การผ่าคลอด (Cesarean Section หรือ C-section) เป็นทางเลือกที่คุณแม่หลายท่านเลือก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านฤกษ์คลอด ความสะดวก หรือข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องผ่าตัด สิ่งที่ตามมาและสร้างความกังวลใจคือ “ผ่าคลอดนอนโรงพยาบาลกี่วัน และต้องพักฟื้นนานแค่ไหน” บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ เพื่อให้คุณแม่เตรียมความพร้อมและเข้าใจกระบวนการทั้งหมดอย่างมั่นใจ
การผ่าคลอด คืออะไร คุณแม่ควรรู้อะไรบ้าง
การผ่าคลอด (C-section) คือการผ่าตัดเพื่อนำทารกออกมาจากครรภ์ โดยการผ่าผ่านผนังหน้าท้องและผนังมดลูกของคุณแม่ โดยทั่วไปแผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณด้านล่างของหน้าท้องในแนวนอน
แพทย์จะพิจารณาข้อบ่งชี้ในการผ่าคลอด จากปัจจัยต่อไปนี้
- ทารก: ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ (เช่น ท่าก้น หรือท่านอนขวาง), ทารกตัวใหญ่มาก (Macrosomia), ภาวะเครียดของทารกในครรภ์ (Fetal Distress)
- แม่: เคยผ่าตัดคลอดมาแล้ว, มีปัญหาสุขภาพ (เช่น โรคหัวใจบางชนิด), มีภาวะรกเกาะต่ำ, มีภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง, มีการติดเชื้อบางชนิดที่สามารถแพร่สู่ทารกขณะคลอดทางช่องคลอดได้ (เช่น เริมที่อวัยวะเพศ)
- การผ่าคลอดตามความต้องการ: เป็นทางเลือกสำหรับคุณแม่ที่ไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ แต่ควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์เกี่ยวกับเหตุผล ความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจเสมอ

แล้วคุณแม่ ผ่าคลอดนอนโรงพยาบาลกี่วัน ?
การผ่าคลอดต้องใช้ระยะเวลานอนโรงพยาบาลกี่วันนั้น โดยทั่วไปแล้ว หลังผ่าคลอด คุณแม่ส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาในการนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 3-4 วัน เพื่อสังเกตอาการ ควบคุมอาการปวดหลังจากการผ่าตัด แต่ถ้าหากสภาพร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อาจจะให้พักนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหมอด้วยนะคะ
- วันที่ 1 (วันผ่าตัด): พักฟื้นในห้องผ่าตัดเพื่อสังเกตอาการ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นย้ายมาห้องพัก และมีการดูแลเรื่องการควบคุมความเจ็บปวดอย่างใกล้ชิด
- วันที่ 2-3: แพทย์จะกระตุ้นให้คุณแม่ลุกเดินเบาๆ เพื่อลดภาวะท้องอืดและป้องกันลิ่มเลือด การป้อนนมแม่จะเริ่มในช่วงนี้
- วันที่ 4 (หรือตามดุลยพินิจ): หากร่างกายฟื้นตัวดี ไม่มีไข้ แผลแห้งดี สามารถขับถ่ายได้ และอาการปวดสามารถควบคุมได้ แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้
ปัจจัยที่มีผลต่อระยะการ ฟื้นตัวหลังผ่าคลอด
- สภาพร่างกายของคุณแม่: หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์/ผ่าตัด อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้น
- ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด: เช่น การติดเชื้อที่แผล, การตกเลือดหลังคลอด, หรือปัญหาเกี่ยวกับการปัสสาวะ
- สุขภาพของทารก: หากทารกมีปัญหาสุขภาพ (เช่น ตัวเหลือง หรือน้ำหนักน้อย) และจำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลต่อ อาจส่งผลให้คุณแม่ตัดสินใจอยู่ต่อเช่นกัน
- การจัดการความปวด: การควบคุมความปวดได้ดี จะช่วยให้คุณแม่สามารถลุกเดินและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หลังผ่าคลอดต้องดูแลตัวเองยังไง ?
ภายหลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว คุณแม่จะนอนพักฟื้นที่ห้องผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อประเมินร่างกาย และสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด หากไม่มีความผิดปกติอะไร คุณหมอก็จะให้กลับมาพักที่ห้องพักต่อได้ เพื่อการฟื้นตัวที่ดี คุณแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

- การเคลื่อนไหว: พยายามลุกเดินช้าๆ และขยับร่างกายบ่อยๆ ทันทีที่ทำได้ เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ลดอาการท้องผูก และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
- อาหาร: ควรเริ่มจากอาหารอ่อน ย่อยง่าย รสจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องอืด (เช่น ของหมักดอง, เครื่องดื่มอัดลม) และเน้นอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
- การให้นม: สามารถให้นมลูกได้ทันทีที่รู้สึกตัวดี การให้นมช่วยกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ซึ่งดีต่อการฟื้นตัว
- การพักผ่อน: พักผ่อนให้เพียงพอที่สุดเท่าที่จะทำได้ ควรพักผ่อนเมื่อทารกหลับ
- การใช้ผ้ารัดหน้าท้อง: สามารถใช้ได้เพื่อช่วยประคองหน้าท้อง ลดอาการเจ็บแผลผ่าคลอดขณะลุกหรือเคลื่อนไหว

