เมื่อถึงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่อยากที่จะตั้งครรภ์มีบุตร คุณแม่หลายคนจึงอาจสงสัยว่าการ หยุดกินยาคุม จะส่งผลอะไรหรือไม่ เพราะหลายคนได้มีการคุมกำเนิดมาเป็นเวลานาน ทำให้กังวลใจว่าการหยุดกินยาคุม อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้ อย่าพึ่งกังวลใจไปค่ะ วันนี้เราจะพาคุณแม่ทุกท่านมาดูกันว่า การหยุดกินยาคุมจะส่งผลอะไร และเมื่อไหร่จะกลับมาตั้งครรภ์ได้เหมือนเดิม พร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ
หยุดกินยาคุม ตอนไหนได้บ้าง?
สำหรับสาว ๆ ที่รับประทานยาคุมกำเนิดมานาน และอยากจะหยุดกินยาคุมเพื่อปล่อยให้มีการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ คุณสามารถหยุดกินยาคุมได้ทันที โดยไม่ต้องปรึกษาแพทย์ แต่อาจต้องกินยาคุมให้หมดแผงก่อน และไม่ต้องเริ่มกินแผงใหม่ แต่หากคุณมีความจำเป็นต้องหยุดกินยาคุมกำเนิดกะทันหัน เช่น การเข้ารับการผ่าตัด อาจต้องหยุดกินยาคุมทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องกินจนหมดแผง
อยากตั้งครรภ์ ควรหยุดกินยาคุมเมื่อไหร่?
อย่างที่ทราบว่าคุณสามารถหยุดกินยาคุมตอนไหนก็ได้ เมื่อพร้อมที่จะตั้งครรภ์ หากคุณมีร่างกายที่แข็งแรง และมีเพศสัมพันธ์อย่างถูกเวลา ก็สามารถตั้งท้องได้ทันที อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้วิธีการคุมกำเนิดที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมน หากหยุดยาคุมแล้ว ร่างกายอาจต้องใช้เวลาในการจัดการฮอร์โมนที่ได้รับจากยาคุมเหล่านั้นประมาณ 2 เดือน จึงกล่าวได้ว่าผู้หญิงสามารถตั้งครรภ์ได้ หลังจากหยุดกินยาคุม 2 เดือนนั่นเอง นอกจากนี้ยาคุมแต่ละประเภทอาจต้องใช้เวลาในการกลับมาตั้งครรภ์เป็นปกติ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้
- ยาเม็ดคุมกำเนิด : หลังจากหยุดกินยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนผสมแล้ว คุณสามารถตั้งครรภ์ได้ภายใน 1-3 เดือน หรือบางรายอาจใช้เวลาถึง 1 ปี เนื่องจากยาคุมชนิดนี้ มีการขัดขวางการตกไข่ ทำให้ร่างกายต้องใช้เวลาในการปรับฮอร์โมนพอสมควร แต่สำหรับยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว คุณอาจใช้เวลาตั้งครรภ์ได้ภายในเวลาไม่นานหลังหยุดกินยา เพราะยาคุมชนิดนี้ไม่มีฤทธิ์ขัดขวางการตกไข่เท่ายาคุมแบบฮอร์โมนผสมนั่นเอง
- วงแหวนคุมกำเนิด : สำหรับวิธีคุมกำเนิดประเภทนี้ คุณอาจใช้เวลาในการกลับมาตกไข่ประมาณ 1-3 เดือนถึงมีโอกาสตั้งครรภ์
- แผ่นแปะคุมกำเนิด : หลังจากการหยุดใช้แผ่นแปะคุมกำเนิด คุณอาจใช้เวลาในการกลับมาตกไข่ประมาณ 1-3 เดือน ถึงมีโอกาสตั้งครรภ์ เช่นเดียวกับการหยุดใช้วงแหวนคุมกำเนิด
- ห่วงคุมกำเนิด : หลังจากการนำห่วงคุมกำเนิดออก จะทำให้คุณกลับมาตกไข่ปกติภายใน 1 เดือน และสามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ภายใน 1 ปี
- ยาฉีดคุมกำเนิด : ในส่วนของยาคุมกำเนิดประเภทนี้ อาจต้องใช้เวลาในการปรับสภาพร่างกายมากกว่ายาคุมประเภทอื่น ๆ โดยอาจต้องใช้เวลา 10 เดือนถึง 1 ปี หรือไม่ก็นานกว่านั้น จนกว่าคุณจะสามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ปกติ อย่างไรก็ตามคุณบางคนอาจต้องใช้เวลานานถึง 18 เดือนจนกว่าประจำเดือนจะกลับมาเป็นปกติ จึงส่งผลให้ต้องใช้เวลานานสำหรับการตั้งครรภ์
- ยาฝังคุมกำเนิด : โดยทั่วไปแล้ว หลังจากที่คุณนำยาฝังคุมกำเนิดออก จะสามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ปกติภายในเวลา 1 ปี
บทความที่เกี่ยวข้อง : คุมกำเนิด แบบไหนดี ? …วิธีคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ที่วัยรุ่นควรรู้!
หยุดกินยาคุม ประจำเดือนจะกลับมาปกติหรือไม่?
