TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม พร้อมวิธีเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์

บทความ 8 นาที
ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม พร้อมวิธีเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์

แม่อยากรู้ไหม? ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม เช็กเลย! น้ำหนักทารกในครรภ์แต่ละสัปดาห์ ลูกน้อยควรหนักกี่กรัม ตัวช่วยติดตามการเจริญเติบโตของลูกในท้อง

ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม ตลอด 9 เดือนในท้องแม่ อัตราการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักทารกในครรภ์นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์ค่ะ โดยทั่วไป น้ำหนักของทารกจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไตรมาสที่สองและสาม โดยจะเพิ่มสูงสุดในสัปดาห์ที่ 35 จากนั้นน้ำหนักทารกจะเพิ่มขึ้นช้าลงเมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด

 

ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม

อายุครรภ์ นำ้หนักขึ้น (ก.) ต่อสัปดาห์
8 สัปดาห์ 7 กรัมต่อสัปดาห์
12 สัปดาห์ 15 กรัมต่อสัปดาห์
16 สัปดาห์ 29 กรัมต่อสัปดาห์
20 สัปดาห์ 59 กรัมต่อสัปดาห์
30 สัปดาห์ 175 กรัมต่อสัปดาห์
35 สัปดาห์ 215 กรัมต่อสัปดาห์
36 สัปดาห์ 188 กรัมต่อสัปดาห์
40 สัปดาห์ 168 กรัมต่อสัปดาห์

ขนาดทารกในครรภ์แต่ละสัปดาห์

คุณแม่ต้องการที่จะมั่นใจว่าลูกกำลังเจริญเติบโตตามปกติ จึงต้องติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่ทราบประมาณการน้ำหนักและขนาดของทารกในแต่ละช่วงอายุครรภ์ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการคลอด และหากขนาดทารกไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน อาจเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติที่คุณหมอต้องทำการตรวจสอบเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลต่อขนาดทารกในครรภ์ ได้แก่ พันธุกรรม สุขภาพคุณแม่ โภชนาการแม่ท้อง และและจำนวนทารกในครรภ์ ซึ่งคุณหมอจะตรวจสอบขนาดของทารกได้จากการอัลตร้าซาวด์ และการตรวจภายในค่ะ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อขนาดทารก

  • พันธุกรรม ขนาดตัวของพ่อแม่มีผลต่อขนาดของทารก หากพ่อแม่ตัวเล็กก็มีแนวโน้มที่ลูกจะตัวเล็กเช่นเดียวกัน
  • โภชนาการ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนจะช่วยให้ทารกเจริญเติบโตได้ดี
  • สุขภาพของแม่ โรคประจำตัวบางชนิด เช่น เบาหวาน อาจทำให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้าและตัวเล็กได้
  • จำนวนทารก หากตั้งครรภ์แฝด ทารกแต่ละคนอาจมีขนาดเล็กกว่าทารกครรภ์เดี่ยว

วิธีตรวจสอบขนาดทารก

  • การอัลตร้าซาวด์ เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการตรวจสอบขนาดและพัฒนาการของทารก
  • การตรวจภายใน แพทย์จะตรวจขนาดของมดลูกเพื่อประมาณขนาดของทารก

ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม

น้ำหนักทารกในครรภ์ แต่ละสัปดาห์

คุณแม่อยากรู้แล้วใช่ไหมว่า ลูกน้อยในท้องคุณแม่แต่ละสัปดาห์ควรมีน้ำหนักเท่าไหร่ เพื่อดูว่า ขนาดตัวลูกในครรภ์เป็นไปตามพัฒนาการหรือไม่ ลูกในครรภ์ตัวเล็กไปไหม ทารกโตช้า หรือตัวเล็กกว่าอายุครรภ์หรือเปล่า สามารถเทียบได้จากตารางด้านล่างนี้

อายุครรภ์ ความยาว (ซม.)
(ศีรษะถึงก้นกบ)
นำ้หนัก (ก.)
8 สัปดาห์ 1.57 ซม. 20 กรัม
9 สัปดาห์ 2.30 ซม. 27 กรัม
10 สัปดาห์ 3.1 ซม. 35 กรัม
11 สัปดาห์ 4.1 ซม. 45 กรัม
12 สัปดาห์ 5.4 ซม. 58 กรัม
13 สัปดาห์ 6.7 ซม. 73 กรัม
(ศีรษะถึงปลายเท้า)
14 สัปดาห์ 14.7ซม. 93 กรัม
15 สัปดาห์ 16.7 ซม. 117 กรัม
16 สัปดาห์ 18.6 ซม. 146 กรัม
17 สัปดาห์ 20.4 ซม. 181 กรัม
18 สัปดาห์ 22.2 ซม. 223 กรัม
19 สัปดาห์ 24.0 ซม. 273 กรัม
20 สัปดาห์ 25.7 ซม. 331 กรัม
21 สัปดาห์ 27.4 ซม. 399 กรัม
22 สัปดาห์ 29.0 ซม. 478 กรัม
23 สัปดาห์ 30.6ซม. 568 กรัม
24 สัปดาห์ 32.2 ซม. 670 กรัม
25 สัปดาห์ 33.7 ซม. 785 กรัม
26 สัปดาห์ 35.1 ซม. 913 กรัม
27 สัปดาห์ 36.6 ซม. 1055 กรัม
28 สัปดาห์ 37.6 ซม. 1210 กรัม
29 สัปดาห์ 39.3 ซม. 1379 กรัม
30 สัปดาห์ 40.5 ซม. 1559 กรัม
31 สัปดาห์ 41.8 ซม. 1751 กรัม
32 สัปดาห์ 43.0 ซม. 1953 กรัม
33 สัปดาห์ 44.1 ซม. 2162 กรัม
34 สัปดาห์ 45.3 ซม. 2377 กรัม
35 สัปดาห์ 46.3 ซม. 2595 กรัม
36 สัปดาห์ 47.3 ซม. 2813 กรัม
37 สัปดาห์ 48.3 ซม. 3028 กรัม
38 สัปดาห์ 49.3 ซม. 3236 กรัม
39 สัปดาห์ 50.1 ซม. 3435 กรัม
40 สัปดาห์ 51.0 ซม. 3619 กรัม
41 สัปดาห์ 51.8 ซม. 3787 กรัม

 

น้ำหนักทารกมากหรือน้อยเกินไปส่งผลต่อการคลอดอย่างไร

น้ำหนักของทารกในครรภ์เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการคลอดค่ะ น้ำหนักที่มากหรือน้อยเกินไปอาจเกิดความเสี่ยงต่อคุณแม่และลูกน้อยได้ ดังนี้

น้ำหนักทารกมากเกินไป (Macrosomia)

  • ความเสี่ยงต่อคุณแม่
    • คลอดยาก: ทารกตัวใหญ่ อาจทำให้คลอดยากขึ้น 
    • อุ้งเชิงกรานฉีกขาด: อุ้งเชิงกรานของแม่อาจเกิดการฉีกขาดได้มากขึ้น
    • ผ่าคลอด: ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องผ่าคลอดเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก
    • ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานขณะตั้งครรภ์
  • ความเสี่ยงต่อลูกน้อย
    • บาดเจ็บ: ทารกอาจได้รับบาดเจ็บขณะคลอด เช่น กระดูกไหปลาร้าหัก
    • ขาดออกซิเจน: การคลอดยาก อาจทำให้ทารกขาดออกซิเจนได้
    • น้ำตาลในเลือดต่ำ: หลังคลอด ทารกอาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
    • โรคอ้วน: ทารกที่มีน้ำหนักมากตั้งแต่เกิด มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนในอนาคตได้มากกว่า

น้ำหนักทารกน้อยเกินไป (Small for Gestational Age หรือ SGA)

  • ความเสี่ยงต่อลูกน้อย
    • คลอดก่อนกำหนด: ทารกที่มีน้ำหนักน้อยมักจะคลอดก่อนกำหนด
    • ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ: เช่น ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ปอด และสมอง
    • ติดเชื้อ: ทารกมีภูมิคุ้มกันต่ำ อาจติดเชื้อได้ง่าย
    • เจริญเติบโตช้า: หลังคลอด ทารกอาจเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ

ปัจจัยที่ส่งผลให้น้ำหนักทารกผิดปกติ

  • พันธุกรรม: ขนาดตัวของพ่อแม่มีผลต่อขนาดของทารก
  • โภชนาการ: การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อาจทำให้น้ำหนักตัวน้อยกว่าปกติ
  • สุขภาพของแม่: โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
  • การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกมีน้ำหนักน้อย
  • ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์: เช่น รกเกาะต่ำ รกหลุด

ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม

วิธีเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์

การเพิ่มน้ำหนักของลูกน้อยในครรภ์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่การทานอาหารบางชนิดเท่านั้น การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม และการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

อาหารที่ควรเน้นในแต่ละไตรมาส

แม้ว่าคุณแม่ต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนในทุกไตรมาสของการตั้งครรภ์ แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่ควรเน้นเป็นพิเศษในแต่ละช่วงค่ะ

  • ไตรมาสแรก (1-12 สัปดาห์)
    เป็นช่วงของการสร้างอวัยวะต่างๆ ของทารกในระยะเริ่มแรก สารอาหารที่ควรเน้นในช่วงนี้ได้แก่ กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 อาหารที่แนะนำได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม (ผักโขม คะน้า) ถั่วต่างๆ เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม
  • ไตรมาสที่สอง (13-27 สัปดาห์)
    ช่วงนี้ทารกเริ่มสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ คุณแม่ควรเน้นแคลเซียม โปรตีน ไอโอดีน ซึ่งมีอยู่ในนมและผลิตภัณฑ์จากนม ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว, เนื้อสัตว์ ปลา อาหารทะเล
  • ไตรมาสที่สาม (28-40 สัปดาห์)
    ช่วงนี้ทารกเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้องการสารอาหารจำนวนมากเพื่อพัฒนาสมองและร่างกาย ควรเน้นทุกกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะโปรตีนและไขมันดี แนะนำให้คุณแม่รับประทานเนื้อสัตว์ ปลา ถั่ว อโวคาโด น้ำมันมะกอก

การฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ ไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณแม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ เพื่อติดตามการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ หากพบความผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ จะสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที รวมถึงได้รับคำแนะนำวิธีเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์ที่เหมาะสมกับคุณแม่แต่ละท่านด้วยค่ะ

 

เด็กแรกเกิดควรมีน้ําหนักเท่าไหร่

น้ำหนักเฉลี่ยของทารกแรกเกิดโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 2.5 – 3.5 กิโลกรัม หากทารกมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่า 2.5 กิโลกรัม จะถือว่ามีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

ทารกน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์

ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย ภาวะนี้มักเกี่ยวข้องกับการคลอดก่อนกำหนด หรือการที่ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (IUGR) ซึ่งมีความเสี่ยงหลักๆ ดังนี้

  • ผลกระทบระยะสั้น ที่อาจเกิดทันทีหลังคลอด ได้แก่ ภาวะตัวเย็น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ปัญหาการหายใจ การติดเชื้อ และภาวะตัวเหลือง 
  • ผลกระทบระยะยาว อาจมีความเสี่ยงต่อพัฒนาการทางสมองและร่างกายที่ช้ากว่าเด็กทั่วไป รวมถึงอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เช่น โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, และโรคหัวใจ

 

ทารกน้ำหนักเกินเกณฑ์ 

ภาวะนี้มักเกี่ยวข้องกับสุขภาพของแม่ โดยเฉพาะภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือแม่ที่มีภาวะอ้วน

  • ผลกระทบต่อทารก อาจเกิดการบาดเจ็บระหว่างคลอด ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ปัญหาการหายใจ ภาวะตัวเหลือง มีความเสี่ยงสูงที่จะเติบโตเป็นเด็กอ้วน และเสี่ยงต่อโรคเรื่องรัง เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 และกลุ่มโรคเมตาบอลิกในอนาคต
  • ผลกระทบต่อคุณแม่ อาจเสี่ยงต่อการฉีกขาดของช่องทางคลอดที่รุนแรง เสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอดมากกว่าปกติ

 

สรุป ไม่ว่าจะน้ำหนักน้อยหรือมากเกินไป ทารกแรกเกิดจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากกุมารแพทย์ เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น การฝากครรภ์และดูแลสุขภาพของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ทารกมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมค่ะ

ที่มา : babycenter, perinatology , โรงพยาบาลพญาไท

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ท้องแข็งเป็นก้อน แบบนี้อันตรายไหม ลดอาการท้องแข็งได้อย่างไร

ลูกในครรภ์โตช้าน้ำหนักน้อยเพราะอะไร?

ลูกไม่ดิ้นกี่ชั่วโมงต้องไปหาหมอ ลูกดิ้นกี่ครั้งต่อวัน ลูกไม่ดิ้น อันตรายแค่ไหน

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • ทารกในครรภ์ น้ำหนักขึ้นสัปดาห์ละกี่กรัม พร้อมวิธีเพิ่มน้ำหนักลูกในครรภ์
แชร์ :
  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่
    บทความจากพันธมิตร

    เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่

  • ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More  คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025

  • Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์
    บทความจากพันธมิตร

    Cryoviva Thailand คว้ารางวัล! "Most Innovative Stem Cell Banking" จาก theAsianparent Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการจัดเก็บสเต็มเซลล์

  • เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่
    บทความจากพันธมิตร

    เปิดวาร์ป! Mil Plus+ 2 สูตร คู่หูตัวช่วยบำรุงน้ำนมแม่

  • ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More  คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ที่สุดแห่งผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม Milk Plus & More คว้ารางวัล Parents' Choice ตอกย้ำความเป็นผู้นำใน theAsianparent Awards 2025

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว