมั่นใจ คือของขวัญล้ำค่าที่พ่อแม่ทุกคนสามารถมอบให้เขาได้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
10 วิธีสอนลูกเรื่องเงิน ปลูกฝังนิสัยรักการออม ใช้เงินเป็นตั้งแต่เด็ก
วิธีสอนลูก เรื่องการคบเพื่อน ป้องกันลูกเดินทางผิด เพราะกลัวเพื่อนไม่คบ
10 วิธี สอนลูกสาวให้รักตัวเอง สร้างเกราะอันแข็งแกร่ง มีภูมิคุ้มกันทางใจ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!