ข้อห้าม! หลังผ่าหลังคลอดที่คุณแม่ควรปฏิบัติ
เพื่อป้องกันไม่ให้แผลอักเสบติดเชื้อ และยังทำให้แผลผ่าตัดของคุณแม่ไม่เป็นแผลเป็น คุณแม่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- ห้ามยกของหนัก: ห้ามยกของหนักกว่าน้ำหนักทารก หรือออกกำลังกายที่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
- ห้ามมีเพศสัมพันธ์: ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์หลังคลอด หรือจนกว่าจะได้รับการตรวจหลังคลอดและแพทย์อนุญาต
- การดูแลแผล: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเรื่องการทำความสะอาดแผล โดยทั่วไปแผลจะปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ และแพทย์จะนัดตรวจแผล 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
หากมีอาการปวดแผล มีการอักเสบ บวมแดง แผลฉีกขาด หรือมีหนอง มีกลิ่นเหม็น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
อาการที่พบได้หลังผ่าคลอดมีอะไรบ้าง รู้ไว้ก่อนจะได้ไม่กังวล
หลังผ่าคลอด ตอนที่คุณแม่พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล อาจจะพบเจออาการต่างๆ เหล่านี้
- วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เมื่อฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ
- เจ็บแผลผ่าคลอดหลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์
- เป็นตะคริว หรือมีอาการปวดหลัง
- มีอาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก
- มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด หรือน้ำคาวปลา
- เคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก เพราะเจ็บแผลผ่าคลอด
- มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูกได้ ควรกินอาหารอ่อน ๆ เนื่องจากระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวหลังผ่าคลอด

เมื่อต้องกลับบ้านแล้ว ต้องทำอะไรบ้าง
- แพทย์จะปิดแผลผ่าตัดด้วยวัสดุกันน้ำก่อนคุณแม่กลับบ้าน และนัดติดตามอาการอีกครั้งประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด หากในระหว่างนี้แผลมีน้ำเข้า หรือมีเลือดออกผิดปกติ สามารถไปทำแผลได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อโรงพยาบาลเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ทันที
- คุณแม่จะมีนัดตรวจหลังคลอดเมื่อครบ 6 สัปดาห์ เพื่อประเมินแผล ฝีเย็บ น้ำคาวปลา การเข้าอู่ของมดลูก ตรวจประเมินปากมดลูก และให้คำแนะนำการวางแผนคุมกำเนิดหลังคลออด
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หลังคลอด 6 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะได้รับการตรวจหลังคลอด
- คุณแม่สามารถอาบน้ำ สระผมได้ตามปกติ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ ของหมักดอง และนอนพักผ่อนให้มากๆ
- หากกลับบ้านพบว่าน้ำคาวปลามีสีเข้มขึ้น มีก้อนเลือดออกจากช่องคลอด น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น มีไข้ ปวดท้องน้อย ให้กลับมาพบแพทย์ก่อนนัด
- สังเกตอาการผิดปกติของทารกเมื่อกลับบ้านได้แก่ ตัวเหลือง มีไข้ ซึมลง ไม่ดูดนม ให้นำทารกมาพบแพทย์ก่อนนัด
- แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เรื่องการฉีดวัคซีนของแม่และลูกน้อยที่จำเป็นเพื่อป้องกันโรคต่างๆ
ผ่าคลอด ทำหมัน นอนรพ.กี่วัน ?
โดยทั่วไปถ้าคุณแม่ผ่าคลอด คุณหมอสามารถทำหมันได้พร้อมกับการผ่าตัดคลอดเลยค่ะ ซึ่งการทำหมันพร้อมกับการผ่าตัดคลอด หรือคุณแม่ทำหมันหลังคลอดทันทีภายใน 48 ชั่วโมง ระยะเวลาพักฟื้นนอนโรงพยาบาลก็ประมาณ 3-4 วัน ซึ่งเป็นระยะที่คุณแม่ผ่าคลอดต้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลตามปกติ ระหว่างนี้ก็ให้สังเกตอาการเพิ่มเติม เช่นมีอาการปวดท้อง เลือดออกผิดปกติ ให้รีบแจ้งคุณหมอทันที
ยกเว้นหากคุณแม่มาทำหมันหลังคลอด 7 วันไปแล้ว ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลค่ะ สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เลย
อาการผิดปกติที่ต้องรีบพบแพทย์ก่อนนัด
เมื่อกลับไปดูแลตัวเองที่บ้าน คุณแม่จำเป็นต้องเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ที่แผลผ่าตัด: แผลมีอาการบวม แดง ร้อน มีหนอง หรือมีของเหลว/เลือดซึมออกมามากผิดปกติ
- มีไข้สูง: อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 38ํc
- น้ำคาวปลา: มีปริมาณเพิ่มขึ้น, มีสีกลับมาเป็นสีแดงสด หรือมีก้อนเลือดขนาดใหญ่, น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
- อาการอื่น ๆ: ปวดท้องน้อยรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ, ปวดศีรษะรุนแรง, มีอาการปวด บวม แดง ที่น่องขา (อาจเป็นสัญญาณของลิ่มเลือด)
สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่กำลังจะได้พบกับสมาชิกใหม่ของครอบครัว คงจะเข้าใจเกี่ยวกับการผ่าคลอดกันบ้างแล้ว เพราะส่วนใหญ่มักจะกังวลว่า ผ่าคลอดต้องนอนโรงพยาบาลกี่วัน แผลจะหายไหม จะเจ็บหรือเปล่า การเตรียมตัวก่อนคลอดจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณแม่เลือกที่จะผ่าคลอดค่ะ
ที่มา : Phayathai Hospital , Samitivej Hospitals , Hospital.tu.ac.th , Sikarin Hospital , enfababy.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
13 วิตามินหลังคลอด สุดยอดอาหารเสริมของคุณแม่มือใหม่ ปี 2024
เอกสารเตรียมคลอด เอกสารแจ้งเกิด ต้องใช้อะไรบ้าง แจ้งเกิดต้องทำภายในกี่วัน ?
ผ่าคลอด กี่เดือนออกกำลังกายได้ ต้องพักกี่เดือนก่อนที่ร่างกายจะเหมือนเดิม
แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด รักษาอย่างไร? วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!