X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

แจกสูตร! 3 เมนูพริกหวาน สำหรับเด็ก ทานง่ายไม่เผ็ด สีสันสดใส (มีคลิป)

บทความ 5 นาที
แจกสูตร! 3 เมนูพริกหวาน สำหรับเด็ก ทานง่ายไม่เผ็ด สีสันสดใส (มีคลิป)

พริกหวานที่มีสีสันสดใส เด็ก ๆ คนไหนก็ลองทานเพราะมีสีสันเย้ายวนใจ แต่สำหรับเด็กแล้วคุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่าลูกจะเผ็ดหรือเปล่า วันนี้เราเลยได้นำ 3 เมนูพริกหวาน ที่เหมาะสำหรับเด็ก สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่เผ็ด เด็กสามารถทานได้สบาย อีกทั้งยังได้ประโยชน์มากมายอีกด้วย ไปกันเลยว่าเมนูพริกหวานมีอะไรบ้าง และพริกหวานมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

 

พริกหวาน คืออะไร?

Bell Peppers พริกหวาน หรือพริกสามสี เป็นพริกประเภทหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ และมีสีสันสดใสหลากหลายสีที่มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ แต่ในปัจจุบันพริกหวานเป็นผลผลิตภัณฑ์ที่มีมากในประเทศจีน โดยพริกหวานนั้นจะออกผลมาให้เราทานได้ในช่วงฤดูร้อนจนถึงเดือนกันยายน โครงสร้างของพริกหยวกมีผิวชั้นนอกที่เรียบเนียน มันเงา ให้เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบเมื่อเคี้ยว ด้านในเป็นโพรง และมีเมล็ดอยู่ที่อยู่แกนตรงกลาง ซึ่งสีของพริกหยวกที่เรามองเห็นตามท้องตลาดจะมี 3 สีคือ สีเขียว สีเหลือง และสีแดง นอกจากสีดังกล่าวแล้วยังมีสายพันธุ์ที่พบได้ยากอีก คือสีขาว สีน้ำตาล และสีม่วง ทั้งนี้พริกหวานแต่ละสีก็มีความขมแตกต่างกันออกไปดังนี้

  • พริกหวานสีเขียวจะมีรสขมมากที่สุด
  • พริกสีเหลืองและสีส้มจะมีรสหวาน และพริกหวานสีแดงจะมีรสหวานมากที่สุด

แต่ถึงอย่างไรก็ตามนอกจากรสชาติของสีพริกหยวกแล้ว แต่พริกหยวกจะไม่มีรสชาติเผ็ดหากมีการนำเมล็ดและแกนกลางออกทั้งหมด ทั้งนี้พริกหยวกสดจะสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และจะสามารถเก็บได้นานถึง 1 เดือนเมื่อหมักในน้ำมันมะกอกและเก็บไว้ในตู้เย็น นอกจากนี้ยังสามารถยืดอายุของพริกหยวกให้นานขึ้นได้นานถึง 1 ปี โดยการดองน้ำเกลือและน้ำส้มสายชู

บทความที่น่าสนใจ : รวม 30 เมนูไข่ อาหารเช้า เอาใจลูก กับสูตรเมนูไข่ง่าย ๆ

 

เมนูพริกหวาน 1

 

ประโยชน์ของพริกหยวก มีอะไรบ้าง?

พริกหยวกเป็นพริกชนิดหนึ่งที่สามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและแบบสุก พริกหยวกสดส่วนใหญ่ประกอบด้วยน้ำมากถึง 92 เปอร์เซ็นต์ มีแคลอรีต่ำแต่อุดมไปด้วยวิตามินและคุณค่าโภชนาการที่สูง โดยพริกหยวก 100 กรัมจะมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังต่อไปนี้

  • พลังงาน 31 กิโลแคลอรี
  • น้ำ 92 เปอร์เซ็นต์
  • โปรตีน 1 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม
  • น้ำตาล 2 กรัม
  • ไฟเบอร์ 1 กรัม
  • ไขมัน 3 กรัม

นอกจากนี้ในพริกหยวกยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างร่างกายและภูมิต้านทานในร่างกายได้ ดังต่อไปนี้

