บลูเบอรี่ชีสพาย เมนูที่เด็กก็ทำได้ ชีสพาย ทำง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เตาอบ
ทุกคนนน~ กินคาวเสร็จแล้วต้องกินหวานตามเป็นของคู่กันจริงไหมคะ มาค่ะ รอบนี้ Kidschen ขอนำเมนูสุดแสนชิค หรืออาจจะเป็นเมนูโปรดของหลาย ๆ คนมาฝากกันค่ะ นั่นก็คือ บลูเบอรี่ชีสพาย ที่ขอบอกเลยว่า ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้านโดยไม่ต้องใช้เตาอบนะคะ อีกอย่างวัตถุดิบ ส่วนผสมนั้นหาซื้อได้ไม่ยาก ไม่เยอะแยะวุ่นวาย ทั้งยังใช้เวลาในการทำไม่นานด้วยนะคะ ไม่เสียเวลาเยอะแน่นอนค่ะ โดยวิธีนี้เด็ก ๆ ตัวน้อย ๆ ก็สามารถร่วมทำไปพร้อม ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ได้เลยค่ะ~
วัตถุดิบ Blueberry Cheese Pie บลูเบอรี่ชีสพาย
Blueberry Cheese Pie ชีสพาย
- แครกเกอร์ 100 กรัม
- ครีมชีส 75 กรัม
- เนยเค็ม 70 กรัม
- มะนาว 2 ลูก
- ซอสบลูเบอรี่สำเร็จรูป
วิธีทำ บลูเบอรี่ชีสพาย
- อันดับแรก ให้ทุกคนนำแครกเกอร์มาบดให้ละเอียด โดยวิธีนี้อาจจะให้เจ้าตัวเล็กเป็นคนช่วย เพื่อสานสัมพันธ์ในครอบครับก็ได้ค่ะ
- จากนั้นให้นำเนยที่เตรียมไว้มาละลายและนำมาคลุกให้เข้ากันกับแครกเกอร์ที่ทำการบดไปเมื่อสักครู่
Blueberry Cheese Pie
- หลังจากผสมเนยและแครกเกอร์ให้เข้ากันเรียบร้อยแล้ว ให้ตักส่วนผสมดังกล่าวใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้และกดฐานให้แน่น
- เมื่อใส่แครกเกอร์ลงในพิมพ์ครบทุกอันแล้ว ให้นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้แครกเกอร์เซตตัว
ชีสพาย BlueberryCheese Pie
- ระหว่างรอแครกเกอร์เซตตัว ให้ทำการนำครีมชีส นมข้น มะนาว มาผสมกัน จากนั้นตีส่วนผสมดังกล่าวให้เนื้อเนียนละเอียดจนตั้งยอด
BlueberryCheese Pie
- จากนั้นให้นำพิมพ์ที่เราใส่แครกเกอร์มาไว้ออกมาจาตู้เย็นและตักครีมชีสใส่พิมพ์ ตกแต่งหน้าด้วยซอสบลูเบอรี่
Blue berry Cheese Pie
- พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ ทำได้ง่าย ๆ อุปกรณ์น้อย ใช้เวลาไม่นานก็ได้ทานขนมแสนอร่อยกันแล้ว
ชีสพาย Blue berry Cheese Pie
ประโยชน์ต่ออารมณ์ในการทำอาหาร
การทำอาหารเป็นทักษะที่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำมันได้ การทำอาหารต้องผ่านการฝึกฝน และใช้ประสบการณ์เป็นอย่างมาก แต่มันก็เป็นกิจกรรมที่น่าท้าทายที่ควรลงมือทำสักครั้งในชีวิต เพราะการทำอาหารมันให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด มันจะให้รางวัลกับคุณเมื่อคุณอดทนทำมันและสำเร็จ ทั้งยังเป็นสิ่งที่พิสูจน์ฝีการทำอาหารของคุรอีกด้วยเมื่อมีคนได้ชิมฝีมือขชองคุณ คุณจะภูมิใจในตัวเองว่า นี่ครั้งหนึ่งฉันเคยทำอาหารให้คนอื่นทานด้วยหรือนี่ เหลือเชื่อจริง ๆ
- ความคิดสร้างสรรค์ทำให้คุณรู้สึกดี
