พัฒนาการทางสายตาของลูกน้อยเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่งค่ะ แต่เคยสงสัยกันไหมคะว่า โลกใบใหม่ที่สายตาลูกน้อยมองเห็นเป็นยังไง ทารกมองเห็นตอนไหน ลูกน้อยสามารถมองเห็นอะไรได้บ้างตั้งแต่แรกเกิด แล้ว… จะรู้ได้ยังไงว่าลูกมองเห็น พัฒนาการสายตาทารก แบบไหนผิดปกติ บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปสำรวจโลกแห่งการมองเห็นของลูก พร้อมวิธีการกระตุ้นพัฒนาการสายตาของลูกอย่างเต็มที่ เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย
ทารกมองเห็นตอนไหน พัฒนาการสายตาทารก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้
ทารกมองเห็นตอนไหน อย่าตกใจนะคะถ้าจะตอบว่า ทารกน้อยเริ่มมองเห็นตั้งแต่แรกเกิดจนความสามารถในการมองพัฒนาเต็มที่เมื่ออายุ 12 เดือน เพียงแต่ในช่วงแรกเกิดหรือสัปดาห์แรกของชีวิตนั้นลูกน้อยอาจมองเห็นได้ไม่ชัดนัก มุมมองแรกของลูกที่มีต่อโลกจะมีเพียงเฉดสีเทาเท่านั้น แต่ทักษะด้านการมองเห็นจะพัฒนาไปเรื่อยๆ ตามการเจริญเติบโตตามวัย โดยเฉพาะวัตถุที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ หรือของเล่นที่มีสีสันสดใส อย่างไรก็ตาม ระบบสายตาของทารกยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีแรก
|
จะรู้ได้ยังไงว่าลูกมองเห็น สัญญาณที่บอกว่าลูกน้อยมองเห็น
|
จ้องมองใบหน้า |
ทารกจะชอบจ้องมองใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ หรือของเล่นที่มีสีสันสดใส |
ตามองตามวัตถุ |
เมื่อมีวัตถุเคลื่อนไหวผ่านไป ทารกจะหันตามอง |
เบิกตาโตเมื่อเห็นแสง |
แสงสว่างจะดึงดูดความสนใจของลูกน้อยได้ |
ตอบสนองต่อการสัมผัส |
เมื่อคุณแม่แตะเบาๆ ที่แก้ม ลูกน้อยจะหันหน้าตาม |
พัฒนาการสายตาทารก แต่ละช่วงวัย
ในช่วงเดือนแรกนั้นดวงตาของลูกน้อยจะไม่ไวต่อแสงมากนักค่ะ และจะเริ่มพัฒนาการมองเห็นเป็นสีได้เร็วมาก โดยหลังคลอดหนึ่งสัปดาห์จะเห็นเป็นสีแดง ส้ม เหลือง และเขียว หลังจากนั้นจะค่อยๆ พัฒนาจนสามารถมองเห็นสีน้ำเงินและสีม่วงได้ เนื่องจากแสงสีฟ้ามีความยาวคลื่นสั้นกว่าและมีตัวรับสีน้อยกว่าในจอตาของมนุษย์ ลูกจึงมองเห็นสีโทนนี้ได้ช้ากว่าค่ะ
กระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 2 และ 3 ลูกจะมีพัฒนาการระดับสายตาที่คมชัดขึ้น สายตาเริ่มขยับได้ดีขึ้น สามารถมองตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ นอกจากนี้ยังมีการเรียนรู้วิธีเปลี่ยนการจ้องมองจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่งโดยไม่ต้องขยับศีรษะได้ และดวงตาจะไวต่อแสงมากขึ้น โดยลูกจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ขยับตาได้เร็วและแม่นยำขึ้น รวมทั้งมีการทำงานประสานระหว่างมือและตาที่ดีขึ้น ค้นหาและหยิบสิ่งของได้อย่างรวดเร็ว (แน่นอนค่ะว่าของที่หยิบ ลูกจะนำเข้าปากได้เร็วมากด้วย) และสามารถมองเห็นสีของรุ้งได้ครบทั้งหมดในช่วงวัย 6 เดือน