  • วิตามินซี : พริกหยวกแดงมีปริมาณวิตามินซีมากถึง 169 เปอร์เซ็นต์สำหรับปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีมากที่สุด
  • วิตามินบี 6 : ในพริกหยวกมีสารไพริด็อกซิน หรือวิตามินบี 6 ที่เป็นกลุ่มสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
  • วิตามินเค : ฟิลโลควิโนนหรือวิตามินเค มีส่วนช่วยในเรื่องของการแข็งตัวของเลือดและสุขภาพของกระดูก
  • โพแทสเซียม : แร่ธาตุที่มีช่วยในเรื่องของการควบคุมความสมดุลของปริมาณน้ำในร่างกายและช่วยทำให้ระบบการทำงานของหัวใจทำงานได้อย่างปกติ
  • โฟเลต : หรือวิตามินบี 9 ที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ช่วยป้องกันความพิการที่จะเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด และช่วงเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่หลังคลอดได้เป็นอย่างดี
  • วิตามินอี : เป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วงทำให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
  • วิตามินเอ : หรือเบต้าแคโรทีนที่อยู่ในพริกหวานนั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ที่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นได้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันอาการตาบอดในตอนกลางคืนได้อีกด้วย

 

Bell Peppers พริกหวาน

 

3 เมนูพริกหวาน สำหรับเด็ก ผู้ใหญ่ก็ทานได้!

หากกำลังมองหน้าเมนูสำหรับการทำพริกหวานสำหรับเด็กแล้วละก็ วันนี้ห้ามพลาด! เราได้รวบรวมมาให้แบบจัดเต็ม 3 เมนูที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ที่บ้าน วัตถุดิบน้อย แต่อร่อยมาก ไปดูกันเลยว่ามีเมนูอะไรบ้าง

 

พริกหวานยัดไส้

วัตถุดิบ พริกหวานยัดไส้

  • พริกหวานสามสี อย่างละลูก
  • ชีสมอสซาเรลล่า 1 ถ้วย
  • หอมใหญ่สับ 1/2 ถ้วย
  • เห็ดแชมปิญอง 2-3 หัว
  • ใบไทม์ 2-3 ก้าน
  • เนื้อบด 1 ถ้วย (หากไม่ทานเนื้อสามารถใช้เนื้อหมูหรือเนื้อไก่บดแทนได้)

วิธีทำพริกหวานยัดไส้

  1. ล้างเห็นและหอมหัวใหญ่ ก่อนที่จะหั่นเห็ดและหัวหอมเป็นสี่เหลี่ยมเต๋า
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปและนำหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้ลงไปผัดกับน้ำมัน ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย เพื่อเป็นการเร่งให้หอมหัวใหญ่คายน้ำออกมา และใส่เห็ดที่หั่นไว้ตามลงไป
  3. เมื่อหอมใสและเห็ดนิ่มแล้วให้นำออกจากกระทะมาพักไว้
  4. นำเนื้อบด ไก่บด หรือหมูบดที่เตรียมไว้มาผัดกับน้ำมันและใส่เกลือพริกไทยลงไปเล็กน้อย
  5. หากใช้เนื้อวัวให้ใส่ใบไทม์ลงไปเยอะหน่อย เพราะว่าจะสามารถกลบกลิ่นคาวของเนื้อวัวได้เป็นอย่างดี
  6. เมื่อเนื้อสุกได้ที่แล้วให้นำหอมใหญ่และเห็ดที่พักไว้มาผัดรวมให้เข้ากัน
  7. นำพริกหวานมาหั่น โดนหั่นตรงส่วนจุกด้านบนออกก่อน และคว้านไส้พริกด้านในออกมา ทำจนครบจำนวนตามที่ต้องการ
  8. เมื่อเตรียมพริกหวานเสร็จแล้วให้นำเนื้อที่ผัดไว้ใส่ในพริกหวาน ราดน้ำมันมะกอกตามไปเล็กน้อย ก่อนใส่ชีสลงบนด้านบนของไส้ที่ใส่ไว้ในพริก
  9. นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 190 องศาเป็นเวลา 15 นาที หากครบเวลาแล้วดูพริกหยวกยังไม่สุกนิ่มก็สามารถอบต่อด้วยไฟอ่อนได้ แต่ถ้าสุกแล้วก็สามารถจัดเสิร์ฟได้เลย

 

เนื้อผัดพริกหวาน

วัตถุดิบ เนื้อผัดพริกหวาน

  • เนื้อวัวหั่นบาง 300 กรัม (หากไม่ทานเนื้อสามารถใช้เนื้อหมูหรือเนื้อไก่บดแทนได้)
  • แป้งมัน 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
  • พริกหวาน 3 สี อย่างละ 30 กรัม
  • กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • หอมใหญ่ 1/2 ลูก

