X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า 10 เคล็ดลับสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้ลูก

บทความ 5 นาที
เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า 10 เคล็ดลับสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้ลูก

เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า 10 เคล็ดลับสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ ให้ลูกรักเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข เข้าใจตนเอง

ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว ความท้าทายต่าง ๆ รอบตัว ก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย หนึ่งในความกังวลที่พ่อแม่ยุคใหม่ให้ความสำคัญอย่างมากคือ จะ เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า เพราะภาวะซึมเศร้า ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกช่วงวัย การสร้างรากฐานทางจิตใจที่แข็งแรงตั้งแต่ยังเยาว์วัย จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ที่จะช่วยให้ลูกรักของเราเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจตนเอง รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุขกับชีวิตได้อย่างแท้จริง

เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า

เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า

ภาวะซึมเศร้าในเด็ก เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมปัจจุบัน แม้ว่าบางครั้งอาการอาจไม่ชัดเจนเหมือนในผู้ใหญ่ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น สามารถส่งผลต่อพัฒนาการ และการใช้ชีวิตของเด็กอย่างรุนแรง การตั้งคำถามว่า แล้วจะเลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพจิตที่ดีของลูกรัก บทความนี้จะเจาะลึก 10 เคล็ดลับสำคัญที่พ่อแม่ทุกคนควรทราบ และนำไปปฏิบัติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ ให้ลูกรักเติบโตอย่างแข็งแรง มีความสุข และพร้อมรับมือกับทุกความท้าทายในชีวิต

1. สร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและมั่นคง

หัวใจสำคัญของการป้องกันภาวะซึมเศร้าในเด็ก คือการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และเปี่ยมด้วยความรักในครอบครัว ลูกควรรู้สึกปลอดภัย อบอุ่น และเป็นที่รักจากพ่อแม่เสมอ การใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน เช่น การอ่านนิทานก่อนนอน เล่นเกมด้วยกัน หรือแม้แต่การรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความผูกพันได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อลูกรู้สึกว่ามีคนรักและเข้าใจเขา พวกเขาก็จะมีที่พึ่งทางใจเมื่อเผชิญกับความยากลำบาก

  • ให้ความสนใจ: สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ และพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด
  • รับฟังอย่างตั้งใจ: เมื่อลูกอยากพูด ให้หยุดทุกกิจกรรม และตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกต้องการจะสื่อสาร ไม่ตัดสินหรือขัดจังหวะ
  • แสดงความรักสม่ำเสมอ: กอด หอม พูดคำว่ารัก หรือแสดงออกด้วยการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บ่งบอกถึงความรัก และความห่วงใย

2. สอนให้ลูกรู้จักจัดการกับอารมณ์

เด็ก ๆ ยังไม่เข้าใจอารมณ์ที่ซับซ้อนได้ดีนัก การสอนให้พวกเขารู้จักระบุอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ หรือผิดหวัง และหาวิธีจัดการกับอารมณ์เหล่านั้นอย่างเหมาะสม เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าได้ พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการอารมณ์ของตนเอง และสอนลูกว่า การรู้สึกถึงอารมณ์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคือ การแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

  • ตั้งชื่อให้กับอารมณ์: ชวนลูกคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้สึก เช่น “ลูกกำลังโกรธอยู่ใช่ไหม” หรือ “ลูกดูเศร้า ๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า”
  • สอนวิธีระบายอารมณ์ที่เหมาะสม: เช่น การวาดรูป ระบายสี เล่นกีฬา หรือพูดคุยกับคนที่ไว้วางใจ แทนการเก็บกด หรือระเบิดอารมณ์ออกมาในทางที่ไม่ดี
  • ยอมรับความรู้สึกของลูก: ไม่ควรบอกให้ลูกหยุดรู้สึกเสียใจหรือโกรธ แต่ควรสอนให้ลูกเข้าใจว่า ทุกคนมีอารมณ์เหล่านี้ และสามารถผ่านมันไปได้

3. ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและการปรับตัว

ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การเผชิญหน้ากับปัญหา เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต การสอนให้ลูกรู้จักคิดวิเคราะห์ หาวิธีแก้ปัญหา และปรับตัวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ จะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจ และรู้สึกว่าสามารถควบคุมชีวิตของตนเองได้ ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีเยี่ยมต่อภาวะซึมเศร้า

  • ให้โอกาสลูกแก้ปัญหาด้วยตนเอง: เมื่อลูกเผชิญปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แทนที่จะรีบเข้าไปช่วย ให้ลองถามลูกว่า “ลูกคิดว่าเราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร”
  • สอนให้คิดบวก: ช่วยลูกมองหาแง่มุมดี ๆ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
  •  ส่งเสริมความยืดหยุ่น: สอนให้ลูกเข้าใจว่าความล้มเหลว เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ และสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า

