X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

พ่อแม่ทำได้! กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ สร้างลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรง

บทความ 5 นาที
พ่อแม่ทำได้! กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ สร้างลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรง

เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยที่สร้างได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง เรามี 8 วิธี กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณพ่อแม่ทำได้ มาฝากค่ะ

รู้ไหมคะว่า การดูแลและกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ สำคัญไม่แพ้การดูแลเอาใจใส่สุขภาพกายและใจของคุณแม่ตั้งครรภ์เลยค่ะ เพราะพัฒนาการของทารกเริ่มขึ้นตั้งแต่ปฏิสนธิ ในแต่ละสัปดาห์ของการตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย คุณแม่จึงจำเป็นที่ต้องรู้ทุกการเปลี่ยนแปลงและทุกพัฒนาการของทารก หากมีการ กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ อย่างเหมาะสม จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรงและพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งเรามีวิธีกระตุ้นพัฒนาการทารกตั้งแต่ในครรภ์ที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้ด้วยตัวเองมาฝากค่ะ

พัฒนาการของทารกในครรภ์

▲▼สารบัญ

  • พัฒนาการของทารกในครรภ์
  • พัฒนาการตลอด 9 เดือน ของทารกในครรภ์
  • 3 ปัจจัยที่กระตุ้นการเคลื่อนไหว และ กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์
  • เสียง
  • แสง
  • สัมผัส
  • 8 วิธี กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณพ่อแม่ทำได้
  • พูดคุยและสื่อสารกับทารกในครรภ์
  • การฟังเพลง
  • การลูบหน้าท้อง สัมผัสท้องเบาๆ
  • ใช้ไฟฉายส่องท้อง
  • โภชนาการที่เหมาะสม
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • พักผ่อนอย่างเพียงพอ
  • การลดความเครียด

พัฒนาการของทารกในครรภ์

Advertisement

ก่อนจะไปดูวิธี กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ มาดูและทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าค่ะว่า ตลอดเวลา 9 เดือนที่อยู่ในพุงกลมๆ ของคุณแม่นั้นลูกน้อยมีพัฒนาการด้านต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง

พัฒนาการตลอด 9 เดือน ของทารกในครรภ์

ช่วงเดือนที่ 1-3
  • เป็นช่วงที่ร่างกายเริ่มมีการปฏิสนธิไข่ และฝังตัวอยู่ในผนังมดลูก
  • อวัยวะสำคัญของทารกเริ่มก่อตัว สมองและระบบประสาทพัฒนาอย่างรวดเร็ว
  • เมื่ออายุ 2 เดือนขึ้นไปร่างกายจะเริ่มสร้างอวัยวะต่างๆที่สำคัญขึ้นมา
เดือนที่ 4-5
  • ลูกน้อยที่เริ่มโตขึ้น เริ่มเคลื่อนไหวได้
  • การได้ยินและการมองเห็นเริ่มพัฒนา สามารถจดจำหรือแยกแยะเสียงของคุณพ่อคุณแม่ได้
ในเดือนที่ 6-7
  • เซลล์ประสาทภายในสมองของทารกมีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
  • ทารกจะเริ่มลืมตาหรือกะพริบตาเมื่อเห็นแสง บางครั้งอาจดิ้นแรงจนคุณแม่รู้สึกได้
เดือนที่ 8-9
( อายุครรภ์ 32-36 สัปดาห์)
  • เป็นช่วงที่ลูกอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมคลอด อวัยวะทุกส่วนเติบโตเต็มที่ พร้อมที่จะคลอดได้ตลอดเวลา

 

ทั้งนี้ โดยทั่วไปคุณแม่จะรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของลูกน้อยในครรภ์ได้เป็นครั้งแรก ก็คือช่วงอายุครรภ์ประมาณ 18-20 สัปดาห์ค่ะ ซึ่งช่วงเวลาที่แม่ท้องแต่ละคนรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของลูกน้อย หรือการที่ “ลูกดิ้น” จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตามความหนาของไขมันใต้ผิวหนังคุณแม่ ปริมาณน้ำคร่ำ และตำแหน่งของรกค่ะ

ปัจจัยกระตุ้นการเคลื่อนไหวทารกในครรภ์

3 ปัจจัยที่กระตุ้นการเคลื่อนไหว และ กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

เมื่อคุณแม่สามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของลูกน้อยในครรภ์ได้ ลองใช้ 3 ปัจจัยต่อไปนี้เพื่อสื่อสารและกระตุ้นการเคลื่อนไหว รวมทั้ง กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ กันดูสิคะ

  1. เสียง

การวิจัยของ National Academy of Sciences ระบุว่า ทารกมีการเรียนรู้ที่จะจดจำคำต่างๆ ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยจะเริ่มได้ยินเสียงต่างๆ ในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 24-26 สัปดาห์ การพูดคุยและเสียงเพลงจึงมีผลอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของทารก ซึ่งคุณแม่จะรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของลูกเมื่อมีการพูดคุยกับลูกในท้องหรือเพิ่มเสียงขณะฟังเพลงค่ะ

  1. แสง

ในช่วงเดือนที่ 6-7 ของการตั้งครรภ์ ทารกจะสามารถลืมตาและกะพริบตาได้ โดยม่านตามีการพัฒนาขึ้นและจะเริ่มตอบสนองต่อแสงที่กระทบครรภ์ แม้ภาพที่ทารกมองเห็นจะยังไม่ชัดเจน แต่เมื่อคุณแม่อยู่ในที่แสงจ้ามากๆ ก็มีโอกาสที่ลูกน้อยจะเคลื่อนไหวตอบสนองต่อแสงนั้น

  1. สัมผัส

โดยเฉพาะสัมผัสจากคุณแม่ เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของลูกในครรภ์ได้เป็นอย่างดี โดยลูกอาจมีการขยับแขน หัว หรือปาก เมื่อคุณแม่สัมผัสบริเวณท้องค่ะ

กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

8 วิธี กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณพ่อแม่ทำได้

การเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้ลูกน้อยนั้นไม่ต้องรอจนถึงวันคลอด หรืออาศัยการฟูมฟักเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถันหลังจากลูกน้อยลืมตาออกมาดูโลกเท่านั้น แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยสร้างพื้นฐานพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกน้อยได้ตั้งแต่ในครรภ์ มาดู 8 วิธี กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณพ่อแม่ทำได้กันค่ะ

  1. พูดคุยและสื่อสารกับทารกในครรภ์

คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มพูดคุยกับลูกน้อยได้ตั้งแต่เนิ่นๆ อาจใช้การอ่านนิทาน หรือเล่าเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้ลูกน้อยฟัง ซึ่งการพูดคุยกับทารกในครรภ์จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านภาษาและการสื่อสาร แม้ลูกน้อยจะยังไม่สามารถตอบสนองเหมือนเด็กที่คลอดออกมาแล้ว แต่ลูกก็สามารถรับรู้เสียงจากภายนอกได้ ลูกจะรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของพ่อแม่ สามารถช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูกในครรภ์ได้ ทั้งยังกระตุ้นพัฒนาการการได้ยินของทารกได้ดีด้วยค่ะ

 

  1. การฟังเพลง

เสียงเพลงที่มีจังหวะสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาเซลล์สมองของทารกในครรภ์ได้ ทั้งยังช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย ส่งเสริมการรับรู้ทางเสียงซึ่งเป็นทักษะสำคัญในช่วงเริ่มต้นของชีวิต ดังนั้น ในช่วงอายุครรภ์ 24-26 สัปดาห์ คุณพ่อคุณแม่จึงควรหาโอกาสเปิดเพลงบรรเลง เสียงนุ่มๆ หรือเพลงคลาสสิก ให้ลูกน้อยฟัง จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านการได้ยินรวมถึงพัฒนาการด้านอารมณ์ของทารกได้ค่ะ

 

ฟังเพลง กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

 

  1. การลูบหน้าท้อง สัมผัสท้องเบาๆ

การลูบหน้าท้องช่วยสร้างความผูกพันระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อย และกระตุ้นพัฒนาการทางด้านประสาทสัมผัส ช่วยให้ทารกรู้สึกถึงความอบอุ่นจากแม่ คุณพ่อคุณแม่ลองลูบหน้าท้องเบาๆ เป็นวงกลมสิคะ ช่วยให้ลูกรู้สึกถึงความรักและการดูแลจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตหลังคลอดได้ค่ะ

 

  1. ใช้ไฟฉายส่องท้อง

เนื่องจาก “แสง” เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลูกในท้อง ดังนั้น การส่องไฟฉายที่หน้าท้องคุณแม่จึงเป็น การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ ได้อีกทางหนึ่ง โดยจะส่งผลให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพหรือการมองเห็นของทารกมีพัฒนาการดีขึ้น แต่ควรทำในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 6-7 เดือน ที่ลูกในท้องสามารถลืมตา กะพริบตา และแยกความแตกต่างระหว่างความมืดหรือความสว่างได้แล้ว และต้องไม่เป็นแสงแรงสูงเด็ดขาดเพราะอาจเกิดอันตรายต่อลูกในครรภ์ได้ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจเปิดหรือปิดไฟเป็นจังหวะ เคลื่อนไปมาซ้าย ขวา ประมาณ 1-2 นาที วันละ 5-10 ครั้งค่ะ

 

  1. โภชนาการที่เหมาะสม

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เน้นอาหารที่มีโฟเลต ธาตุเหล็ก แคลเซียม และโอเมก้า 3 ซึ่งมีความสำคัญต่อพัฒนาการของสมอง กระดูก และร่างกายทารกในครรภ์ ร่วมกับการดื่มน้ำให้เพียงพอในทุกๆ วันนะคะ

โภชนาการที่ดี กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

แม่ท้องออกกำลังกายได้นะคะ โดยคุณแม่ควรออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น เดิน โยคะสำหรับคนท้อง หรือว่ายน้ำ ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงและลดความเครียดในระหว่างตั้งครรภ์ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายแม่และลูก ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของทารกและช่วยให้ร่างกายแม่มีสุขภาพที่ดี และทำให้ทารกในครรภ์รู้สึกสงบได้ด้วยค่ะ

 

  1. พักผ่อนอย่างเพียงพอ

คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันค่ะ เพราะการพักผ่อนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายคุณแม่ฟื้นฟูและส่งผลดีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีคุณพ่อช่วยดูแลงานบ้านและอำนวยความสะดวกให้คุณแม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ด้วยจะดีมากค่ะ

 

  1. การลดความเครียด

สภาพจิตใจของคุณแม่สามารถส่งผลต่อทารกในครรภ์โดยตรงค่ะ ดังนั้น การทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถชวนกันทำกิจกรรมที่ช่วยลดความเครียด เช่น การทำสมาธิ การหายใจลึกๆ หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ เมื่อแม่มีจิตใจที่สงบ ทารกในครรภ์ก็จะมีการพัฒนาที่ดีขึ้น แต่หากปล่อยให้คุณแม่อยู่ในภาวะเครียด สารแห่งความเครียดก็จะหลั่งออกมา ส่งผลต่อการเจริญเติบโต หรือระบบประสาทของลูก แต่ถ้าคุณแม่มีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส ฮอร์โมนแห่งความสุขก็จะหลั่งออกมา ช่วยให้ลูกในท้องอารมณ์ดี และเมื่อคลอดออกมาก็จะเลี้ยงง่ายนั่นเองค่ะ

 

บทความจากพันธมิตร
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่
MFGM จากนมแม่กุญแจสำคัญ สู่ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าของเด็ก Gen ใหม่

ปรึกษาแพทย์เสมอ ดีต่อลูกในครรภ์

 

นอกจากนี้ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย และจำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีความสำคัญที่ช่วยให้พ่อแม่สามารถติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้อย่างใกล้ชิด การตรวจสุขภาพจะช่วยให้แพทย์สามารถแนะนำวิธีการดูแลที่เหมาะสม ก่อนเริ่มกิจกรรมใดๆ เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อย และตรวจสอบว่าทารกได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องหรือไม่

 

การกระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อลูกน้อย การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ การพูดคุยและสื่อสารกับลูกน้อย การทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตและพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ เป็นเด็กที่ฉลาดและแข็งแรง มีความพร้อมเต็มที่สำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังคลอดค่ะ

 

ที่มา : www.bpksamutprakan.com , www.paolohospital.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คำถามที่แม่ท้องควรรู้! ตั้งครรภ์ ตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ไหม ?

เช็กอาการ! ตกขาวแบบไหน “ท้อง” ตกขาวคนท้องระยะแรก เป็นยังไง

ติ่งเนื้อตอนท้อง ภัยร้าย หรือเรื่องปกติ? ปัญหาผิว! ที่แม่ตั้งครรภ์ต้องเข้าใจ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • พ่อแม่ทำได้! กระตุ้นพัฒนาการทารกในครรภ์ สร้างลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรง
แชร์ :
  • วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

    วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

  • คนท้องควรนอนวันละกี่ชั่วโมง ? นอนเยอะแค่ไหนถึงพอดี ดีต่อแม่และทารก

    คนท้องควรนอนวันละกี่ชั่วโมง ? นอนเยอะแค่ไหนถึงพอดี ดีต่อแม่และทารก

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

  • วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

    วัคซีน RSV คนท้อง จำเป็นไหม? ปกป้องลูกรักจาก RSV ตั้งแต่ก่อนคลอด

  • คนท้องควรนอนวันละกี่ชั่วโมง ? นอนเยอะแค่ไหนถึงพอดี ดีต่อแม่และทารก

    คนท้องควรนอนวันละกี่ชั่วโมง ? นอนเยอะแค่ไหนถึงพอดี ดีต่อแม่และทารก

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว