X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย สร้างสายใยไว้ใจ เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

บทความ 5 นาที
เทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย สร้างสายใยไว้ใจ เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

เปิดเทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่ ความแตกต่างของแต่ละช่วงวัยเป็นยังไง พ่อแม่ต้องรู้!

เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่ เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในกลุ่มผู้ปกครองยุคใหม่ ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่เปิดเผย และไว้วางใจกับลูก ๆ การที่ลูกรู้สึกสะดวกใจที่จะสื่อสารทุกเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทุกข์ ความสำเร็จ หรือแม้แต่ความผิดพลาด ถือเป็นรากฐานสำคัญของการเลี้ยงดูที่ประสบความสำเร็จ และส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ และจิตใจของเด็กในระยะยาว

การทำความเข้าใจ และปรับวิธีการเลี้ยงดูให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย หรือที่เรียกว่า “เลี้ยงลูกตามวัย” จึงเป็นกุญแจสำคัญ ในการปลดล็อกศักยภาพในการสื่อสารของลูก และสร้างสายใยแห่งความเข้าใจที่แน่นแฟ้นในครอบครัว บทความนี้จะนำเสนอแนวทางการเลี้ยงลูกตามช่วงวัยอย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ สามารถนำไปปรับใช้ และส่งเสริมให้ลูกกล้าที่จะสื่อสารด้วยค่ะ

เลี้ยงลูกตามวัย เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

วัยทารกและวัยเตาะแตะ (0-3 ปี): ภาษาแห่งความรัก และการตอบสนองที่ไว้วางใจ

ในช่วงวัยนี้ โลกของลูกยังเล็ก และหมุนรอบความต้องการพื้นฐาน และความรู้สึกปลอดภัยเป็นหลัก พวกเขาจะสื่อสารความต้องการผ่านการร้องไห้ ซึ่งเป็นภาษาแรกของพวกเขา รวมถึงการส่งเสียงอ้อแอ้ การแสดงท่าทางง่าย ๆ เช่น การชี้ การคว้าสิ่งของที่สนใจ และการแสดงสีหน้าเพื่อสื่อสารอารมณ์ พวกเขายังไม่เข้าใจภาษาพูดที่ซับซ้อน แต่มีความไวต่อสัมผัสที่อ่อนโยน น้ำเสียงที่นุ่มนวล และการแสดงออกทางอารมณ์ของผู้ดูแลเป็นอย่างมาก การสร้างความผูกพันที่มั่นคงในวัยนี้ ก็เป็นรากฐานสำคัญของการสื่อสารในอนาคต

ลูกวัยเตาะแตะ 0-3 ปี: เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

  • การตอบสนองที่ไว: พ่อแม่ควรใส่ใจ และตอบสนองต่อสัญญาณที่ลูกส่งมาอย่างรวดเร็ว และสม่ำเสมอ การร้องไห้ในวัยนี้ ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การเรียกร้องความสนใจ แต่เป็นวิธีการสื่อสารความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นความหิว ความเหนื่อย ความไม่สบายตัว หรือความต้องการอ้อมกอดจากผู้ที่พวกเขารัก การตอบสนองด้วยความรัก ความอดทน และความเข้าใจ จะสร้างความรู้สึกปลอดภัย มั่นคง และเป็นพื้นฐานสำคัญของความไว้วางใจ ที่จะนำไปสู่การสื่อสารที่ตรงไปตรงมากับพ่อแม่ในระยะยาว
  • สร้างปฏิสัมพันธ์ผ่านภาษา และการสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด: แม้ว่าลูกจะยังไม่เข้าใจความหมายของคำพูด แต่การพูดคุยกับลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน จังหวะที่นุ่มนวล และการใช้คำศัพท์ง่าย ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งรอบตัว จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารของลูก การเล่านิทานสั้น ๆ ร้องเพลงที่มีท่วงทำนองสนุกสนาน หรืออธิบายสิ่งที่คุณกำลังทำในชีวิตประจำวัน ก็เป็นวิธีที่ดีในการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางภาษา นอกจากนี้ การสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด เช่น การสบตา การยิ้ม การกอด และการสัมผัสที่อ่อนโยน ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์และความรู้สึกใกล้ชิด ลูกจะรู้สึกถึงความรักและความเอาใจใส่ ผ่านการสัมผัสและการแสดงออกทางสีหน้าของคุณ
  • เลียนแบบและส่งเสริมการสื่อสารสองทาง: สังเกตเสียงและท่าทางที่ลูกทำ และลองเลียนแบบเสียง หรือท่าทางนั้นอย่างสนุกสนาน การทำเช่นนี้จะแสดงให้ลูกเห็นว่า คุณกำลังตั้งใจรับฟัง และพยายามที่จะเข้าใจภาษาของพวกเขา นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกลองสื่อสารมากขึ้น และเป็นการสร้างการสื่อสารสองทางตั้งแต่ยังเล็ก
  • สิ่งที่ควรระมัดระวัง: การละเลยการตอบสนองต่อความต้องการของลูกอย่างสม่ำเสมอ หรือการตอบสนองที่ไม่ไวต่อสัญญาณของพวกเขา อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ได้รับการเอาใจใส่ และไม่ไว้วางใจที่จะสื่อสารความต้องการของตนเองในอนาคต การสร้างความไว้วางใจต้องอาศัยความสม่ำเสมอและความอดทนนะคะ

เลี้ยงลูกตามวัย เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

วัยก่อนเรียน (3-6 ปี): โลกแห่งคำถามและการสำรวจความรู้สึก

เด็กวัยนี้เป็นนักสำรวจตัวยง ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พวกเขามีจินตนาการที่กว้างไกล ชอบเล่นบทบาทสมมติเพื่อเรียนรู้โลก และมีพัฒนาการทางภาษาที่รวดเร็ว พวกเขาจะถามคำถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เพื่อทำความเข้าใจโลก และเริ่มแสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึกที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ความสุข ความเศร้า ความโกรธ และความกลัว การสนับสนุนให้พวกเขาแสดงออกอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

ลูกวัยก่อนเรียน 3-6 ปี: เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

  • เป็นผู้ฟังที่ดีและกระตุ้นการเล่าเรื่อง: เมื่อลูกเล่าเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่โรงเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องของเล่น หรือเรื่องจินตนาการที่พวกเขาสร้างขึ้น ให้ตั้งใจฟัง และแสดงความสนใจอย่างแท้จริง ถามคำถามเพิ่มเติม ที่กระตุ้นให้ลูกเล่ารายละเอียดมากขึ้น เช่น “แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีกนะ” หรือ “ตอนนั้นหนูรู้สึกอย่างไรบ้าง ทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น” การแสดงความสนใจในสิ่งที่ลูกพูด จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าความคิดและความรู้สึกของพวกเขามีความสำคัญ
  • ตอบคำถามด้วยความอดทน: เด็กวัยนี้มักมีคำถาม “ทำไม” อยู่เสมอ พ่อแม่ควรตอบคำถามของลูกด้วยความอดทน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และอาจใช้ภาพ หรือตัวอย่างประกอบ เพื่อช่วยให้ลูกเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อน การแสดงความกระตือรือร้นที่จะตอบคำถาม จะส่งเสริมให้ลูกรู้สึกว่าการเรียนรู้ และการถามเป็นสิ่งที่ดี และเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้สำรวจโลกใบใหญ่ของพวกเขา ผ่านการพูดคุยกับพ่อแม่ได้
  • ส่งเสริมการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม: ช่วยสอนลูกให้เข้าใจอารมณ์ต่าง ๆ ที่พวกเขาเผชิญ สอนให้พวกเขารู้จักวิธีแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม โดยไม่ทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น เช่น “ถ้าหนูโกรธ หนูสามารถบอกแม่ได้ด้วยคำพูด แทนการขว้างของเล่นนะ” หรือ “เมื่อหนูเสียใจ หนูสามารถกอดแม่ได้” การช่วยให้พวกเขามีคำศัพท์สำหรับอธิบายความรู้สึก จะช่วยให้พวกเขาสื่อสารความรู้สึกของตนเองได้ดีขึ้น
  • ใช้การเล่นและการเล่านิทาน เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร: การเล่นบทบาทสมมติ ช่วยให้เด็กได้แสดงออกถึงความคิด ความรู้สึก และความเข้าใจในสถานการณ์ต่าง ๆ การเล่านิทาน และพูดคุยเกี่ยวกับตัวละครในนิทาน รวมถึงอารมณ์ และการตัดสินใจของตัวละคร ก็เป็นวิธีที่ดีในการสำรวจอารมณ์ ค่านิยม และแนวทางการแก้ปัญหาต่าง ๆ
  • สิ่งที่ควรระมัดระวัง: การปัดคำถามของลูกอย่างไม่ใส่ใจ หรือการแสดงความรำคาญเมื่อลูกถามมาก อาจทำให้ลูกรู้สึกว่าคำถามของพวกเขาไม่สำคัญ และพวกเขาก็ไม่อยากถามอะไรคุณอีกต่อไป การปิดกั้นการแสดงออกทางอารมณ์ของลูก ก็อาจทำให้พวกเขาไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสมในอนาคต ดังนั้นต้องระมัดระวังด้วยนะคะ

เลี้ยงลูกตามวัย เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

วัยเรียน (6-12 ปี): การสร้างความเข้าใจ และเปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่าง

เด็กวัยนี้เริ่มมีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น พวกเขาสามารถเข้าใจกฎเกณฑ์และผลที่ตามมา เริ่มมีสังคมเพื่อนที่กว้างขึ้น และอาจมีความกังวลเกี่ยวกับผลการเรียน การเข้าสังคม หรือความยุติธรรม พวกเขาเริ่มมีความคิดเห็นของตนเอง ต้องการได้รับการรับฟัง และการเคารพในความคิดเห็น

ลูกวัยเรียน 6-12 ปี: เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

  • สร้างบทสนทนาที่เน้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น: ชวนลูกคุยเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน โรงเรียน เพื่อน ๆ หรือแม้แต่ข่าวสาร และเหตุการณ์รอบตัว เปิดโอกาสให้ลูกแสดงความคิดเห็น และรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาอย่างเคารพ แม้ว่าพ่อแม่อาจจะไม่เห็นด้วยก็ตาม การแสดงให้เห็นว่า คุณให้ความสำคัญกับความคิดของพวกเขา และพร้อมที่จะรับฟังเหตุผลของพวกเขา จะส่งเสริมให้พวกเขากล้าแสดงออกมากขึ้น และรู้สึกว่าความคิดของตนเองมีคุณค่า
  • สอนทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ: พ่อแม่ควรสอนทักษะการฟัง การจับใจความสำคัญ การพูดอย่างตรงประเด็น การแสดงออกอย่างเหมาะสม และการจัดการกับความขัดแย้งด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ จะช่วยให้ลูกมั่นใจในการสื่อสารกับผู้อื่น รวมถึงพ่อแม่ และสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองได้อย่างมีเหตุผล
  • ให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมที่ลูกสนใจ: ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกชอบ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ดนตรี ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ และถ้าเป็นไปได้ ลองเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านั้นกับลูก การแสดงความสนใจในสิ่งที่ลูกให้ความสำคัญ จะสร้างความใกล้ชิด และความเข้าใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาส ให้เกิดบทสนทนาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสนใจ
  • เป็นผู้ฟังที่เข้าใจและให้คำแนะนำอย่างมีเหตุผล: เมื่อลูกมีปัญหา ให้รับฟังอย่างตั้งใจ พยายามทำความเข้าใจมุมมองของพวกเขา และช่วยพวกเขาคิดหาทางออกด้วยตนเอง โดยการตั้งคำถามที่กระตุ้นให้พวกเขาคิดวิเคราะห์ถึงผลดีผลเสียของแต่ละทางเลือก ให้คำแนะนำเมื่อลูกขอ แต่หลีกเลี่ยงการตัดสิน หรือการควบคุมมากเกินไป การสนับสนุนให้ลูกคิดเอง และตัดสินใจด้วยตนเอง จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความสามารถในการแก้ปัญหาในระยะยาว
  • สิ่งที่ควรระมัดระวัง: การมองข้ามความคิดเห็นของลูก หรือการตัดสินความคิดของพวกเขาอย่างรุนแรง โดยไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้อธิบายเหตุผล อาจทำให้ลูกรู้สึกว่าความคิดของตนเองไม่มีค่า และพวกเขาก็จะไม่อยากบอกความคิดหรือความรู้สึกกับพ่อแม่อีกต่อไปค่ะ

เลี้ยงลูกตามวัย เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

วัยรุ่น (13-18 ปี): การสร้างความไว้วางใจและการสนับสนุนความเป็นอิสระ

วัยรุ่นเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย อารมณ์ และสังคม พวกเขาต้องการความเป็นอิสระมากขึ้น ให้ความสำคัญกับกลุ่มเพื่อน และอาจมีเรื่องส่วนตัวที่ไม่ต้องการเปิดเผย พวกเขากำลังค้นหาอัตลักษณ์ของตนเอง และอาจมีความขัดแย้งกับพ่อแม่ในบางครั้ง เนื่องจากความต้องการอิสระที่เพิ่มขึ้น

ลูกวัยรุ่น 13-18 ปี: เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

  • เคารพความเป็นส่วนตัว: ให้พื้นที่ส่วนตัว และเคารพการตัดสินใจของลูกในเรื่องส่วนตัว ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของตัวเขาเองหรือผู้อื่น การไว้ใจลูกและให้เกียรติความเป็นส่วนตัวของพวกเขา จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และลดความขัดแย้งได้
  • สร้างความไว้วางใจผ่านการรักษาคำพูด: รักษาคำพูดและสัญญาที่ให้ไว้กับลูก เป็นที่พึ่งที่ลูกสามารถไว้วางใจได้เมื่อมีปัญหา แสดงความจริงใจในการสื่อสาร และหลีกเลี่ยงการโกหกหรือการปิดบังข้อมูลที่สำคัญ
  • เปิดใจรับฟังโดยไม่ตัดสิน: เมื่อลูกต้องการพูดคุย รับฟังด้วยความเข้าใจ พยายามทำความเข้าใจมุมมองของพวกเขา และหลีกเลี่ยงการตำหนิหรือตัดสินในทันที แสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมที่จะสนับสนุนพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะเผชิญกับความท้าทายหรือปัญหาใด ๆ ก็ตาม การเป็นที่พักพิงทางใจที่มั่นคง จะช่วยให้ลูกกล้าที่จะเปิดใจ
  • สื่อสารแบบเปิดอก ตรงไปตรงมา: สร้างบรรยากาศที่ลูกรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อน ความรัก ความกังวลในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ความผิดพลาด บอกให้พวกเขารู้ว่าคุณพร้อมที่จะรับฟังและช่วยเหลือเสมอ การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา จะช่วยลดความเข้าใจผิดได้นะคะ
  • เป็นที่ปรึกษาและผู้ให้คำแนะนำ โดยเน้นการรับฟังและให้ทางเลือก: ในวัยนี้ ลูกต้องการคำแนะนำ และความเข้าใจมากกว่าการสั่งสอน พยายามเป็นที่ปรึกษาที่ช่วยให้พวกเขาคิดวิเคราะห์ และตัดสินใจด้วยตนเอง โดยการรับฟังปัญหาของพวกเขาอย่างตั้งใจ และช่วยพวกเขาพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ แบ่งปันประสบการณ์ของคุณเมื่อเหมาะสม แต่หลีกเลี่ยงการบังคับความคิดเห็น หรือการควบคุมมากเกินไป
  • สิ่งที่ควรระมัดระวัง: การควบคุม หรือแทรกแซงชีวิตส่วนตัวของลูกมากเกินไป รวมไปถึงการตัดสิน หรือวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนของเขา และสิ่งที่ลูกสนใจ อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่ไว้วางใจ และไม่อยากเปิดใจคุยกับพ่อแม่อีก

การทำความเข้าใจพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย ปรับวิธีการสื่อสารให้เหมาะสมกับวัยของลูก และสร้างความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ที่มีความมั่นคงทางจิตใจ กล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวไปตลอดชีวิต การลงทุนด้วยความรัก ความเข้าใจ ความอดทน และการรับฟังอย่างแท้จริง คือของขวัญอันล้ำค่าที่เรามอบให้กับลูกได้ และจะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตของพวกเขาในทุกด้านค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

5 หัวใจสำคัญของการ เลี้ยงลูกสองภาษา วางกลยุทธ์ ฝึกยังไงให้ได้ผล

ทำยังไงเมื่อ ลูกเชื่อเพื่อนมากกว่าแม่ เลี้ยงลูกยังไงให้เชื่อฟังพ่อแม่

ลูกติดแม่มาก จนไม่เป็นอันทำอะไร รับมือยังไง? ให้ลูกมั่นใจ ติดแม่น้อยลง

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

PP.

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • เทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย สร้างสายใยไว้ใจ เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่
แชร์ :
  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

  • จิตวิทยาความรัก คู่ผัว-เมียสายไฝว้ ทะเลาะไปรักไป ชาวบ้านงง หยุมหัวกันแทบตาย สุดท้ายก็ไม่เลิก

    จิตวิทยาความรัก คู่ผัว-เมียสายไฝว้ ทะเลาะไปรักไป ชาวบ้านงง หยุมหัวกันแทบตาย สุดท้ายก็ไม่เลิก

  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

  • จิตวิทยาความรัก คู่ผัว-เมียสายไฝว้ ทะเลาะไปรักไป ชาวบ้านงง หยุมหัวกันแทบตาย สุดท้ายก็ไม่เลิก

    จิตวิทยาความรัก คู่ผัว-เมียสายไฝว้ ทะเลาะไปรักไป ชาวบ้านงง หยุมหัวกันแทบตาย สุดท้ายก็ไม่เลิก

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว