คนท้องขับรถ อันตรายทั้งแม่ทั้งลูก ถ้าไม่จำเป็นอย่าได้ทำ เลี่ยงไม่ได้สำหรับการขับรถของคุณแม่ที่กำลังจะตั้งครรภ์ บางครั้งเราก็มักจะเห็นว่าคุณแม่บางคนต้องขับรถไปคลอดลูกเองที่โรงพยาบาล มาดูกันดีกว่าค่ะว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นจริง ๆ ควรต้องทำอย่างไรบ้าง
ข้อปฏิบัติติสำหรับ คนท้องขับรถ
หากอยู่ในสถานการณ์ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่สามารถเลี่ยงได้ หรือมีความจำเป็นที่จะต้องขับรถเอง สิ่งแรกที่คุณควรทำคือนึกถึงความปลอดภัยของตนเองและลูกน้อยในครรภ์ให้มากที่สุด โดยจะต้องปฏิบัติตนเมื่ออยู่บนรถ ดังนี้
1. การขาดเข็มขัด
การขาดเข็มขัดถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของการขับรถเลยก็ว่าได้ เพราะเข็มขัดนิรภัยจะช่วยลดแรงกระแทก และการพุ่งตัวของร่างกายเราออกไปยังนอกรถเมื่อเกิดการชนอย่างรุนแรง ซึ่งการคาดเข็มขัดสำหรับคนท้อง มีดังต่อไปนี้
- อย่างแรกที่ควรทำก่อนการคาดเข็มขัดคือการถอดเสื้อตัวนอก หรือแจ็คเก็ตที่อาจทำให้ความสามารถในการขับรถ หรือการขยับของแขนนั้นเป็นอุปสรรคออกไปก่อน
- ปรับที่นั่งให้เหมาะสม และเริ่มลองคาดเข็มขัดดู หากบริเวณพวงมาลัย หรือรถมีระบบถุงลม ควรปรับที่นั่งให้ห่างออกมาให้ระยะที่ปลอดภัย เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ถุงลมนิรภัยอาจทำงานได้ ซึ่งถ้าหากคุณแม่ตั้งครรภ์นั่งใกล้จนเกินไปอาจส่งผลทำให้ถุงลมนิรภัยกระแทกเข้ากับหน้าท้อง ทำให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้
- การคาดเข็มขัดคุณแม่ไม่ควรคาดที่บริเวณหน้าตัก หรือที่เอวเพียงอย่างเดียว ควรคาดแบบปกติ ปรับที่นั่งให้พอดีกับสายเข็มขัดพาดผ่านไหล่ ไปยังกระดูกไหลปลาร้า และพาดผ่านระหว่างกลางหน้าอก ซึ่งจะต้องไม่อยู่ในตำแหน่งที่โดนคอของคุณแม่
- เข็มขัดนิรภัยไม่ควรพาดผ่าน หรือพาดทับหน้าท้องของคุณแม่โดยตรง และจะต้องไม่คาดแบบนำสายไว้ด้านหลัง หรือใต้แขนเป็นอันขาด
2. กฎของการขับรถบนถนน
การขับรถบนถนนปกติจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นที่สุดอยู่แล้ว แต่สำหรับคนท้องขับรถแล้วนั้นจำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ทุกเมื่อ เมื่อเริ่มออกเดินทาง คุณแม่ควรขับอยู่ในเลนซ้าย ด้วยความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และรักษาระยะห่างกับคนด้านหน้าประมาณ 2 เมตร นอกจากนี้ควรสังเกตป้ายทาง และเปิดสัญลักษณ์ไฟเลี้ยวทุกครั้งเมื่อต้องการจะเลี้ยว เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการเบรกกะทันหันของรถคันด้านหน้า หรือการถูกชนท้ายระหว่างการเปลี่ยนเลน
บทความที่น่าสนใจ : คาถาขับรถปลอดภัย คาถาเดินทางปลอดภัยสั้นๆ บทสวดมนต์ขับรถปลอดภัย
ข้อปฏิบัติติสำหรับคนท้องขับรถ ที่ต้องทำตาม (ภาพโดย senivpetro จาก freepik.com)
ทำไมคนท้องไม่ควรขับรถ
คำถามที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจไม่เข้าใจ และคงสงสัย เพราะคิดว่าตนเองก็มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีก็สามารถขับรถ หรือสามารถไปไหนมาไหนได้ด้วยตนเอง ซึ่งในบางครั้งหากมีความจำเป็นก็สามารถเดินทางได้แบบปกติ และกรณีแบบไหนที่คนท้องไม่ควรขับรถ ไปดูกัน
1. มีอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง
อาการคลื่นไส้ นั้นสามารถเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกจนถึงไตรมาสสุดท้าย คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอาการคลื่นไส้นี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หรือสถานที่ใด แต่หากเป็นด้านหลังของพวงมาลัยรถแล้วหละก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน เพราะนอกจากอาการดังกล่าวจะรบกวนสมาธิในการขับรถของคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอาการเวียนศีรษะ และอ่อนเพลีย ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่ และคนใช้รถใช้ถนนด้วยเช่นกัน
2. ตำแหน่งการนั่งไม่ปลอดภัย
สำหรับในกรณีนี้เป็นกรณีของคุณแม่ที่เริ่มมีหน้าท้องขนาดใหญ่ หรือคุณแม่ที่เข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ โดยการคาดเข็มขัด และการปรับเบาะที่นั่งให้เหมาะสมสำหรับคนท้องแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งการปรับตำแหน่งที่นั่งให้ปลอดภัยนั้นก็ไม่สามารถทำให้คุณสามารถขับรถได้ เพราะขาของคุณแม่อาจอยู่ห่างจากคันเร่ง หรือเบรกมากจนเกินไป
3. อาการปวดหลังอย่างรุนแรง
บนรถ หรือในตำแหน่งของคนขับ อาจส่งผลทำให้คุณแม่มีพื้นที่ขยับร่างกายอย่างจำกัด หรือไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้มากนัก ซึ่งอาจส่งผลทำให้อาการปวดหลังที่เกิดจากการตั้งครรภ์นั้นมีอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น และหากคุณแม่มีอาการปวดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะยิ่งทำให้ทรมานเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่า
4. การขับรถที่ต้องใช้ระยะเวลานาน
คนปกติทั่วไปขับรถยังต้องมีการพักรถ หรือพักเหนื่อยของคนขับบ้าง สำหรับคนท้องขับรถก็เช่นกัน แต่อาจต้องบ่อยว่าคนทั่วไป เพราะเนื่องจากการขับรถเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน หรือ Deep vein thrombosis (DVT) ระหว่างขับรถ โดยจะปรากฏเป็นก้อนเลือดที่ต้นขา และสามารถเคลื่อนย้ายไปที่ปอดได้ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง และอาจเสียชีวิตได้ นอกจากนี้อาจทำให้เกิดอาการบวมของเท้า และข้อเท้าหากนั่งนิ่ง ๆ หรือเหยียบคันเร่งนานจนเกินไป
5. ไม่มีสมาธิ
ในช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ คุณแม่ส่วนใหญ่มักรู้สึกอ่อนเพลีย และเหนื่อยล้าได้ง่าย หรือการขับรถอาจทำให้คุณแม่รู้สึกวิตกกังวล ว้าวุ่น หรือไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก ยังไม่รวมกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายที่อาจทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนเองได้ ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นคนท้องไม่ควรจะขับรถเอง
6. ใกล้คลอด
การที่คุณแม่ใกล้คลอดนั้นขับรถไปคลอดเองที่โรงพยาบาลนั้นถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากที่สุด และหากคุณแม่น้ำเดิน หรือเกิดถุงน้ำคร่ำแตกแล้วหละก็ยิ่งไม่ควรขับรถเป็นอันขาด เพราะอาจเกิดการติดเชื้อระหว่างที่ขับรถไปก็เป็นไปได้ ทางที่ดีที่สุดขอแนะนำให้คุณแม่โทรเรียกรถพยาบาลเบอร์ 1669 สายด่วนเพื่อมารับตัวไปคลอดที่โรงพยาบาลนั่นเอง
สิ่งที่จำเป็นหากมีความจำเป็นต้องขับรถ (ภาพโดย freepik จาก freepik.com)
สิ่งที่จำเป็นหากมีความจำเป็นต้องขับรถ
สุดท้ายแล้วถ้าหากที่คนท้องต้องขับรถเองจริง ๆ ก่อนที่จะออกเดินทาง ควรมีการเตรียมตัวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยสิ่งที่ต้องนำขึ้นรถไปด้วย มีดังนี้
- สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนนั่งเป็นเพื่อน หรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งแน่นอนว่าในบางครั้งคนที่อยู่ข้างคนขับนั้นไม่สามารถขับรถได้ด้วยกรณีบางอย่าง แต่การที่มีคนไปเป็นเพื่อนก็ยังดีกว่าไม่มีใครเลย เพราะเขาอาจช่วยเตือนสติ หรือช่วยเหลือคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ หากเกิดอุบัติเหตุ หรือมีอันตรายเกิดขึ้น และถ้าหากไม่มีคนอยู่เป็นเพื่อนควรติดต่อ หรือสนทนากับใครสักคนทางโทรศัพท์ เพื่อให้เขาอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าจะถึงปลายทาง ควรมีหูฟัง หรือที่วางโทรศัพท์ ไม่ควรที่จะถือมือถือและขับรถไปด้วยเด็ดขาด และจะต้องขับในเลยซ้ายในอัตราความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัย
บทความที่น่าสนใจ : ประกันอุบัติเหตุ ประกันเบื้องต้นที่เราไม่ควรมองข้าม
- ของยังชีพ หากจะต้องขับรถเป็นเวลานาน เกิน 90 นาทีขึ้นไป แบบไม่ได้หยุดพักสิ่งที่ต้องเตรียมคือหมอนที่มีรูปร่างเว้าเข้ากับหลัง และเอว เพื่อใช้ในการช่วยบรรเทาอาหารปวดหลังอย่างรุนแรงได้ และในคุณแม่ที่ยังมีอาการแพ้ท้อง หรือมักคลื่นไส้อยู่บ่อย ๆ ควรพกลูกอมรสเปรี้ยวหวาน หรือผลไม้เปรี้ยวขึ้นไปไปด้วยเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าว และควรดื่มน้ำมาก ๆ ขณะที่ขับรถเพื่อป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดดำส่วนลึก (DTV)
คนท้องสามารถขับรถได้ แต่ก็มีข้อกำจัดอีกมากมาย ทางที่ดีที่สุดคือควรให้คนอื่นขับให้ หรือโทรเรียกรถพยาบาลหากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น ไม่ควรที่จะขับรถเองเป็นอันขาด เพราะนอกจากอันตรายที่เกิดขึ้นบนถนนไม่ที่สามารถคาดเดาได้ หรือแม้แต่ร่างกาย และผลกระทบของการขับรถเป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้เหมือนกัน
บทความที่น่าสนใจ :
น้ำเดิน ภาวะเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายสำหรับคุณแม่ใกล้คลอด
คลอดก่อนกำหนด ภาวะเสี่ยงที่ต้องใส่ใจ
ขับรถเที่ยว (ทิพย์) ในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ไปกับ Drive and Listen
ที่มา : healthline, arrivealive, nct.org
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!