บทความในวันนี้เราจะพาไปดูกันค่ะ ว่า อาหารที่มีแมกนีเซียม นั้นมีอาหารชนิดไหนบ้าง รวมถึงมาบอกเคล็ดลับว่าแต่ละช่วงวัยนั้นควรได้รับแมกนีเซียมปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม ถ้าพร้อมแล้วมาตามไปดูพร้อมกันเลย
ปริมาณของแมกนีเซียมที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย
การรับประทานแมกนีเซียมในปริมาณที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งแต่ละช่วงวัยก็จะมีความต้องการปริมาณของแมกนีเซียมแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- เด็กอายุ 1-3 ควรได้รับแมกนีเซียมในปริมาณ 80 มิลลิกรัม/วัน
- เด็กอายุ 4–8 ปี ควรได้รับแมกนีเซียมปริมาณ 130 มิลลิกรัม/วัน
- สำหรับเด็กอายุ 9–13 ปี ควรได้รับแมกนีเซียม 240 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้ชายอายุ 14-18 ปี ควรได้รับแมกนีเซียมในปริมาณ 410 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้หญิงอายุ 14-18 ปี ควรได้รับแมกนีเซียม 360 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้ชายอายุ 19-30 ปี ควรได้รับแมกนีเซียมในปริมาณ 400 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้หญิงอายุ 19/30 ปี ควรได้รับแมกนีเซียม 310 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้หญิงตั้งครรภ์อายุต่ำกว่า 19 ปี ควรได้รับแมกนีเซียมในปริมาณ 400 มิลลิกรัม/วัน
- ผู้หญิงตั้งครรภ์อายุ 19-30 ปี ควรได้รับแมกนีเซียมในปริมาณ 350 มิลลิกรัม/วัน
อาหารที่มีแมกนีเซียม มีอะไรบ้าง?
แมกนีเซียม เรียกได้ว่าเป็นแร่ธาตุอีกหนึ่งชนิดที่มีความสำคัญต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันอาการปวดหัวไมเกรน และป้องกันอาการภาวะซึมเศร้า เป็นต้น ซึ่งแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมก็สามารถหารับประทานได้ง่ายมาก ๆ จากแหล่งอาหารหลากหลายชนิด
![อาหารที่มีแมกนีเซียม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/foods-containing-magnesium.jpg?width=700&quality=10)
ผักใบเขียว
ผักใบเขียวถือเป็นผักที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น ผักเคล, ปวยเล้ง, ผักโขม, ผักคะน้า, บรอกโคลี, ตำลึง หรือผักบุ้ง หากใครที่รับประทานผักใบเขียวเป็นประจำ เรียกได้ว่าจะได้รับประโยชน์จากแมกนีเซียมเป็นอย่างมาก เช่น ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท ให้สมองผ่อนคลาย ลดความเครียด และนอนหลับสนิท อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย และผักใบเขียวยังเป็นผักที่หาซื้อได้ง่าย และสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูสุด ๆ เลยค่ะ
เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทอง นั้นถือเป็นอาหารอีกหนึ่งประเภทที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซิงก์ และกรดไขมันดี ซึ่งการรับประทานเมล็ดฟักทองในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวันนั้นจะส่งผลดีต่อสุขภาพหลากหลายมาก ๆ เช่น ดีต่อสุขภาพหัวใจ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ, ควบคุมความดันโลหิต, ลดระดับน้ำตาลในเลือก และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เป็นต้น นอกจากนี้ เมล็ดฟักทองยังสามารถนำมารับประทานเล่นเพลิน ๆ แล้ว ก็ยังนิยมนำไปประกอบใส่ในเบเกอรีต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ
![อาหารที่มีแมกนีเซียม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/foods-containing-magnesium-1.jpg?width=700&quality=10)
ดาร์กช็อกโกแลต
สำหรับใครที่เป็นสายชอบรับประทานดาร์กช็อกโกแลตรู้หรือไม่ว่าภายในดาร์กช็อกโกแลตก็อุดมไปด้วยแมกนีเซียมด้วยเช่นกัน ซึ่งดาร์กช็อกโกแลต 28 กรัม นั้นมีแมกนีเซียมประมาณ 64 มิลลิกรัม นอกจากแมกนีเซียมแล้วดาร์กช็อกโกแลตยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ, ธาตุเหล็ก, สังกะสี, แมงกานีส เป็นต้น
แต่เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ ควรรับประทานในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายอื่น ๆ ตามมา
บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 10 ดาร์กช็อกโกแลต ยี่ห้อไหนดี อร่อยเข้มข้น ทานได้ไม่อ้วน !
ผลิตภัณฑ์นม
นม ก็ถือเป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งนม 1 แก้ว จะให้แมกนีเซียมประมาณ 24–27 มิลลิกรัม ซึ่งผลิตภัณฑ์นมนอกจากแมกนีเซียมแล้วก็ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น แคลเซียม, กรดอะมิโน, ฟอสฟอรัส หรือวิตามินบี 12 ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์เด่น ๆ อย่าง การช่วยบำรุงกระดูก และฟันให้แข็งแรง, ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และการทำงานของระบบประสาท และสมองอีกด้วยค่ะ และผลิตภัณฑ์นมก็ยังหาซื้อได้ง่าย และราคาไม่แพงอีกด้วยค่ะ
![อาหารที่มีแมกนีเซียม](https://static.cdntap.com/tap-assets-prod/wp-content/uploads/sites/25/2023/04/foods-containing-magnesium1-1.jpg?width=700&quality=10)
ปลาที่มีกรดไขมันสูง
สำหรับปลาที่มีกรดไขมันสูงบางชนิด ก็มีแมกนีเซียมอยู่ในปริมาณสูงด้วยเช่นเดียวกัน เช่น ปลาทูน่า, ปลาแมกเคอเรล หรือปลาแซลมอน เป็นต้น ถ้าหากเป็นปลาแซลมอน 100 กรัม ก็จะมีแมกนีเซียมอยู่ประมาณ 95 มิลลิกรัม หรือถ้าเป็นปลาทูน่า 100 กรัม ก็จะมีแมกนีเซียมประมาณ 64 มิลลิกรัม ซึ่งปลาเหล่านี้นอกจากจะมีแมกนีเซียมสูงแล้ว ยังอุดมไปด้วยโอเมก้า 3, วิตามินบี, โพแทสเซียม และสารอาหารอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ ค่ะ
ถั่วและเมล็ดพืช
ถั่วและเมล็ดธัญพืชถือเป็นอาหารที่สามารถนำมารับประทานเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน แถมยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมสูงอีกด้วย ซึ่งถั่วและเมล็ดพืชที่มีแมกนีเซียมก็จะได้แก่ ถั่วดำ, ถั่วเหลือง, ถั่วลันเตา, ถั่วลูกไก่, ถั่วลิสง, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, อัลมอนด์ หรือเมล็ดเจีย เป็นต้น
ซึ่งถั่วและเมล็ดพืชเหล่านี้นอกจากจะอุดมไปด้วยแมกนีเซียมแล้วนั้น ก็ยังอุดมไปด้วยใยอาหาร โปรตีน และแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เช่น ช่วยต้านการอักเสบ ดีต่อสุขภาพของหัว และยังช่วยลดความอยากอาหารอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย คนท้องกินถั่วลิสงได้ไหม เป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือเปล่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝากกันวันนี้ อาหารที่มีแมกนีเซียม แต่ละอย่างที่เราแนะนำข้างต้น ถือเป็นอาหารที่สามารถหาซื้อมารับประทาน หรือนำมาประกอบอาหารได้ง่ายมาก ๆ นะคะ ซึ่งถ้าหากร่างกายนั้นได้รับปริมาณของแมกนีเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ก็จะช่วยให้การทำงานของ ระบบประสาท กล้ามเนื้อ หัวใจ กระดูก ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย ดังนั้น อย่าลืมเลือกรับประทานอาหารจำพวกที่มีแมกนีเซียมกันด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกาย เพราะร่างกายนั้นไม่สามารถผลิตแมกนีเซียมขึ้นมาเองได้ จึงจะต้องรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม เพื่อเสริมเข้าไปในร่างกาย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ไลโคปีน ปกป้องผิวจากแสงแดดได้จริงไหม? ผักผลไม้อะไรบ้างที่มีไลโคปีนสูง
แนะนำ วิธี ล้างผัก และผลไม้ อย่างไร ให้สะอาด ปลอดภัย ปราศจากสารพิษตกค้าง
คนท้องกินแต่ผักผลไม้ดีจริงหรือ ? ประโยชน์มีแน่นอน แต่โทษก็ไม่น้อย
ที่มา : pobpad.com, hellokhunmor.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!