ตามหลักการทั่วไปแล้ว การ ล้างผัก และผลไม้ก่อนที่จะนำมารับประทานนั้นถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด และถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากคุณรับประทานแบบดิบ ๆ หรือแบบที่ไม่ต้องการปอกเปลือกออก การที่นำผักหรือผลไม้มาล้างก็จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และสารเคมีที่อาจอยู่บนพื้นผิวผักและผลไม้ออกไปได้ ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาบอกเคล็ดลับการล้างผักและผลไม้ในแบบฉบับง่าย ๆ ให้ปลอดภัยจากการตกค้างของสารเคมี มาตามไปดูพร้อมกันเลย
เผยเทคนิค! วิธี ล้างผัก และผลไม้ให้สะอาด ปราศจากสารพิษปนเปื้อน
ปัจจุบันได้มีหลายวิธีที่คุณสามารถล้างผักและผลไม้ให้สะอาดได้แบบง่าย ๆ แต่วันนี้เราจะมาบอกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมที่สุด ก็คือ การล้างด้วยเบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดาเป็นสารทำความสะอาดตามธรรมชาติ ที่สามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรก และแบคทีเรียออกจากพื้นผิวของผักและผลไม้ได้ ซึ่งวิธีการล้างก็แสนจะง่าย เพียงแค่เติมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ ลงในภาชนะที่ใส่น้ำไว้แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่ผลไม้ หรือผักของคุณ ลงไปในภาชนะ จากนั้นก็ทำการแช่ทิ้งไว้สักครู่ หลังจากนั้น ก็นำผักและผลไม้ของคุณออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
แล้วก็ยังมีอีกทางเลือกหนึ่งในการล้างผักและผลไม้ ก็คือ การใช้น้ำส้มสายชู เพียงแค่ผสมน้ำและน้ำส้มสายชูในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ก็จะสามารถล้างผักและผลไม้ของคุณให้สะอาดได้ แต่ก็มีข้อควรระวัง ก็คือ ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติก เพราะกรดของน้ำส้มสายชูจะทำปฏิกิริยาพลาสติก และอาจทำให้ผักบางชนิดมีกลิ่นของน้ำส้มสายชูติดไปด้วยค่ะ หรือไม่ก็อาจจะทำให้ผักบางชนิดเปลี่ยนสี และอาจจะทำให้ผักมีรสชาติที่เปลี่ยนไป เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ผักและผลไม้สะอาดที่ปราศจากสารพิษปนเปื้อนมาไว้รับประทานแล้วค่ะ
ประโยชน์ของการล้างผัก
- การล้างผักสามารถกำจัดแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ ได้
- การล้างผักของคุณยังช่วยกำจัดยาฆ่าแมลงและสารเคมีอื่น ๆ ที่อาจมีอยู่บนพื้นผิวของผักและผลไม้
- การล้างผักยังช่วยให้รสชาติ เนื้อสัมผัส และรูปลักษณ์ของผักดีขึ้นอีกด้วย
- การล้างผักของคุณสามารถช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้
- สุดท้าย การล้างผักจะทำให้แน่ใจได้ว่า คุณและครอบครัวได้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสะอาด
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีเก็บผักสลัด ยังไง? ให้อยู่ได้นาน และสดใหม่อยู่เสมอ
ล้างผัก อย่างไรให้ถูกวิธี
- คุณควรล้างผักและผลไม้ก่อนรับประทานเสมอ การล้างผักและผลไม้ให้สะอาด สามารถขจัดสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และยาฆ่าแมลงได้
- ปัจจุบันมีหลากหลายวิธีมาก ๆ ในการล้างผักและผลไม้ของคุณ ซึ่งหนึ่งในวิธีนั้นก็คือการล้างโดยใช้น้ำสะอาด และคุณยังสามารถแช่ผักและผลไม้ในภาชนะใส่น้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดาเล็กน้อย จากนั้นก็ทำการแช่ทิ้งไว้สักครู่ก่อน แล้วค่อยล้างออก
- ถ้าต้องล้างผักและผลไม้ให้สะอาด คุณไม่จำเป็นต้องล้างด้วยสบู่ เพราะการกินสบู่ไม่ใช่เรื่องดี
- หากคุณไม่ต้องการรับประทานผักและผลไม้ทันที ให้เก็บไว้ในตู้เย็น แล้วก็นำมาล้างก่อนรับประทาน แม้ว่าจะเป็นการล้างอย่างรวดเร็วก็ตาม
ดังนั้น ถ้าหากถามว่าจำเป็นต้องล้างผักและผลไม้หรือไม่? ขอตอบว่า เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเลยค่ะ ที่จะนำผักและผลไม้มาล้างก่อนรับประทาน แต่จะต้องล้างอย่างถูกวิธีด้วยนะคะ เพราะการล้างอย่างถูกวิธี จะสามารถขจัดสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และยาฆ่าแมลงได้
ประเภทของน้ำที่จะใช้ล้างผักและผลไม้
มีหลายความคิดว่า โดยปกติแล้วเราควรล้างผักและผลไม้หรือไม่ บางคนก็เชื่อว่าการล้างผักและผลไม้จะกำจัดสารอาหารที่สำคัญออกไป ในขณะที่บางคนก็เชื่อว่าเราควรล้างเพราะจะได้กำจัดแบคทีเรียออกไป
หากคุณต้องการที่จะล้างผักและผลไม้ประเภทของน้ำที่คุณใช้ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณไม่ควรใช้น้ำที่ร้อนหรือเย็นเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อคุณภาพของผักได้ อุณหภูมิที่ดีที่สุดคือน้ำอุ่น ที่ควรใช้ล้างผักและผลไม้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินแต่ผักผลไม้ดีจริงหรือ ? ประโยชน์มีแน่นอน แต่โทษก็ไม่น้อย
การล้างผักกำจัดแบคทีเรียได้จริงหรือ ?
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าการล้างผักและผลไม้ จะกำจัดแบคทีเรียทั้งหมด และทำให้กินได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่ความเชื่อที่ถูกทั้งหมดเสมอไป เพราะการล้างผักและผลไม้ด้วยน้ำเปล่า ก็ไม่ใช่วิธีที่เพียงพอที่จะกำจัดแบคทีเรียทั้งหมดออกไปได้ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฟลอริดา การล้างผักผลไม้ด้วยน้ำเปล่า ก็สามารถเพิ่มปริมาณแบคทีเรียบนพื้นผิวของผักและผลไม้ได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากต้องการใช้น้ำสะอาดในการล้างผัก โดยวิธีให้น้ำไหลผ่านอย่างต่อเนื่อง และใช้มือถูทำความสะอาดผักเบา ๆ วิธีนี้ก็จะช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างได้ 54 – 63% ค่ะ
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการล้างผักและผลไม้ที่สามารถกำจัดแบคทีเรียได้ ก็คือ การล้างผักและผลไม้ด้วยเบกกิ้งโซดา เพราะเบกกิ้งโซดาเป็นสารฆ่าเชื้อตามธรรมชาติที่จะฆ่าแบคทีเรียโดยไม่ทำอันตรายต่อผัก และผลไม้ของคุณ หากต้องการล้างผักและผลไม้ของคุณด้วยเบกกิ้งโซดา เพียงเติมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ลงในภาชนะในน้ำอุณหภูมิปกติ จากนั้นใส่ผักหรือผลไม้ลงไปแช่ไว้ 5 นาที หลังจากผ่านไป 5 นาที ให้นำผักและผลไม้ของคุณออกจากน้ำ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
จำเป็นต้องล้างผักและผลไม้หรือไม่ ?
คำตอบก็คือ ใช่ คุณควรล้างผัก และผลไม้ทุกครั้งก่อนรับประทาน เพราะการล้างจะช่วยขจัดสิ่งสกปรก แบคทีเรีย หรือสารเคมีที่อาจอยู่บนพื้นผิวของผักและผลไม้ออกไปได้ มีหลายวิธีในการล้างผักและผลไม้ของคุณ หนึ่งในนั้นก็คือล้างด้วยน้ำสะอาด ก็เพียงพอสำหรับผักและผลไม้ส่วนใหญ่โดยปกติทั่วไป แต่ถ้าหากต้องการระมัดระวังเป็นพิเศษอยากล้างให้สะอาดกว่าเดิม ให้ล้างด้วยน้ำส้มสายชูที่เจือจาง หรือเบกกิ้งโซดาจะดีที่สุดค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับข้อมูลในการล้างผักและผลไม้ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ การล้างผักถือเป็นวิธีที่ดี ในการที่จะกำจัดแบคทีเรีย และสารปนเปื้อนอื่น ๆ ที่อยู่ในผักและผลไม้ ดังนั้น วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด ก็คือคุณสามารถนำผักและผลไม้มาล้างด้วยเบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชู หรือจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไว้ใช้สำหรับล้างผักที่มีขายทั่วไปก็ได้ หากคุณไม่แน่ใจว่าต้องล้างอย่างไร ให้ตรวจสอบฉลากบนบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเจ้าของร้านขายของได้เลย เพื่อที่จะได้นำมาใช้งานได้อย่างถูกวิธี
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 ผลไม้แก้ร้อนใน ช่วยคลายร้อน มีฤทธิ์เย็น หาทานง่าย อร่อยดีต่อสุขภาพ
9 ผัก ผลไม้สีขาว ประโยชน์ดี ๆ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ได้อย่างไรบ้าง ?
9 ผัก ผลไม้สีเหลือง บอกลาปัญหาท้องผูก รวมคุณค่าดี ๆ สำหรับคนอยากหน้าเด็ก
ที่มา : mahidol, cleanipedia
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!