วิธีทำเนื้อผัดพริกหวาน

  1. นำเนื้อสัตว์ที่หั่นไว้มาปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมันหอย น้ำปลา และแป้งมัน และคนส่วนผสมให้เข้ากัน และหมักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
  2. นำหอมหัวใหญ่และพริกหวานที่มีอยู่มาหั่นให้เรียบร้อย ให้หั่นพริกหวานตามแนวยาวจะได้ดูน่ารับประทาน อย่าลืมที่จะเอาเมล็ดและเยื่อสีขาวด้านในออกก่อน
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันและกระเทียมสับลงไปผัดให้หอม และใส่เนื้อลงไป
  4. ผัดให้เนื้อสัตว์สุกเพียงครึ่งเดียวก่อน และใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไป เพราะไม่เช่นนั้นเมื่อผัดเสร็จจะทำให้เนื้อนั้นสุกและแข็งจนเกินไป
  5. ใส่น้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย และผัดทุกอย่างให้นิ่ม เมื่อทุกอย่างสุกก็สามารถจัดเสิร์ฟได้เลย

 

ไข่อบพริกหวาน

วัตถุดิบไข่อบพริกหวาน

  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย
  • น้ำ 1/2 ถ้วย
  • ชีส 1 ถ้วย
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • ไส้กรอกมินิคอกเทล 1 ถ้วย
  • หมูแฮม 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ ไข่อบพริกหวาน

  1. นำพริกหวานมาหั่นออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนฝาปิด และส่วนของภาชนะที่จะเอาไว้ใส่ไข่ นำแกนกลางออกให้หมดเพื่อลดความเผ็ดและขมฝาด
  2. นำไข่มาตีให้เข้ากันเหมือนกับทำไข่เจียว ใส่ซอสปรุงรส น้ำมันพืช พริกไทย แฮม ชีส และไส้กรอกลงไป ตีให้ทุกอย่างเข้ากันก่อนใส่ต้นหอมที่ซอยไว้ลงไป
  3. ตักไข่ที่ผสมส่วนผสมไว้ลงไปในพริกหยวกที่เตรียมเอาไว้
  4. นำพริกหวานที่ใส่ไข่ลงไปเข้าเตาอบเพื่อให้ไข่ด้านล่างเซ็ทตัว โดยใช้ไฟบนล่างอุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10 นาที
  5. เมื่อครบเวลาก็นำพริกหวานออกมา และโรยไส้กรอก ต้นหอมซอย แฮมและชีสลงไปเพิ่มด้านบน
  6. นำเข้าไปอบอีกครั้งจนพริกหวานมีลักษณะที่นิ่มลง หรือเปลี่ยนจากสีเหลืองสดใสเป็นสีเหลืองเข้ม เมื่อเสร็จแล้วก็สามารถจัดเสิร์ฟได้เลย

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเมนูพริกหวานที่เราได้รวบรวมมาให้ น่าทานทั้งนั้นเลย แบบนี้ต้องอย่างพลาดแล้วนะคะ รีบออกไปซื้อวัตถุดิบแล้วมาทำทานกันดีกว่า จะทำทานคนเดียวเหงา ๆ ชวนเพื่อนมาทานด้วยกัน หรือทำเป็นกิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ยังได้ ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดต้องการสูตรอาหารเพิ่มเติมสำหรับเด็ก ๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ (คลิก) และแอปพลิเคชันของเรา (คลิก) ได้เลยนะคะ

 

บทความที่น่าสนใจ :

เผยสูตร! ผัดฟักทองใส่ไข่ ทำอย่างไรให้ลูกชอบกินฟักทอง ลูกไม่อี๋

5 เมนูปลาซาบะ สำหรับเด็ก ทำเองง่าย ๆ อร่อย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

10 เมนูเด็ก 3 ขวบ อาหารรสชาติอร่อย ทำง่าย กินง่าย ลูกชอบ !

ที่มา : healthline, masterclass

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Siriluck Chanakit

  • หน้าแรก
  • /
  • เมนูอาหาร
  • /
  • แจกสูตร! 3 เมนูพริกหวาน สำหรับเด็ก ทานง่ายไม่เผ็ด สีสันสดใส (มีคลิป)
แชร์ :
  • อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
    บทความจากพันธมิตร

    อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน

  • นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
    บทความจากพันธมิตร

    นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก

  • แม่ลูกอ่อนกินผักอะไรได้บ้าง ผัก 13 ชนิดที่แม่หลังคลอด แม่ให้นม ควรกิน

    แม่ลูกอ่อนกินผักอะไรได้บ้าง ผัก 13 ชนิดที่แม่หลังคลอด แม่ให้นม ควรกิน

  • อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
    บทความจากพันธมิตร

    อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน

  • นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
    บทความจากพันธมิตร

    นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก

  • แม่ลูกอ่อนกินผักอะไรได้บ้าง ผัก 13 ชนิดที่แม่หลังคลอด แม่ให้นม ควรกิน

    แม่ลูกอ่อนกินผักอะไรได้บ้าง ผัก 13 ชนิดที่แม่หลังคลอด แม่ให้นม ควรกิน

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว