กิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย ไม่ตื่นกลางดึก สำหรับเด็ก ๆ เวลากลางคืนเหมือนเป็นเวลาของพวกเขา การทำให้ลูกนอนเร็ว และไม่ตื่นกลางดึกเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้ปกครองหลายคน วันนี้เรามาลองดูดีกว่าค่ะว่า กิจกรรมก่อนนอนอะไรบ้างที่ช่วยให้พวกเขาหลับสบาย ไม่ตื่นกลางดึก
ทำไมเราต้องนอนหลับ?
การนอนหลับ คือการพักผ่อนที่ดีที่สุด เพราะการนอนหลับนั้นเหมือนเป็นการชาร์จแบตอรี่ให้กับร่างกายของเรา โดยการนอนหลับไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น เพราะว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ต่างก็ต้องการการนอนหลับพักผ่อนเช่นกัน
ซึ่งการนอนหลับนั้นทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือระบบบางส่วนได้เริ่มทำงาน เช่น ในช่วงที่เรานอนหลับสมองของเราจะทำงานด้วยการเปลี่ยนความทรงจำระยะสั้นของเราเป็นความทรงจำระยะยาว หรือแม้แต่การหลั่งของฮอร์โมนบางชนิดที่ร่างกายจะกระตุ้นให้มีการหลั่งในเวลากลางคืนเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่า การนอนหลับนั้นมีผลต่อการเจริญเติบโต และระบบการทำงานของมนุษย์มากนั่นเอง

กิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย
การที่เด็กในวัยกำลังเจริญเติบโตได้รับประทานอาหาร และการออกกำลังกายนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องควบคู่ไปกับการพักผ่อนที่เพียงพอด้วยเช่นกัน แต่ลูกของเรามักไม่ชอบนอน ดังนั้นเราจึงต้องหากิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย และไม่ตื่นกลางดึกกันดีกว่า
1. โยคะก่อนนอน
กิจกรรมที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์ใด ๆ คุณสามารถชวนเด็ก ๆ ที่เตรียมตัวเข้านอนมายืดเส้นยืดสาย บิดไปบิดมา โยคะนิดหน่อย ก่อนที่จะเข้านอน โดยการเล่นโยคะก่อนนั้นนอกจากจะช่วยในเรื่องของการยืดกล้ามเนื้อให้เกิดความผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการสงบจิต สงบใจก่อนเข้านอน ซึ่งทำให้พวกเขาลดความตึงเครียด ความคิดฟุ้งซ่านออกไป และทำให้พวกเขาสามารถนอนหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น
2. การทำสมาธิ
การกำหนดลมหายใจ และเข้าสู่ความสงบก่อนเข้านอน หรือการทำสมาธิ จะทำให้เด็ก ๆ สามารถผ่อนคลายอารมณ์ และเข้าสู่ห้วงนิทราได้เร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถให้เขาทำสมาธิไปพร้อมกับการสวดมนต์ก่อนนอนได้พร้อมกัน
3. เพลงกล่อมเด็ก
กิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย สุดคลาสสิกที่ไม่ว่ามุมไหนของโลกก็นิยมทำกัน ด้วยดนตรี หรือเนื้อหาของเพลงที่ถูกส่งต่อกันมาเป็นทอด ๆ ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกผ่อนคลาย และปลอดภัยที่มีคุณอยู่ข้าง ๆ ก็ทำให้พวกเขาสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น
4. นิทานก่อนนอน
สิ่งที่เด็ก ๆ มักตั้งตารอให้ถึงการเข้านอนไว ๆ เพื่อที่จะได้ฟังนิทานก่อนนอน บางครั้งเนื้อหาของนิทานก่อนนอนอาจขับกล่อมให้พวกเขาได้หลับสบาย หรือในบางครั้งอาจเป็นข้อแลกเปลี่ยนเพื่อที่ให้พวกเขาได้นอนหลับไว้ขึ้น เพื่อให้ถึงคืนของวันรุ่งขึ้นไว ๆ
บทความที่น่าสนใจ : 7 ข้อดีของการกอดลูก ยิ่งกอดลูกลูกยิ่งฉลาด ยิ่งกอดลูกลูกยิ่งเป็นคนเก่ง

5. ความเงียบ
สภาพแวดล้อมในการนอนก็เป็นสิ่งสำคัญในการนอนของเด็ก ซึ่งการทำให้บริเวณบ้าน หรือห้องนอนของเด็ก ๆ เงียบนั้นถือเป็นกิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบายที่ดีที่สุด ซึ่งถ้าหากทำให้ทุกอย่างเงียบได้ อาจเป็นการันตีว่าลูกของคุณจะไม่ตื่นมาร้องไห้กลางดึกแน่นอน
6. การกอด
สัญลักษณ์แห่งความไว้ใจ เป็นห่วงเป็นใย และใส่ใจคือ การกอด เด็กบางคนที่ถูกแยกห้องนอนจากผู้ปกครองในบางครั้งการที่เขาถูกทิ้งให้นอนเพียงลำพังเป็นเรื่องที่พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัย หรือสบายใจ คุณควรที่จะเข้าไปกอดพวกเขา หรือจุ๊บกันเบา ๆ ก่อนนอน เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าคุณไม่ได้ไปไหน และคุณสามารถช่วยเหลือเขาได้ตลอดเวลาหากเกิดอะไรขึ้น
7. นับดาว
สติ๊กเกอร์เรืองแสงรูปดาวที่นิยมติดกันบนเพดานของห้องนอนของเด็ก ๆ ที่จะส่องแสงในเวลากลางคืน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบาย เพราะพวกเขาจะจดจ่ออยู่กับการนับที่ไม่มีที่สิ้นสุด นับไปเรื่อย ๆ และการนับจำนวนนั้นเหมือนเป็นการกล่อมให้เขาหลับอย่างช้า ๆ
8. การอยู่ในอ้อมกอด
กิจกรรมทางประสาทสัมผัสระหว่างคุณและลูกน้อย การที่เขาอยู่ในอ้อมกอด หรือกำลังขี่หลังของคุณ ในขณะที่คุณเดินวนไปรอบ ๆ ห้อง และโยกเบา ๆ เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายก่อนที่จะพาเขาไปส่งยังที่นอน และคุณควรแตะไปที่หลังของเขาเบา ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาหลับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บทควาามที่น่าสนใจ : 15 วิธี ตกแต่งห้องนอน ออกแบบห้องนอนอย่างไร ให้เหมือนโรงแรมหรูระดับห้าดาว

9. ดนตรี
เสียงดนตรีบรรเลงที่เปิดคลอเบา ๆ เสียงของดนตรีเครื่องสาย เปียโนคลาสสิกกับจังหวะช้า ๆ หรือแม้แต่เพลงโปรดของพวกเขาที่จะช่วยขับกล่อมให้พวกเขาเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างช้า ๆ
10. ส่งเข้านอนด้วยคนที่พวกเขาไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน
ในบางครั้งเด็ก ๆ ก็ไม่ยอมเข้านอน และเราก็ไม่อาจทราบสาเหตุผลได้ แต่สำหรับคุณตาคุณยาย แล้วพวกเขามักมีอิทธิพลต่อหลาน ๆ เสมอ คุณอาจต้องลองโทรหาพ่อแม่ของคุณเพื่อให้พวกเขาได้คุยกับเด็ก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเขามีวิธีจัดการที่ทำให้เด็ก ๆ สามารถนอนได้โดยที่จะไม่งอแงอีกต่อไป
11. อาบน้ำก่อนนอน
การอาบน้ำ หรือการเช็ดตัวของเด็ก ๆ ก็เป็นเรื่องที่คุณควรให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะเรื่องของสุขอนามัยแล้ว ยังช่วยให้เด็ก ๆ สามารถนอนหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น เพราะการอาบน้ำก่อนนอนทำให้พวกเขารู้สึกสบายตัว และไม่รู้สึกอึดอัดก่อนเข้านอน
บทความที่น่าสนใจ : น้ำเข้าหูลูก ตอนอาบน้ำสระผม อาจนำสู่ภาวะหูชั้นนอกอักเสบ

12. การเล่าเรื่อง
เด็ก ๆ ที่อยู่ในวัยเจริญเติบโตมักตื่นเต้นไปกับเรื่องราวของคุณที่เกิดขึ้นในอดีต การที่พวกเขาได้ทราบว่าคุณต้องผ่านอะไรมาบ้าง หรือแม้แต่สถานการณ์ปัจจุบันกับในอดีตนั้นต่างกันอย่างไร ก็ทำพวกเขาตื่นเต้นไปหมด โดยคุณอาจต้องแทรกเรื่องของการเข้านอนเร็วไปด้วย เพื่อให้เขารู้สึกอยากจะเข้านอนเร็วมากยิ่งขึ้น
13. เกมซ่อนตาดำ
กิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบายที่คุณเองก็สามารถทำไปพร้อม ๆ กับเด็ก ๆ ได้ วิธีที่ง่ายเหนือสิ่งอื่นคือการให้พวกเขาหลับตา เพื่อนซ่อนตาดำของเขาให้มิดที่สุด หากใครลืมตาก่อนจะแพ้ ซึ่งการหลับตาเป็นเวลานานนั้นทำให้เขาง่วงนอน และเผลอหลับไปในที่สุด
14. ตีหมอน
หากพวกเขาไม่ยอมเข้านอน การเล่นกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังก็อาจช่วยได้ อย่างการตีหมอน คุณอาจเริ่มด้วยการชวนเขา หรือตีหมอนไปที่เขาเบา ๆ ก่อน และหลังจากนั้นก็เปิดสงครามได้เลย ควรเล่นก่อนเข้านอนสัก 2-3 ชั่วโมง การที่เขาได้ใช้พลังงานมาก ๆ ก่อนนอนก็ทำให้เขารู้สึกเพลียและนอนหลับได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น
15. การนวด
กิจกรรมสุดผ่อนคลายที่คนโตอย่างเราก็ชอบกัน สำหรับเด็ก ๆ แล้วพวกเขาไม่ต้องการการนวดที่รุนแรงเพื่อคลายอาการปวด แต่เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เหนื่อยล้าจากการวิ่งเล่นมากทั้งวัน หากพวกเขารู้สึกสบายตัวแล้วเขาก็จะเผลอหลับไปเอง
กิจกรรมก่อนนอน ช่วยให้ลูกนอนหลับสบายความจริงแล้วยังมีอีกมาก เพราะเด็ก ๆ แต่ละบ้านก็ชอบกิจกรรมก่อนนอนไม่เหมือนกัน แต่หากลูกบ้านไหนไม่ชอบนอนแล้วหละก็ อย่าลืมเอาวิธีเหล่านี้ไปลองใช้ดูนะคะ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอแบบที่เด็ก ๆ ชอบจริง ๆ เพราะว่าการนอนหลับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการพักผ่อนนะคะ
บทความที่น่าสนใจ :
ลูกควร “เลิกนอนกลางวัน” ตอนไหน ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่ยอมนอนกลางวัน ?
ทำไมลูกนอนกรน เด็กนอนกรน เกิดจากสาเหตุอะไร?
ชุดเครื่องนอน ตกแต่งห้อง ดีไซน์สวย เหมาะสำหรับครอบครัว
ที่มา : 1, 2, 3, 4
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!