น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีประโยชน์ รักษาสุขภาพ และช่วยแก้ปัญหาได้มากมาย ยกตัวอย่างเช่น อาการท้องผูก อาการนอนไม่หลับ หรือแม้แต่ช่วยลดความเครียด และผู้คนใช้น้ำสมุนไพรเพื่อบรรเทาปัญหาทางเดินอาหารมานานหลายศตวรรษ มีการพบข้อมูลตั้งแต่ยุคสมัยก่อน ที่คนหาวัตถุดิบพืชผักผลไม้จากบริเวณที่อยู่อาศัย มาทำเป็นอาหารและเครื่องดื่ม อีกทั้งนำมาใช้เป็นยารักษาได้ดี
ชาหรือน้ำสมุนไพรบางชนิดสามารถกระตุ้นระบบย่อยอาหารและช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ อาการท้องผูกคือเมื่อมีคนขับถ่ายน้อยกว่าสามครั้งในหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม บางคนอาจรู้สึกท้องผูกหากไม่มีการถ่ายอุจจาระทุกวัน อุจจาระอาจแข็ง แห้ง และเคลื่อนผ่านได้ยาก ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าชาและน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพต่างๆ สามารถช่วยทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้อย่างไร และเราพูดถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของการใช้น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ และข้อมูลจากโครงงานน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
น้ำสมุนไพร ช่วยเรื่องท้องผูกได้หรือไม่?
น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ บางชนิดอาจช่วยให้มีอาการท้องผูกไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม การดื่มของเหลวอุ่นเป็นวิธีที่ดีในการรับน้ำเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น และการดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นวิธีธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการท้องผูก น้ำส่วนเกินในอุจจาระทำให้อุจจาระนุ่มขึ้นและช่วยให้ขับถ่ายได้ราบรื่นขึ้น อันที่จริง การดื่มน้ำน้อยเป็นสาเหตุทั่วไปของอาการท้องผูก ความอบอุ่นของชาอาจช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและช่วยบรรเทาอาการได้
ความเครียดอาจมีบทบาทเพิ่มเติม ผู้เขียนบทวิจารณ์ปี 2014 แหล่งที่เชื่อถือได้สรุปว่าความเครียดอาจทำให้เกิดปัญหากับระบบย่อยอาหาร นี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมคนจำนวนมากจึงใช้ชาสมุนไพรเพื่อผ่อนคลายและบรรเทาความวิตกกังวล เพื่อบรรเทาความเครียด ลองเพิ่มชาสมุนไพรเป็นกิจวัตรการดูแลตนเอง
บทความประกอบ : โปรไบโอติก คืออะไร คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นในการทานโปรไบโอติก
9 น้ำสมุนไพรแก้ท้องผูก
ชาและน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพต่อไปนี้อาจมีฤทธิ์เป็นยาระบายหรือคลายกล้ามเนื้อที่ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกและกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหวตามข้อมูลโครงงานน้ําสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
1. เซนนาหรือน้ำมะขามแขก
มะขามแขกเป็นหนึ่งในส่วนผสมยาระบายที่เป็นที่รู้จักและใช้บ่อยที่สุดในชา ชามะขามแขกทำมาจากใบแห้งและฝักของไม้พุ่มมะขามแขกอเล็กซานดรีนา ต้นมะขามแขกมีสารประกอบที่เรียกว่าไกลโคไซด์ซึ่งกระตุ้นระบบย่อยอาหาร นี้สามารถมีผลเป็นยาระบาย ยาระบายที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ จำนวนมากมีความเข้มข้นของมะขามแขกสูงกว่าชา ยาเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงในการบรรเทาอาการท้องผูกจากข้อมูลโครงงานน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
บทความประกอบ : เพิ่มอารมณ์ทางเพศของผู้หญิง ด้วยอาหารและสมุนไพร 30 ชนิด
2. ชาเปปเปอร์มินต์
ชาเปปเปอร์มินต์เป็นยาธรรมชาติยอดนิยมสำหรับปัญหาทางเดินอาหาร และยา จำนวนมากสำหรับปัญหาทางเดินอาหารมีสารสกัดจากเปปเปอร์มินต์ ผลการผ่อนคลายของเมนทอลในสะระแหน่อาจช่วยผ่อนคลายท้องไส้ปั่นป่วนขณะเคลื่อนอุจจาระผ่านลำไส้ การดื่มชาเปปเปอร์มินต์สักถ้วยหลังอาหารแต่ละมื้ออาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการท้องผูกและปวดท้อง
น้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 9 สมุนไพรแก้ท้องผูก
3. ขิง
เมื่ออาการท้องผูกเกิดจากการย่อยอาหารไม่ดี รากขิงอาจช่วยได้ หลายคนใช้ชาขิงเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองในระบบย่อยอาหารและปรับปรุงการย่อยอาหาร ชาขิง หรือน้ำขิงช่วยในการย่อยอาหารหลังอาหารมื้อหนัก การดื่มวันละ 1 หรือ 2 ถ้วยหลังอาหารอาจช่วยให้ร่างกายแปรรูปอาหารและทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้
บทความประกอบ : ขิงสรรพคุณมากล้นดีต่อร่างกาย 11 ประโยชน์เน้นๆ ของดีของมันต้องมีติดครัว!
4. ดอกแดนดิไลอัน
ชาแดนดิไลออนอาจช่วยให้มีอาการทางเดินอาหารเล็กน้อย เช่น ท้องอืดหรือท้องผูกเป็นครั้งคราว แดนดิไลออนสามารถกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดี ซึ่งสามารถช่วยแก้อาการท้องผูกทางอ้อมได้ ชาแบบดอกแดนดิไลอันสามารถทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะในร่างกาย โดยเพิ่มน้ำให้กับระบบย่อยอาหารและอุจจาระ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกเล็กน้อยได้ เพื่อบรรเทากระบวนการย่อยอาหาร ให้ลองดื่มชาดอกแดนดิไลออนหลังอาหาร
5. ชาดำ ชาเขียว หรือกาแฟ
ชาและกาแฟที่กระตุ้นก็มีผลเป็นยาระบายเช่นกัน ชาดำ ชาเขียว และกาแฟมีคาเฟอีนตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารกระตุ้นที่เร่งการขับถ่ายในหลายๆ คน โครงงานน้ําสมุนไพรเพื่อสุขภาพให้ข้อมูลว่า ผู้คนมักดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในตอนเช้าเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นและกระตุ้นการขับถ่ายคาเฟอีนอาจมีผลข้างเคียงในผู้ที่มีความรู้สึกไวต่อคาเฟอีน
บทความประกอบ : 15 เมนูกาแฟเย็น สูตรกาแฟโบราณ ชงอร่อย ทำกินเองได้ที่บ้าน
6. รากชะเอม
ชาหรือน้ำสมุนไพร ที่ทำจากรากชะเอมเทศเป็นยาชูกำลังยอดนิยมสำหรับปัญหาทางเดินอาหาร รากชะเอมมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและอาจช่วยย่อยอาหาร หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว การดื่มชารากชะเอมสักถ้วยอาจช่วยบรรเทาระบบย่อยอาหารและกระตุ้นให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้
7. รากมาร์ชเมลโล่
รากมาร์ชแมลโลว์อาจให้ผลผ่อนคลายคล้ายกับชะเอมเทศ Marshmallow (Althaea officinalis) เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ยืนต้นถึง 120-150 ซม. มันเติบโตในเขตภูมิอากาศกลางและภาคใต้ของรัสเซีย, ในยูเครน, คอเคซัส และคุณสมบัติเป็นยาระบายทำให้เป็นส่วนประกอบทั่วไปในชาสมุนไพร อาจเป็นการดีที่สุดที่จะดื่มชาสักถ้วยในช่วงท้ายของวันนะคะ
8. ดอกคาโมไมล์
ดอกคาโมไมล์เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมที่คุ้นเคยซึ่งใช้ในชาเพื่อให้เกิดผลผ่อนคลายต่อร่างกาย การดื่มชาคาโมมายล์หลังอาหารหรือช่วงสิ้นสุดวันอาจช่วยให้กล้ามเนื้อในลำไส้สงบลงและเร่งเวลาระหว่างมื้ออาหารกับการขับถ่าย
9. ผักชีฝรั่ง
ผักชีฝรั่งเป็นสมุนไพรทั่วไปที่อาจช่วยให้มีความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ชาหรือน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ที่มีใบหรือเมล็ดพืชอาจช่วยบรรเทาอาการท้องผูกเล็กน้อยได้ ในสมัยก่อนคนเคี้ยวใบหรือลำต้นเพื่อแก้ไขปัญหาเช่นกลิ่นปากและท้องอืด
บทความประกอบ : 6 ผักเพื่อสุขภาพ กินผักอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด และควรกินเท่าไหร่ถึงจะดีต่อสุขภาพ?
ความเสี่ยงของชาและน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
แม้ว่าหลายคนจะรู้สึกว่าชาสมุนไพรอ่อนโยนและผ่อนคลาย แต่ก็มีปัจจัยบางประการที่ควรพิจารณา
ชาสมุนไพรปลอดภัยสำหรับเด็กหรือไม่?
เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้นที่ควรบริโภคชาหรือสมุนไพรเป็นยาระบายเพราะอาจทำให้ผลที่แตกต่างกันในเด็ก ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการท้องผูกในเด็ก ยาระบายบางชนิดมีจำหน่ายในขนาดสำหรับคนหนุ่มสาว
มีการควบคุมชาสมุนไพรหรือไม่?
ในสหรัฐอเมริกา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของประเทศไม่ได้ควบคุมผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น ชาเป็นยาระบาย ด้วยเหตุนี้ ประสิทธิภาพของส่วนผสมอาจแตกต่างกันไปในแต่ละผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ชาบางชนิดยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบ
าชาและน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพต่างๆ สามารถช่วยทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้อย่างไร
ผลข้างเคียงของชาสมุนไพร
ส่วนผสมยาระบายบางชนิดในชา เช่น มะขามแขก อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาอื่นๆ รวมถึงอาการท้องร่วง สารออกฤทธิ์ในชายังสามารถโต้ตอบกับยาบางชนิดได้ ก่อนดื่มชาเพื่อบรรเทาอาการท้องผูก โครงงานน้ําสมุนไพรเพื่อสุขภาพให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่าส่วนผสมจะมีผลกับยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหรือไม่
ดื่มน้ำสมุนไพรในระยะยาว
ชาสมุนไพร หรือน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพสามารถช่วยรักษาอาการท้องผูกได้เป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว หากพบว่าตนเองต้องพึ่งพาชาระบาย ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของอาการท้องผูกเรื้อรัง แพทย์สามารถแนะนำการรักษาที่ได้ผลในระยะยาว
อาการท้องผูกเรื้อรังสามารถส่งสัญญาณถึงภาวะแวดล้อมได้ ดังนั้นการได้รับการวินิจฉัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ ใครก็ตามที่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือประโยชน์ของชาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่นๆ ควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพนะคะ
ที่มา: medicalnewstoday
บทความประกอบ :
ใบบัวบก สมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงามของเอเชีย ที่หลายคนไม่เคยรู้
ท้องผูก ขับถ่ายยาก ปรับสุขภาพด้วย ซินไบโอติก