สำหรับ พัฒนาการสายตาทารก ช่วงวัย 7-12 เดือน เมื่อลูกน้อยสามารถเคลื่อนที่ด้วยการคลานลูกจะเริ่มกะระยะทางของสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น จับและขว้างได้แม่นยำขึ้นด้วยค่ะ คุณพ่อคุณแม่จะรับรู้ได้เลยว่าในช่วงวัยนี้ลูกน้อยจะรับรู้ความสามารถของร่างกายโดยรวมได้ดีขึ้น และเป็นช่วงเรียนรู้วิธีประสานการมองเห็นกับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดีขึ้นมากค่ะ
|
พัฒนาการด้านการมองเห็นของทารก
|
ช่วงอายุ |
พัฒนาการด้านการมองเห็น |
สิ่งที่สังเกตได้ |
แรกเกิด – 1 เดือน |
- มองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ประมาณ 8-12 นิ้ว หรือระยะห่างจากหน้าแม่ในขณะกินนม
- เห็นเพียงสีดำ ขาวและเทาเท่านั้น
- ชอบมองใบหน้า
- เริ่มตอบสนองต่อแสงจ้องมองใบหน้าคุณพ่อคุณแม่
- เริ่มมีอาการตาเหล่ เนื่องจากดวงตาแต่ละข้างยังแยกกันทำงาน และประสานงานกันได้ยังไม่ดีนัก
|
- เบิกตาโตเมื่อเห็นแสงสว่าง
|
2-4 เดือน |
- ติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นมองเห็นสีได้ชัดเจนขึ้น
- จดจำหน้าคนที่อยู่ด้วยบ่อยๆ ได้
- เริ่มควบคุมการเคลื่อนไหวของดวงตาได้ดีขึ้น
- กลอกตาไปมาได้อย่างอิสระ
|
- ตามองตามของเล่นที่เคลื่อนไหว
- จับจ้องสีสันสดใส
|
4-6 เดือน |
- ดวงตาทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น เริ่มหายจากอาการตาเหล่
- มองเห็นระยะทางได้ไกลขึ้น
- มองเห็นภาพสามมิติได้
- เริ่มเข้าใจความลึกของภาพ
- ระดับการมองเห็นชัดเจนขึ้น ใกล้เคียงกับการมองเห็นของผู้ใหญ่
|
- มือเอื้อมจับถึงของเล่น
- เล่นซ่อนหาสิ่งของได้
|
6-12 เดือน |
- สายตาพัฒนาเต็มที่
- สามารถมองเห็นวัตถุได้ชัดเจน
- เริ่มจับคู่สีและรูปทรงได้
- สามารถใช้ทั้งศีรษะและสายตาหันมองวัตถุที่เคลื่อนไหวไปรอบๆ ได้
- หันศีรษะตามคนที่เดินผ่านได้
|
- ชี้ไปยังสิ่งที่สนใจ
- จับของเล่นได้แม่นยำขึ้น
|
เทคนิคกระตุ้นการมองเห็นของลูกแต่ละวัย
เมื่อรู้แล้วว่า ทารกมองเห็นตอนไหน ต่อไปนี้คือเทคนิคกระตุ้นการมองเห็นของลูกแต่ละวัย ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านสายตาและการมองเห็นของลูกให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสมวัยค่ะ
ช่วงวัย 1 เดือนแรก:
คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยกระตุ้นการมองเห็นของลูกน้อยได้ด้วยการใช้สีสันสดใสตกแต่งห้อง อาจเลือกสิ่งของที่มีสีและรูปทรงที่ตัดกัน เช่น แขวนโมบายล์สีสดไว้ด้านบนหรือใกล้กับเตียงนอนของลูก
ทารกวัย 2-4 เดือน:
ลองเพิ่มสิ่งของใหม่ๆ เข้าไปในห้องนอนของลูก หรือเปลี่ยนตำแหน่งเตียงบ่อยๆ เพื่อให้สายตาของลูกน้อยได้มองเห็นสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ สามารถเปิดไฟตอนกลางคืนเพื่อกระตุ้นการมองเห็นของลูกน้อยได้
อายุ 4-12 เดือน:
เป็นช่วงที่สายตาของลูกพัฒนามากขึ้น ดังนั้น อาจกระตุ้นการตอบสนองทางสายตาของลูกด้วยการชวนพูดคุย อ่านหนังสือให้ลูกฟัง ซึ่งภาพประกอบในหนังสือจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสายตา นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นพัฒนาการของการประสานระหว่างตากับมือและร่างกายของลูกได้ โดยปล่อยให้ลูกคลานไปหาสิ่งของหรือของเล่นชิ้นโปรดที่คุณพ่อคุณแม่วางไว้บนพื้น และเมื่อเข้าสู่ช่วงวัย 12 เดือน ก็อาจจัดหาของเล่นประเภทที่แยกชิ้นส่วนและประกอบเข้าด้วยกันได้มาให้ลูกเล่นเพื่อเสริมพัฒนาการได้
ทารกมีพัฒนาการสายตาแบบไหนผิดปกติ และควรพบแพทย์
ดวงตาของลูกน้อยต้องใช้เวลา 2-3 เดือนในการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันทั้ง 2 ข้าง แต่หากคุณแม่สังเกตเห็นอาการต่อไปนี้ในลูกน้อย ควรพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจค่ะ
- รู้สึกว่าดวงตาข้างใดข้างหนึ่งของลูกน้อยอยู่ในแนวที่ไม่ตรงอยู่ตลอดเวลา หรือไม่ขยับประสานกับตาอีกข้าง
- ตาเหล่ ตาเข ตาเอียง คือ ดวงตาลูกน้อยไม่มองไปในทิศทางเดียวกัน หรือดวงตาเบนเข้าหากัน หรือดวงตาเบนออกด้านข้าง
- ลูกกลัวแสง ร้องไห้เมื่อถูกแสงสว่าง
- มีอาการตาเหลือง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคตับ
ทั้งนี้ ทารกที่คลอดก่อนกำหนด มีความเสี่ยงต่อปัญหาทางสายตามากกว่าทารกที่มีอายุครบกำหนด โดยอาจมีความผิดปกติของจอตา เนื่องจากมีการแทนที่เนื้อเยื่อปกติในจอตาด้วยเนื้อเยื่อเส้นใยและหลอดเลือดที่ผิดปกติ จนอาจทำให้เกิดแผลเป็นที่จอตา การมองเห็นไม่ดี และจอตาลอก ซึ่งในกรณีที่รุนแรงอาจเกิดภาวะจอตาเสื่อมก่อนกำหนดจนทำให้ตาบอดได้
|
สัญญาณเตือน! พัฒนาการสายตาทารก ผิดปกติ
|
- อายุได้ 2 เดือนแล้ว แต่ลูกน้อยยังไม่มีการตอบสนองอย่างกระตือรือร้นเมื่อมีคนมามองหน้าใกล้ๆ หรือไม่ตอบสนองเมื่อเห็นแสงที่ส่องผ่านวัตถุ
|
- ลูกน้อยหันไปให้ความสนใจสิ่งอื่นอย่างกะทันหันในระหว่างที่กำลังมองหน้าคุณแม่อยู่
|
- ทารกยังคงมีอาการตาเหล่ แม้จะล่วงเข้า 4 เดือนแล้ว
|
- ลูกน้อยขยับลูกตาไปมาอย่างรวดเร็ว ไม่อยู่นิ่ง และตากระตุก
|
|
- แก้วตา หรือเลนส์ตาของลูกน้อยมีลักษณะขุ่นขาว ตาวาว อาจสังเกตได้จากในรูปถ่าย
|
- ลูกไม่ค่อยสบตาเวลาคุณพ่อคุณแม่คุยเล่นด้วย
|
แม้ลูกจะเริ่มมองเห็นตั้งแต่แรกเกิด แต่ความจริงแล้วพัฒนาการด้านการมองเห็นของลูกเริ่มตั้งแต่ก่อนคลอดค่ะ ดังนั้น การดูแลร่างกายของคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้น คุณแม่จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของสูตินารีแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องโภชนาการและการพักผ่อนตั้งแต่ตอนท้อง เมื่อคลอดแล้วก็ควรสังเกตพัฒนาการสายตาของลูกน้อยสม่ำเสมอ พาลูกไปตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ เลือกรูปแบบของเล่นที่เหมาะสมกับวัยให้ลูก แล้วอย่าลืมพาลูกรับแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าเพื่อช่วยในการผลิตวิตามินดีซึ่งมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพของดวงตานะคะ
ที่มา : www.allaboutvision.com , hellokhunmor.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ลูก 1 เดือน กินนมแม่ แต่ไม่ถ่ายหลายวัน ท้องผูกรึเปล่า ผิดปกติไหม
ไอเท็มบำรุงน้ำนม หาได้ใน 7-11 น้ำนมไหลง่ายด้วยเมนูสะดวกซื้อ
ลูกชอบโยนของ รับมือยังไง ? พร้อมแชร์เคล็ดลับปรับพฤติกรรมลูกน้อย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!