4. สร้างความภูมิใจในตนเอง และความนับถือตนเอง

เด็กที่มีความภาคภูมิใจในตนเองสูง และมีความนับถือตนเองที่ดี จะมีความคิดเชิงบวกเกี่ยวกับตนเองและโลกภายนอก พวกเขามักจะรับมือกับความท้าทายได้ดีกว่า และมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพจิตน้อยลง พ่อแม่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสิ่งเหล่านี้ให้กับลูก

  • ชื่นชมความพยายามมากกว่าผลลัพธ์: เน้นการชื่นชมความตั้งใจ ความพยายาม และความอดทนของลูก มากกว่าการชื่นชมเพียงแค่ความสำเร็จ
  • ให้โอกาสลูกได้ตัดสินใจและเลือก: ในเรื่องที่เหมาะสมกับวัย เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า และสามารถควบคุมชีวิตได้
  • หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ: ไม่เปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่า และขาดความมั่นใจ

5. กำหนดขอบเขตและวินัยที่ชัดเจนแต่ยืดหยุ่น

การมีกฎระเบียบและวินัยที่เหมาะสม ช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัย และเข้าใจถึงขอบเขตที่ชัดเจน การมีวินัยไม่ได้หมายถึงการเข้มงวดจนเกินไป แต่เป็นการสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งจะช่วยสร้างโครงสร้างที่ดีในชีวิต และลดความสับสนวุ่นวายทางอารมณ์

  • ตั้งกฎที่เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับวัย: อธิบายเหตุผลของกฎเหล่านั้นให้ลูกฟัง
  • มีความสม่ำเสมอในการบังคับใช้กฎ: เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้
  • ให้เหตุผลเมื่อจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน: หากสถานการณ์เปลี่ยนไป พ่อแม่ควรยืดหยุ่น และอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง

6. ส่งเสริมการออกกำลังกาย และการนอนหลับที่เพียงพอ

การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการนอนหลับที่เพียงพอ มีผลโดยตรงต่อสุขภาพจิตที่ดี การที่เด็กได้ออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียด เพิ่มความสุข และพัฒนาทักษะทางสังคม ในขณะที่การนอนหลับที่เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ พร้อมสำหรับการเรียนรู้ และรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ในวันถัดไป

  • จัดตารางเวลาให้ลูกได้ออกกำลังกายอย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน: เช่น การเล่นกีฬา ปั่นจักรยาน หรือเล่นนอกบ้าน
  • สร้างกิจวัตรการนอนที่ดี: กำหนดเวลานอนและตื่นที่สม่ำเสมอ และสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายก่อนนอน
  • จำกัดการใช้หน้าจอ: ลดเวลาการใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะก่อนนอน

7. สอนทักษะการเข้าสังคมและการสร้างมิตรภาพ

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การมีเพื่อนที่ดี และการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ช่วยให้เด็กรู้สึกมีคุณค่าและไม่โดดเดี่ยว การสอนทักษะการเข้าสังคม เช่น การแบ่งปัน การประนีประนอม การเข้าใจผู้อื่น และการแก้ปัญหาความขัดแย้ง จะช่วยให้ลูกสร้างมิตรภาพที่ดีและมีความสุขในชีวิต

  • เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นกับเด็กคนอื่น: เช่น การพาไปสนามเด็กเล่น หรือจัดกิจกรรมกลุ่ม
  • สอนให้ลูกรู้จักการแบ่งปันและการช่วยเหลือผู้อื่น: เพื่อให้ลูกเรียนรู้ที่จะเป็นมิตรที่ดี
  • เป็นแบบอย่างที่ดีในการเข้าสังคม: ลูกจะเรียนรู้จากสิ่งที่พ่อแม่ทำ

เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า

8. ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพ

การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ช่วยให้เด็กเติบโต และพัฒนาศักยภาพของตนเอง การที่ลูกได้ค้นพบสิ่งที่ตนเองถนัด และมีความสุขกับการเรียนรู้ จะช่วยสร้างความมั่นใจ และความภาคภูมิใจในตนเอง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันภาวะซึมเศร้า

  • สนับสนุนความสนใจของลูก: ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ด้านวิชาการ ศิลปะ ดนตรี หรือกีฬา
  • สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้: เช่น การจัดมุมอ่านหนังสือ หรือการมีอุปกรณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสม
  • เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าผลลัพธ์: ชื่นชมความพยายามและการพัฒนาของลูก

9. สอนให้ลูกรู้จักเผชิญหน้ากับความท้าทายและความล้มเหลว

ความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ การสอนให้ลูกรู้จักยอมรับความล้มเหลว เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และลุกขึ้นยืนใหม่ได้ จะเป็นภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งต่อภาวะซึมเศร้า ลูกที่กลัวความล้มเหลวมากเกินไป อาจจะหลีกเลี่ยงการลองสิ่งใหม่ ๆ และขาดโอกาสในการพัฒนาตนเอง

  • ทำให้ลูกเห็นว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ: แต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา
  • ให้กำลังใจและสนับสนุนเมื่อลูกล้มเหลว: ช่วยให้ลูกมองหาบทเรียนจากสถานการณ์นั้น ๆ
  • สอนให้ลูกยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ: ทั้งของตนเองและผู้อื่น

10. หมั่นสังเกตสัญญาณเตือน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น

แม้ว่าเราจะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่บางครั้งภาวะซึมเศร้าก็อาจเกิดขึ้นได้ การหมั่นสังเกตสัญญาณเตือน เช่น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างเห็นได้ชัด การแยกตัว การแสดงออกถึงความเศร้า หรือหงุดหงิดอย่างรุนแรง การนอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป การขาดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ หรือการมีอาการทางกายที่หาสาเหตุไม่ได้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากพบสัญญาณเหล่านี้ ไม่ควรรอช้าที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น หรือนักจิตวิทยา เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัย และการช่วยเหลือที่ถูกต้องและทันท่วงที การขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นการแสดงออกถึงความรักและความห่วงใย ที่มีต่อลูกอย่างแท้จริง

  • การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม: เช่น ก้าวร้าว หงุดหงิดง่าย หรือแยกตัวจากสังคม
  • การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์: เช่น เศร้าซึมอย่างต่อเนื่อง ร้องไห้บ่อยครั้ง หรือไม่มีความสุขในสิ่งที่เคยชอบ
  • ปัญหาการนอนหลับ: นอนไม่หลับ นอนมากเกินไป หรือฝันร้ายบ่อยครั้ง
  • ปัญหาการกิน: กินมากเกินไป หรือกินน้อยลงอย่างผิดปกติ
  • อาการทางกายที่ไม่มีสาเหตุ: เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โดยที่แพทย์ไม่พบความผิดปกติ
  • การพูดถึงความตายหรือการทำร้ายตัวเอง: สัญญาณนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุด และต้องรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที

การเลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรัก ความเข้าใจ ความอดทน และความสม่ำเสมอของพ่อแม่ การสร้างรากฐานทางจิตใจที่แข็งแรงตั้งแต่ยังเด็ก จะเป็นภูมิคุ้มกันอันล้ำค่า ที่ช่วยให้ลูกรักเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงทั้งกายและใจ มีความสุขกับชีวิต และพร้อมที่จะรับมือกับทุกความท้าทายที่เข้ามาในอนาคต พ่อแม่คือบุคคลที่สำคัญที่สุด ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพจิตที่ดีของลูกรัก อย่าลืมว่าการดูแลสุขภาพจิตของลูก ก็สำคัญไม่แพ้การดูแลสุขภาพกาย หากพบสัญญาณเตือนใด ๆ อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกรักของเราได้รับการดูแลที่เหมาะสมที่สุด และเติบโตอย่างมีความสุขในโลกใบนี้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

พาลูกพบจิตแพทย์เด็ก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ไปได้สบายหายห่วง

ห่วงเกินไป ใช่ว่าดี! วิจัยเผย ลูกที่ถูกเลี้ยงแบบตีกรอบ เสี่ยงซึมเศร้า และภาวะวิตกกังวล

เด็กสายตาสั้น ต้องระวัง! อาจเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

PP.

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้เป็นซึมเศร้า 10 เคล็ดลับสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้ลูก
แชร์ :
  • 10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!

    10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!

  • เงินในบัญชีคนตาย ญาติถอนเองไม่ได้! แม่ต้องรู้ ทำยังไงให้ลูกเข้าถึงเงินเราได้อย่างถูกกฎหมาย

    เงินในบัญชีคนตาย ญาติถอนเองไม่ได้! แม่ต้องรู้ ทำยังไงให้ลูกเข้าถึงเงินเราได้อย่างถูกกฎหมาย

  • พ่อจ๋าจับท้องหน่อย! วิจัยเผย พ่อลูบท้องแม่บ่อย ๆ ช่วยให้ลูกฉลาด ตั้งแต่ในท้อง!

    พ่อจ๋าจับท้องหน่อย! วิจัยเผย พ่อลูบท้องแม่บ่อย ๆ ช่วยให้ลูกฉลาด ตั้งแต่ในท้อง!

  • 10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!

    10 สัญญาณเตือน พ่อแม่ที่ล้มเหลว สำรวจตัวเองก่อนสาย!

  • เงินในบัญชีคนตาย ญาติถอนเองไม่ได้! แม่ต้องรู้ ทำยังไงให้ลูกเข้าถึงเงินเราได้อย่างถูกกฎหมาย

    เงินในบัญชีคนตาย ญาติถอนเองไม่ได้! แม่ต้องรู้ ทำยังไงให้ลูกเข้าถึงเงินเราได้อย่างถูกกฎหมาย

  • พ่อจ๋าจับท้องหน่อย! วิจัยเผย พ่อลูบท้องแม่บ่อย ๆ ช่วยให้ลูกฉลาด ตั้งแต่ในท้อง!

    พ่อจ๋าจับท้องหน่อย! วิจัยเผย พ่อลูบท้องแม่บ่อย ๆ ช่วยให้ลูกฉลาด ตั้งแต่ในท้อง!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว