เมนูทั่วไปอย่างมะม่วงน้ำปลาหวานที่ทานกันบ่อย ๆ คนท้องกินมะม่วงน้ำปลาหวานได้ไหม เป็นเมนูผลไม้แท้ ๆ แต่ทำไมเราถึงอยากเตือนคุณแม่ให้ระวัง การทานมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี ทานในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม ทำให้แม่ท้องปลอดภัย หาคำตอบจากบทความนี้กัน
คนท้องกินมะม่วงน้ำปลาหวานได้ไหม
ปัจจุบันนี้การหามะม่วงน้ำปลาหวานทำได้ง่ายมากขึ้น นอกจากจะเจอตามตลาดแล้ว แค่เข้าร้านสะดวกซื้อก็สามารถพบเจอได้แล้ว สำหรับคุณแม่ที่ชอบกินเมนูแซ่บ ๆ นี้จะกินได้ไหมหากตอนนี้ท้องอยู่ คำตอบคือสามารถทานได้ แต่ต้องกินน้อยมาก ๆ เน้นมะม่วงให้มาก และลดการกินน้ำปลาหวานให้เยอะกว่าเดิม หากคุณแม่จิ้มน้ำปลาหวานเพียงน้อยนิด กินมะม่วงหมดแล้ว แต่น้ำปลาหวานหมดไปไม่เท่าไหร่ แบบนี้ถือว่าปลอดภัย เพราะปริมาณที่เราแนะนำ คือ ควรกินน้ำปลาหวานไม่เกิน 1 ใน 3 ถ้วย เนื่องจากโซเดียมที่มากสุด ๆ ของน้ำปลาหวาน จะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณแม่ได้ หากไม่ระวังการกินให้ดี
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินผักบุ้งได้ไหม กินแบบไหนให้ดี มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง ?
ปริมาณพลังงานของมะม่วงน้ำปลาหวานเทียบเท่าอาหารหลัก
หากจะให้เตือนเรื่องพลังงานในการทานอาหารต่อวัน คนท้องอาจคิดไปเองว่าการกินเมนูผลไม้อย่างมะม่วงน้ำปลาหวาน จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานไม่มาก ไม่อ้วน ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย หากกินเพียงมะม่วงจะให้พลังงานประมาณ 100 กิโลแคลอรี แต่หากทานน้ำปลาหวาน 1 ถ้วยที่มีพลังงานประมาณ 300 กิโลแคลอรี ดังนั้นหากทานรวมกัน แล้วทานหมดคนเดียวคุณแม่จะได้รับพลังงานไปประมาณ 400 กิโลแคลอรีในมื้อนี้มื้อเดียว
ปริมาณพลังงานขนาดนี้เทียบเท่ากับการทานอาหารมื้อหลักได้เลย บางเมนูอาจให้พลังงานน้อยกว่ามะม่วงน้ำปลาหวานด้วยซ้ำ หากต้องการทานจึงควรพิจารณาทานเป็นมื้อหลักแทนข้าว เพราะยังมีสารอาหารที่นับว่าหลากหลายพอสมควร เช่น โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, โพแทสเซียม, วิตามิน C และวิตามิน K เป็นต้น
มะม่วงน้ำปลาหวานที่ทำให้คนท้องเสี่ยงโรคไต
อ้างอิงจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดปริมาณของโซเดียมที่ร่างกายควรได้รับต่อวันเอาไว้ที่ 2,000 มิลลิกรัม (ปริมาณเท่ากับการกินน้ำปลาก 4 – 5 ช้อนชา) สามารถรับได้น้อยกว่านี้ได้ แต่ไม่ควรเกินที่กำหนด เพราะจะส่งผลต่อร่างกายของแม่ท้อง รวมไปถึงบุคคลทั่ว ๆ ไปได้ ซึ่งในเมนูมะม่วงน้ำปลาหวาน ในตัวของน้ำปลาหวานที่คุณแม่จิ้มทานกันเพียง 1ถ้วย รู้หรือไม่ว่ามีปริมาณโซเดียมมากถึง 5,900 มิลลิกรัม (สูตรที่มีกุ้งแห้ง) ซึ่งเกินกว่าที่ WHO กำหนดไว้มากเกินไป หรือจะเทียบง่าย ๆ คือ กิน 1 ถ้วนเท่ากับกินโซเดียมไปประมาณเกือบ 3 วันเลยนั่นเอง
แม้ว่าการทานมะม่วงน้ำปลาหวานจะทานเพียงน้อยนิดไม่ถึง 1 ถ้วย แต่ถ้าอิงจากปริมาณของโซเดียม ทานไปเพียงครึ่งถ้วยก็เกือบ 3,000 มิลลิกรัมแล้ว ก็เกินต่อปริมาณที่กำหนดใน 1 วันอยู่ดี ดังนั้นหากจะให้ปลอดภัยคุณแม่ควรแบ่งทานมากกว่า และควรทานเพียง 1 ใน 3 ถ้วยเท่านั้นจะทำให้แม่ท้องได้รับโซเดียมประมาณ 1900 ซึ่งไม่เกินกว่าที่ WHO กำหนด แต่ก็เฉียดมากเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินเครื่องในได้ไหม สารอาหารเยอะ แต่มีโรคประจำตัวต้องระวัง
ทำไมแม่ท้องต้องระวังโซเดียม ?
ปริมาณโซเดียมที่มากเกินไปไม่ใช่ผลดี การกินอาหารโดยทั่วไปของคนไทยมีปริมาณโซเดียมอยู่ในแทบทุกเมนู โดยเฉพาะอาหารตามสั่ง และขนมกรุบกรอบตามร้านสะดวกซื้อ ยังไม่รวมน้ำปลาหวาน ทุกวันนี้คนท้องก็รับโซเดียมในทุกวันอยู่แล้ว และน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วย หากรับเกินไปจะส่งผล ดังนี้
- เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้น ประกอบกับอาหารที่มีโซเดียมสูงมักมีความหวานควบคู่กันมา ทำให้เสี่ยงต่อไขมันอุดตันในเส้นเลือดด้วย
- ไตที่ทำหน้าที่ในการขับโซเดียม จะต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งมีโซเดียมมาก จะยิ่งส่งผลต่อเลือดในร่างกาย ส่งผลต่อหัวใจที่สูบฉีดเลือดได้ไม่ดี เมื่อประกอบกับไตที่ต้องการเลือด เพราะทำงานหนัก แต่หัวใจส่งเลือดได้น้อย จะทำให้เกิดไตวายได้ในที่สุด
- จากการทำงานของหัวใจที่หนักขึ้น เลือดมีไขมัน เลือดมีความข้น ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ด้วย
- โซเดียมปริมาณมากสามารถทำให้คนท้องมีอาการบวมน้ำได้ สังเกตจากอาการบวมบริเวณใบหน้า, ขา, เท้า และมือ เป็นต้น เพราะโซเดียมดึงน้ำออกมาจากเซลล์ในร่างกาย
- โซเดียมที่ดึงน้ำออกจากเซลล์ ยังส่งผลให้ผิวพรรณของคุณแม่ดูไร้ความสดชื่น มีความแห้งกร้าน เสียความชุ่มชื้น ทำให้เหี่ยวย่นได้ง่าย
แม้ว่าโซเดียมจะดูเป็นอันตราย แต่แม่ท้องต้องเข้าใจว่าอันตรายที่เกิดขึ้นมาจากการรับในปริมาณที่มากเกินไป หากไม่รับโซเดียมเลย ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่อร่างกายเหมือนกัน การรับในปริมาณที่เพียงพอใน 1 วัน คือคำตอบที่ดีที่สุดของร่างกายคุณแม่ และทารกน้อยในครรภ์
วิดีโอจาก : กินได้อร่อยด้วย
คนท้องกินมะม่วงน้ำปลาหวานอย่างไรให้ปลอดภัย ?
หากเทียบขากปริมาณของพลังงาน และโซเดียมที่กำหนดไว้ คงเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดในการกินมะม่วงน้ำปลาหวานของคนท้อง เนื่องจากจำเป็นต้องถูกจำกัดปริมาณอย่างเลี่ยงไม่ได้ กรณีทานน้ำปลาหวานสูตรทั่วไปที่มีกุ้งแห้ง จะทานได้เพียง 1 ใน 3 ของถ้วยเท่านั้น หากทานมากกว่านั้นจะทำให้เสี่ยงรับโซเดียมมากเกินไปทันที ส่วนมะม่วงถือว่ามีปริมาณพลังงาน และโซเดียมไม่ได้มาก สามารถทานได้ปกติ นอกจากนี้หากวันไหนที่แม่ท้องต้องการกินเมนูมะม่วงน้ำปลาหวาน เราแนะนำว่าให้ทานแทนมื้อหลักไปเลย และเน้นข้าว หรืออาหารที่มีสารอาหารหลากหลายขึ้นในมื้ออื่น ๆ
ด้วยข้อจำกัดที่มากเกินไปในการทาน การกินมะม่วง 1 ชิ้น สามารถจิ้มน้ำปลาหวานได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น หากไม่ต้องการกังวลเรื่องนี้ แม่ท้องอาจเลี่ยงการกินเมนูนี้ไปก่อนก็ได้ หรือนาน ๆ ทานสัก 1 ครั้ง เฉพาะตอนที่ต้องการกินมาก ๆ ก็ได้ เป็นต้น
การกินมะม่วงน้ำปลาหวานไม่ใช่แค่ต้องระวังกับคุณแม่ตั้งครรภ์เท่านั้น แต่สำหรับบุคคลทั่วไปเองก็ต้องระวังด้วย หากชอบทานแบบจิ้มเยอะ ๆ ขอเน้น ๆ ตอนนี้คงต้องลดปริมาณน้ำปลาหวานต่อชิ้นให้น้อยลงกว่าเดิมแล้วนะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินส้มแผ่นได้ไหม มะม่วงแผ่น กินแบบไหนให้สุขภาพดี
คนท้องกินปูอัดได้ไหม ปูอัดที่ไม่ใช่เนื้อปู กินแบบไหนให้ปลอดภัยที่สุด
คนท้องกินวุ้นเส้นได้ไหม เมื่อ 16 ยี่ห้อปนเปื้อนสารฟอกขาว เอาไงดี ?
ที่มา : babyfacts, calforlife
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!