สูตรง่าย ๆ โดยเฉพาะดูเหมือนจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิต เพราะกระบวนการไม่ได้สร้างความกังวล มันยังช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์และความสุข เมื่อพวกเขาทำสิ่งเล็ก ๆ ที่มีความหมายและสงบเงียบในช่วงชีวิตประจำวันของพวกเขา พวกเขารู้สึกมีความสุข อีกทั้งยังมีความคิดสร้างสรรค์ มีการวิจัยจำนวนมากที่ว่าความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้มีความสุขได้อย่างไร
คุณจะรู้สึกสงบขึ้นเมื่อได้ทำอาหาร เมื่อคุณทำอาหารคุณจะไม่รู้สึกเหงาและโดดเดี่ยว การทำอาหารสามารถทำให้คุณรู้สึกเหมือนฝึกสมาธิอยู่ หลายคนอธิบายว่าการทำอาหารเป็น การอยู่โลกส่วนตัว ซึ่งเป็นความรู้สึกที่พวกเขาใช้เวลาไปกับการมุ่งเน้นในการทำอาหาร การฝึกทำอาหารไม่เพียงแต่ทำให้จิตใจสงบ แต่ยังทำให้ร่างกายของคุณผ่อนคลายอีกด้วย มันช่วยให้คุณเข้าสู่กิจกรรมและคลายความตึงเครียดที่จะปรากฏในร่างกายของเราเมื่อเรารู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่
ประโยชน์ของการทำอาหารกับเด็ก
การใช้เวลาในครัวและทำอาหารสูตรใหม่ ๆ จะช่วยให้เด็กพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับอาหารทุกประเภท รวมถึงผักและผลไม้ การสร้างประสบการณ์ในเชิงบวกกับอาหาร มีความสำคัญเป็นอย่ามาก เพราะอาหารเพื่อสุขภาพเป็นรากฐานของสารอาหารที่ดี เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะการทำอาหารขั้นพื้นฐานที่สามารถใช้ได้ตลอดชีวิต
เด็ก ๆ เรียนรู้โดยการสัมผัส การชิม ความรู้สึก การดมกลิ่น และการฟัง พวกเขารักกิจกรรมในครัวเพราะพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์ทั้งหมดจากการปรุงอาหารด้วยประสาทสัมผัสของเด็ก มีหลายวิธีในการทำให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมในการทำอาหาร พวกเขาสามารถช่วยเตรียมอาหารและปรุงอาหารได้อีกด้วย
การทำอาหารกับเด็กให้ประสบการณ์กับทักษะที่จำเป็นมากมาย เช่น การอ่าน การทำตามคำแนะนำ และการวัด การมีส่วนร่วมในการทำอาหารช่วยให้ลูกของคุณพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวได้อีกด้วย ทั้งยังปรับการประสานมือและแม้กระทั่งแนวคิดคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีประโยชน์มากมายสำหรับการทำอาหารกับเด็ก
ในที่สุดการปรุงอาหารกับเด็ก ๆ เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับครอบครัว มันเป็นโอกาสที่จะวางแผนการรับประทานอาหารมองหาสูตรอาหารและแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีที่จะทำให้มื้ออาหารมีสุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับทั้งครอบครัว
Source : bustle.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เมนู แพนเค้กมะม่วง นุ่ม หอม อร่อย ทำได้ง่าย ๆ กิจกรรมครอบครัวที่อยากแนะนำ!
เมนู แพนเค้กมะม่วง นุ่ม หอม อร่อย ทำได้ง่าย ๆ กิจกรรมครอบครัวที่อยากแนะนำ!
สอนลูกทำอาหาร มาดูกันดีกว่าว่าทักษะทำอาหาร ของลูกแต่ละวัยเป็นอย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!