ติดมือถือมากไป อาจเป็นมัจจุราชเงียบในการทำลายความสัมพันธ์ เราทุกคนต่างก็ทราบกันดีว่า มือถือ คือเครื่องมือสื่อสารที่ดีที่สุดที่จะสามารถทำให้คนไกลรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ เพราะสมัยนี้ มือถือไม่ได้มีไว้สำหรับคอยรับส่งเสียงเท่านั้น ยังใช้ส่งภาพ ส่งวิดีโอ และพูดคุยง่าย ๆ ผ่านโปรแกรมแชทต่าง ๆ หรือหากเราอยากรู้เรื่องว่าใครทำอะไรที่ไหนมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เราก็สามารถทราบได้เพียงเล่นสื่อโซเชียลจำพวกเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์หรืออินสตาแกม แค่นั้นโลกกว้างก็ดูเล็กลงไปถนัดตา
แต่คุณเคยลองหันมามองคนข้าง ๆ คุณหรือไม่คะว่า พวกเขาต้องการอะไรจากเราบ้างหรือเปล่า บางคนตั้งหน้าตั้งตารอมาทั้งวัน เพื่อจะได้ใช้เวลาอยู่กับเรา หรือพูดคุยกับเรา แต่เรากลับไม่สนใจ และหันไปสนใจสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่า จนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า การอยู่ใกล้กันนั้นไม่ได้มีค่าอะไรเลย เพราะรู้สึกเหมือนอยู่ไกลจนสุดสายตาจนไม่อาจเอื้อมมือถึง
บ่อยครั้ง ติดมือถือมากไป ที่การเสพติดมือถือมากเกินไป จะนำหายนะมาสู่ตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นโรคภัย อุบัติเหตุ หรือเป็นที่มาของการทำลายความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว คุณเคยรู้สึกไหมว่า คุณพูดคุยกับคนที่บ้านน้อยลง ลูกเอาแต่เล่นมือถือตลอดเวลาจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ถ้าคำตอบของคุณคือใช่ งั้นรบกวนสละเวลาอันมีค่าของคุณอ่านบทความนี้ดูค่ะ
จริงอยู่ ที่จะมีคนโต้เถียงขึ้นมาว่า “ฉัน/ผมไม่ได้มีมือถือไว้เล่นเกมส์นะ แต่มีไว้เพื่อคอยเช็คอีเมลและก็ทำงาน แล้วจะให้ห่างจากมือถือได้อย่างไร เดี๋ยวมีงานด่วนเข้ามาก็ไม่รู้เรื่องกันพอดี” ใช่ค่ะ … คุณพูดถูก แต่บางทีการเล่นมือถือในระหว่างมื้ออาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า อาหารกลางวันหรือแม้แต่อาหารเย็น อาจจะเป็นมื้อเดียวที่ใครบางคนกำลังรอคอยที่จะร่วมโต๊ะกับคุณ เพื่อร่วมวงสนทนา ถามสารทุกข์สุกดิบกันก็เป็นได้ คุณลองมองย้อนกลับไปในยุคที่มือถือยังไม่พัฒนามากถึงขนาดสิคะนี้ เวลาที่คุณรับประทานอาหารกับครอบครัว เพื่อนฝูงหรือคนรัก คุณมีความรู้สึกอย่างไร แน่นอนว่าคุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขที่สุด เพราะมื้อนั้นจะเป็นมื้อเดียวที่คุณอาจจะได้เห็นร้อยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ ได้หยอกล้อและได้สานสัมพันธ์กันให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
แล้วตอนนี้ละคะ … ทุกอย่างเปลี่ยนไป ความห่างเริ่มเข้ามาแทนที่ ความเงียบเริ่มเข้ามาแทรกแซง แล้วแบบนี้ความสัมพันธ์ที่ดีจะคงอยู่ได้อย่างไร
ทางที่ดี คุณอาจจะลองตั้งกฎเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในบ้าน หรือเวลาที่ไปเจอเพื่อนฝูงหรือแม้แต่กับคนที่คุณรักว่า ระหว่างมื้ออาหารหรือระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เราจะไม่นำมือถือขึ้นมานะ เราจะกินและพูดคุยกันแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราจะใช้เวลาทั้งหมดที่มีอยู่ด้วยกัน รับรองว่าคุณจะรู้เรื่องอะไรที่คุณยังไม่รู้อีกมากจากคนที่คุณใช้เวลาอยู่ด้วยแน่นอน จนอาจจะทำให้คุณลืมมือถือไปเลยก็ได้
รวมถึงเวลาที่คุณกลับจากที่ทำงาน ตอนเย็นหรือก่อนนอนอาจจะเป็นเวลาเดียวที่คุณได้ใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ ของคุณก็เป็นได้ แล้วคุณเคยเผลอเอาแต่สนใจมือถือจนลืมดูลูกของคุณเองบ้างไหมคะ ถ้าใช่ หยุดเถอะค่ะ เพราะบางทีการเอาแต่สนใจสิ่งที่อยู่ในมือมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ลูกรู้สึกน้อยใจและอาจจะไปทำอะไรที่เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายก็เป็นได้
และถ้าคุณอยากรู้ว่า มือถือกลายเป็นมัจจุราชเงียบอย่างไร คุณลองดูสิคะ ในระหว่างที่คนรอบข้างของคุณกำลังก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออยู่นั้น คุณลองเป็นคนนึงที่หยุดเล่น คุณจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่า มีบางอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราทุกคนนั้นห่างออกไป คุณจะเริ่มเกิดความรู้สึกเบื่อ เสียใจ หรือแม้แต่น้อยใจ จนคุณทนไม่ไหวเอง
ดังนั้น วางมือถือกันดูบ้างเถอะค่ะ หันมาสนใจและใส่ใจคนที่อยู่ข้างกายเราก่อน จงพูดคุยและใช้เวลาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ของคุณ สามีหรือภรรยา ลูกและเพื่อน ๆ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป อย่าลืมนะคะว่า เข็มนาฬิกาไม่เคยเดินย้อนกลับ เพราะถึงอย่างไร โลกแห่งความเป็นจริงก็ย่อมน่าอยู่กว่าเสมอจริงไหมคะ
สิ่งที่กำลังบอกเราว่า “เขากำลังนอกใจอยู่หรือเปล่า”
(รูปโดย dlana.grytsku จาก freepik.com)
อีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับคนรักลดน้อยลงได้ นั่นคือการที่ใครคนใดคนหนึ่งติดการเล่นโทรศัพท์มากจนเกินไป แน่นอนว่ามันอาจเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง แต่เมื่อไหร่ที่เรามีพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ สิ่งนี้แหละที่อาจทำให้คุณและคนรักรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันได้เลย
บทความที่น่าสนใจ : วิธีทําให้รักยืนยาว ประคองรักให้ยาวนาน รักษาความสัมพันธ์ให้มั่นคง ยั่งยืน เคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่ให้ยืนยาว
1. อ้างว่าติดงานและไม่มีเวลาให้
การที่เขาบอกเราว่าติดงานและไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กับเราเลย ทั้งๆ ที่จริงแล้ว เขามีเวลาว่างและไม่ได้ติดงานหรือติดธุระอะไรเลย นั่นคือสิ่งที่กำลังบ่งบอกเราว่าเขามีพฤติกรรมที่ผิดไปจากเดิม หรือเขาเอาเวลาเหล่านั้นไปทำอะไร ทำไมถึงโกหกเรา แต่เอาเป็นว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะต้องมีสติและควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ตรงจุด
2. ชอบบอกเราว่า “ลองห่างกันสักพักไหม”
การที่คนสองคนรักกัน มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ กับคำพูดที่ว่า “ลองห่างกันสักพักไหม” อยู่บ่อยๆ เพราะแน่นอนว่าถ้าเรารักกัน เราจะต้องคอยอยู่เคียงข้างกัน คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หรือเมื่อไหร่ที่มีปัญหาระหว่างกัน เราจะต้องรีบเคลียร์และทำความเข้าใจกัน เพื่อที่ความสัมพันธ์ของเราจะได้มั่นคงและยาวนานมากขึ้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณได้ยินคำพูดเหล่านี้จากเขาอยู่บ่อยๆ นั่นอาจหมายความว่า เขากำลังอยากลดความสัมพันธ์กับเราอยู่หรือเปล่า
3. ชวนเราทะเลาะแบบไม่มีสาเหตุ
ข้อนี้อาจจะสังเกตได้จากการที่เราทำสิ่งหนึ่งอยู่บ่อยๆ เป็นประจำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดความเสียหายหรือเดือดร้อน แต่อยู่ ๆ วันหนึ่งกลับเขามาต่อว่าเราและชวนเราทะเลาะโดยไม่มีเหตุผล และก็ไม่ทราบสาเหตุเลยว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงต่อว่าเราได้ขนาดนี้ สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังส่งผลไม่ดีต่อความสัมพันธ์เราได้เลย
3. หวงโทรศัพท์มากจนเกินไป
มันอาจจะใช่ที่บอกว่าการที่คนสองคนคบกันเราจะต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราไม่ควรที่จะไปเข้าไปยุ่งในโลกส่วนตัวเขามากจนเกินไป เราควรปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายอยู่กับโลกส่วนตัวของตัวเองบ้าง ในขณะเดียวกันถ้าเกิดวันหนึ่งคุณเผลอไปหยิบโทรศัพท์เขาขึ้นมา แล้วเขารู้สึกโมโหและอารมณ์เสียใส่คุณเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย หรือบางครั้งในช่วงที่เขาเล่นโทรศัพท์ อยู่ๆ เขาก็เกิดอาการเขินหรือหัวเราะขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูอะไรตลก ๆ เลย พฤติกรรมเหล่านี้ก็อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรากังวลใจได้เช่นกัน
5. ชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
เชื่อว่าใครหลายคนคงไม่ชอบการโดนเปรียบเทียบ อย่างที่รู้กันดีว่าการคนแต่ละคนนั้นย่อมเป็นคนที่มีสไตล์และเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราไม่ควรที่จะเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบ และถ้าเขามีพฤติกรรมแบบนี้และเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น พร้อมกับตำหนิเรา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังเอ่ยบอกชมเราอยู่เลย นั่นแสดงว่าเขาอาจจะไปเจอใครสวยและถูกใจกว่าเราก็เป็นได้
ควรทำยังไง? เมื่อเขาติดโทรศัพท์มากเกินไป
(รูปโดย tirachardz จาก freepik.com)
เมื่อแฟนเราติดโทรศัพท์มากเกินไป เราควรทำยังไง หรือมีวิธีรับมือกับแฟนอย่างไร เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาและส่งผลไม่ดีต่อความสัมพันธ์ของเราสองคน
บทความที่น่าสนใจ : 15 กิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย ไม่ตื่นกลางดึก
1. ให้อิสระในการใช้โทรศัพท์
แน่นอนว่าการที่เราอยู่ด้วยกัน เราก็ควรที่จะให้เวลาอิสระกับเขาบ้าง เพราะเมื่อไหร่ที่เราออกคำสั่งและไม่ยอมให้เขาเล่นโทรศัพท์เลย สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ชอบขึ้นมาได้ ดังนั้นเราก็อาจจะต้องมาคุยกันว่าช่วงเวลาไหนที่เราควรให้อิสระต่อบ้าง เพื่อที่เวลาเราอยู่ด้วยกันจะได้ไม่อึดอัดกันทั้งสองฝ่าย
2. ปิดการแจ้งเตือนในสิ่งที่ไม่สำคัญ
อีกหนึ่งข้อที่สำคัญมากๆ สำหรับคนที่ติดโทรศัพท์ การปิดแจ้งเตือนแอปพลิเคชั่นบางส่วนก็อาจจะช่วยทำให้เราติดโทรศัพท์ได้น้อยลง เมื่อไหร่ที่เราหยุดหรือไม่ได้ใช้แอปพลิเคชั่นนั้นๆ เราก็อาจจะปิดแจ้งเตือนไว้ก่อนได้ เพราะถ้าเราเปิดแจ้งเตือนไว้ทุกแอปพลิเคชั่น ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้ใช้อะไร สิ่งนี้ก็อาจทำให้คุณหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอยู่บ่อย ๆ และอาจส่งเสียงรบกวนได้เลย
3. เหตุผลของการใช้โทรศัพท์
การที่เราติดโทรศัพท์หรือใช้โทรศัพท์เป็นเวลานาน ๆ เชื่อเลยว่าเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นก็อาจจะเกิดความกังวลใจหรือสงสัยเอาได้ สำหรับใครที่ไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้มากระทบกับความสัมพันธ์ของตัวเอง ทุกครั้งของการเล่นหรือใช้โทรศัพท์เราก็อาจจะอธิบายหรือเขาทุกครั้ง เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้สบายใจและไม่ระแวงเรา
4. ไม่ควรเล่นโทรศัพท์เวลาอยู่ด้วยกัน
นาน ๆ ทีเราจะมีเวลาตรงกัน ดังนั้นในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เราควรให้ความสำคัญกับคนรักมากกว่าโทรศัพท์ ยกเว้นมีเหตุจำเป็นที่เราต้องใช้โทรศัพท์จริง ๆ เพราะเมื่อไหร่ที่คนใดคนหนึ่งติดโทรศัพท์เอามาก ๆ มากจนไม่สนใจคนรอบข้าง สิ่งนี้ก็จะทำให้คุณและคนรักรู้สึกไม่ดีต่อกันได้
5. พยายามหากิจกรรมสนุก ๆ ทำด้วยกัน
อีกหนึ่งสิ่งที่จะเป็นตัวช่วยทำให้คนใดคนหนึ่งเลิกเล่นโทรศัพท์ นั่นคือการที่เราได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน อาจจะชวนกันร้องเพลง เล่นกีต้าร์ หรือดูหนังที่ชอบ สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้อีกฝ่ายเลิกติดโทรศัพท์ขึ้นมาได้ ดีไม่ดีอาจทำให้คุณกับคนรัก รักและเข้าใจกันมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับคู่ไหนที่กำลังพบเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจไป เพราะการที่ใครคนใดคนหนึ่งติดโทรศัพท์มันอาจจะไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของเราลดน้อยลงได้เลย ถ้าเราสองคนคอยปรับและคอยทำความเข้าใจซึ่งกันและกันนั่นเอง
บทความที่น่าสนใจ : ที่สุดของอันตราย! โทรศัพท์ระงับพัฒนาการเด็ก ผลเสียของการให้ลูกเล่นโทรศัพท์
คนท้องเล่นโทรศัพท์ได้ไหม? คลื่นโทรศัพท์กับทารกในครรภ์ มีผลอะไรหรือเปล่า?
ที่มา:familylife ,women.kapook , today.line.me
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!