หลังจากคุณหยุดกินยาคุม ประจำเดือนอาจจะยังไม่กลับมาเป็นปกติ โดยอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2- เดือน เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพ เพราะยาคุมกำเนิดส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุณหยุดกินยาคุมกำเนิด และเริ่มตกไข่เป็นปกติ ก็สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ทันที ดังนั้นหากคุณประจำเดือนมาไม่ปกติหลังจากหยุดกินยาคุมกำเนิด และได้พยายามตั้งครรภ์แล้ว ก็อาจมีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ทันที คุณจึงอาจใช้ชุดตรวจตั้งครรภ์ หรือชุดตรวจตกไข่ และไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าท้องหรือไม่ก็ได้
อาการหลังหยุดกินยาคุม
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า หลังจากหยุดกินยาคุม คุณแม่อาจมีโอกาสในการตั้งครรภ์ มีปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอย และอาจมีประจำเดือนมาไม่ปกติ นอกจากนี้หลังจากที่คุณหยุดกินยาคุมแล้ว อาจมีอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- มีสิวขึ้น
- เจ็บเต้านม
- นอนไม่หลับ
- หงุดหงิด โกรธง่าย
- ประจำเดือนมามาก
- ท้องผูกหรือท้องเสีย
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- เป็นตะคริวในช่วงตกไข่
- ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ
- น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลง
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการแพ้ยาคุม เป็นอย่างไร 10 อาการกวนใจจากยาคุมกำเนิด
เลิกกินยาคุมนานแล้ว แต่ไม่ท้องทำอย่างไร?
หากคุณหยุดกินยาคุมมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการตั้งครรภ์ อาจมีโอกาสที่จะมีภาวะมีบุตรยาก เพราะภาวะการมีบุตรยากนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางด้านอายุ อสุจิไม่มีคุณภาพ หรือคุณภาพของไข่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางสุขภาพ เช่น น้ำหนัก การเจ็บป่วย หรือโรคประจำตัว เป็นต้น ดังนั้นคุณจึงควรไปตรวจ และปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
หยุดกินยาคุม แล้วจะกลับมากินได้เมื่อไหร่?
สำหรับสาว ๆ ที่หยุดกินยาคุมไป 1 เดือน หรือหยุดกินยาคุมไป 1 แผง แล้วอยากจะกลับมากินยาคุมใหม่อีก ควรเริ่มรับประทานยาคุมเม็ดแรกในวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน โดยให้นับวันจากการที่มีเลือดประจำเดือนไหลออกจากช่องคลอดเป็นวันที่ 1 เพื่อให้ร่างกายได้มีการตกไข่ครบรอบ แต่หากคุณหยุดกินยาคุมมานาน และอยากจะกลับมากินยาคุมกำเนิดอีกครั้ง ให้เริ่มกินเหมือนเริ่มกินยาคุมครั้งแรก โดยคุณสามารถเริ่มกินยาคุมเม็ดแรกในวันแรกที่มีประจำเดือน หรือภายใน 5 วันของการมีประจำเดือน อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้กินยาคุมภายใน 5 วันของการมีประจำเดือน ก็ควรใช้วิธีการคุมกำเนิดประเภทอื่น ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : กินยาคุมครั้งแรก มีอะไรที่จำเป็นต้องรู้บ้าง มาดูกัน!!
เมื่อไหร่ที่ไปควรพบแพทย์
นอกจากอาการต่าง ๆ ที่คุณอาจต้องเผชิญ คุณอาจต้องไปปรึกษาแพทย์หากไม่สามารถรักษาอาการเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้หากคุณประจำเดือนไม่กลับมาเป็นปกติภายใน 6 เดือนหลังจากหยุดกินยาคุมกำเนิด อาจต้องไปเข้ารับการรักษาเพื่อให้ประจำเดือนกลับมาเป็นปกติ อย่างไรก็ตามหากคุณมีอาการอื่น ๆ เช่น มีไข่ หนาวสั่น หรือมีเลือดออกจากช่องคลอดจำนวนมาก ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยต่อไป
หากคุณแม่ หยุดกินยาคุม ก็สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้เหมือนเดิม แต่อาจต้องใช้เวลาเพื่อให้ร่างกายได้มีการปรับสมดุลเสียก่อน ทั้งเรื่องการผลิตเซลล์ไข่ และการตกไข่ ซึ่งเมื่อถึงเวลาแล้ว ร่างกายคุณแม่ก็พร้อมที่ตั้งครรภ์ได้ปกติ แต่หากคุณหยุดกินยาคุมมาเป็นเวลานาน และมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ตั้งครรภ์อยู่ดี ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยต่อไปค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ยาคุมกินตอนไหน วิธีกินยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง ที่คุณไม่ควรพลาด
กินยาคุมฉุกเฉินแล้วท้อง เป็นไปได้หรือไม่ แล้วเราควรทำอย่างไร?
ยาคุมเม็ดฉุกเฉิน ไม่ควรกินกี่ครั้ง พร้อมเหตุผลที่แพทย์แนะไม่ควรใช้บ่อย
ที่มา : worldwideivf, yesmomfertility, dmscsmartlifeblog, medicalnewstoday
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!