โรคภูมิแพ้ Allergic March สาเหตุและวิธีป้องกัน ไม่ให้ลูกป่วยภูมิแพ้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โรคภูมิแพ้ ถือว่าเป็นโรคที่พบ และสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุเลยทีเดียว และต้องบอกว่าโรคภูมิแพ้ที่รู้จักกันนี้ ยังเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยมาก ๆ ในวันนี้เราจะพามารู้จักกับ โรคภูมิแพ้แต่ละโรคที่เรียงลำดับกันมาเหมือนขบวนพาเหรด ( allergic march ) ว่ามีโรคอะไรบ้าง และอันตรายอย่างไร หากลูกของเราป่วยเป็นโรคนี้ คุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีการรับมือยังไงบ้าง

 

โรคภูมิแพ้ และ allergic march คืออะไร?

Allergic March หรือ อาการภูมิแพ้ระยะยาว หรือ ลำดับขั้นการเกิดโรคภูมิแพ้ คือ การเป็นโรคภูมิแพ้ โรคใดโรคหนึ่งแล้วจะยิ่งทำให้เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้โรคอื่น ๆ ตามมาได้ เรียกได้ว่าตามกันมาเป็นขบวนพาเหรด โดยเริ่มจากเด็กทารกในขวบปีแรก จะพบโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง แพ้อาหาร และต่อมาใน 2 – 3 ปีถัด ๆ ไป เมื่อเด็กโตขึ้นจนถึงวัยเรียน เด็กก็จะยิ่งมีโอกาสสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้มากขึ้น ๆ ทำให้ยิ่งลุกลามไปสู่การแพ้อื่น ๆ ตามมา ก็จะเกิดอาการแพ้เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด และภูมิแพ้จมูก ตาอักเสบ แพ้ไรฝุ่น แมลงสาบ หรือสัตว์เลี้ยง ละอองเกสรดอกไม้ ตามมาได้อีก และนี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ส่งผลทำให้เด็ก ๆ เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ ตามมาด้วย

 

 

สาเหตุอะไรบ้างที่ส่งผลทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้

สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ เรียกได้ว่าร่างกายค่อนข้างมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ หรือสิ่งแวดล้อมได้เร็วกว่าคนปกติทั่วไป อีกทั้งยังมีบางสิ่งที่ส่งผลทำให้เราเป็นโรคภูมิแพ้ได้ ประกอบด้วยปัจจัยดังนี้ 

 

  • การถ่ายทอดทางพันธุกรรม

ปัจจัยอย่างแรกที่จะส่งผลทำให้เด็ก ๆ เป็นโรคภูมิแพ้ นั่นคือการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เพราะฉะนั้นหากคุณพ่อคุณแม่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง แพ้อาหาร หอบหืด ลูกของเรามีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ค่อนข้างสูงเช่นกัน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • สิ่งแวดล้อม

สิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมาก แม้เด็ก ๆ จะไม่มีประวัติพันธุกรรมภูมิแพ้ในครอบครัวเลย แต่เด็กก็ยังมีความเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 15 ที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ได้ โดยสิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ คือสังคมเมืองที่มีความแออัด มีฝุ่นมลภาวะ มีธรรมชาติน้อย มีการสัมผัสไรฝุ่นปริมาณมากตั้งแต่เล็ก ๆ อาจจากที่บ้านมีพรหม ติดตุ๊กตาขนปุกปุย มีหมอนที่นอนที่กักเก็บฝุ่น หรือ สัมผัสสัตว์เลี้ยงมีขน พวกสุนัขแมว เป็นระยะเวลานาน รวมถึงการงดอาหารหรือได้รับอาหารบางชนิดมากเกินไป เช่น การงดอาหารกลุ่มเสี่ยงในช่วงตั้งครรภ์หรือตั้งใจทานอาหารบางประเภทในปริมาณที่มากเกินสมดุล เช่น ตั้งใจทานไข่ทุกวัน วันละหลายฟองในช่วงตั้งครรภ์

บทความที่เกี่ยวข้อง : ภูมิแพ้จมูกอักเสบ สาเหตุของโรค และวิธีสังเกตอาการเบื้องต้น

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลักษณะอาการของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้แต่ละประเภท

เรามาดูกันว่าโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยได้แก่โรคอะไรบ้างตามลำดับ สามารถแบ่งออกได้กี่ประเภท

 

  • ภูมิแพ้ผิวหนัง

คือ มีอาการผื่นแดง คันตามผิวหนัง ผิวหนังแห้งเป็นขุยขาวลอก มีผื่นแดงอักเสบบริเวณข้อศอก หัวเข่า หรือข้อพับ สมมาตรทั้งด้านซ้ายและขวา ผิวหนังแห้งทั่ว ๆ ตัว อาจทำให้ยิ่งแพ้สารเคมีต่าง ๆ เช่น น้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่ม สบู่ ครีมทาผิว หรือแม้แต่แพ้ระคายเคือง จากน้ำลายตนเองในวัยทารกได้ 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ภูมิแพ้อาหาร

คือ มีปฏิกิริยาที่ไวเกินต่ออาหารบางชนิด ทั้งจากสัมผัสผิวหนัง หรือรับประทานเข้าไป โดยอาหารที่พบว่าทำให้แพ้ได้บ่อย คือ นมวัว ไข่ ถั่วเหลือง แป้งสาลี อาหารทะเล ถั่วลิสงและถั่วเปลือกแข็งโดยอาจมีอาการเกิดขึ้นกับระบบทางเดินอาหารและ หรือระบบทางเดินหายใจ อาการที่พบบ่อย เช่น คัดจมูก ไอ จาม อาเจียนมากทันที ปวดท้อง หรือถ่ายเหลว หรืออาจเกิดผื่นลมพิษ หน้าปาก หรือหนังตาบวม 

 

  • โรคหอบหืด 

โรคหอบหืด หรือ หืดหอบ เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทำให้มีอาการหลอดลมตีบได้ง่าย เมื่อเจอปัจจัยกระตุ้น ทำให้เด็ก ๆ มีอาการ ไอ หายใจหอบ หายใจมีเสียงหวีดคล้ายนกหวีดในทรวงอก โดยหากไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีอาจทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ 

 

  • ภูมิแพ้จมูกอักเสบ หรือแพ้อากาศ

อาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ฝนตก ช่วงเปลี่ยนฤดู ลักษณะอาการของคนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ประเภทนี้คือ จามบ่อย คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่ค่อยสะดวก คันจมูก โดยจะกำเริบเมื่อได้รับตัวกระตุ้น เช่น ฝุ่น สัตว์เลี้ยง

 

  • ภูมิแพ้ตาอักเสบ

อาการภูมิแพ้ตา โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ประเภทนี้มักจะมีอาการคันตา หรือระคายเคียงบริเวณดวงตา ตาแดง ตาบวม ขยี้ตาหรือกะพริบตาบ่อย ๆ 

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ในเด็ก โรคยอดฮิตที่พ่อแม่เด็กเล็ก ต้องระวัง!

 

 

วิธีป้องกันไม่ให้เป็นโรคภูมิแพ้สำหรับเด็ก ๆ

เพื่อลดความเสี่ยงการเป็นภูมิแพ้ที่ส่งผลกระทบต่อลูกในระยะยาว ทั้งด้านสุขภาพและผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับ “การป้องกัน” และรู้ทันภูมิแพ้เพื่อการดูแลลูกได้อย่างดีที่สุด 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • เช็กประวัติของคนในครอบครัว

อย่างแรกเลยเราอาจจะต้องเช็กความเสี่ยงภูมิแพ้จากประวัติครอบครัว ตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์ เพราะเราจะได้มีวิธีการรับมือ หรือมีวิธีการดูแลลูกของเราได้รวดเร็วมากขึ้น

 

  • ให้ลูกดื่มนมแม่

ทางที่ดีคุณแม่ควรให้นมลูกอย่างน้อยในช่วง 6 เดือนแรก เพราะในน้ำนมแม่จะมีโปรตีนช่วยไปกระตุ้นไม่ให้เกิดภูมิแพ้ แถมยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น พรีไบโอติก  ที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ทำให้ลูกของเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

 

  • ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ

การที่เราทำความสะอาดบ้าน หมั่นดูแลรักษาความสะอาดสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอยู่เสมอ สิ่งนี้ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกของเราป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ได้เช่นเดียวกัน เพราะหากเมื่อไหร่ที่เราไม่ดูแลรักษาความสะอาด บ่อยให้บ้านของเราสกปรก สิ่งแปลกปลอมจำพวกเชื้อโรค หรือฝุ่นละอองภายในบ้านก็อาจจะส่งผลทำให้เด็ก ๆ ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นมาได้

 

  • เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์

นอกเหนือจากสิ่งต่าง ๆ แล้ว เรื่องอาหารการกินก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเป็นภูมิแพ้ เราอาจจะต้องเลือกอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินซี และ ผักผลไม้ เนื่องจากมีพรี และโพรไบโอติกจากธรรมชาติ สิ่งนี้ก็จะช่วยทำให้เด็ก ๆ มีสุขภาพที่ดีแข็งแรงมากขึ้น

 

  • ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม  ในระหว่างวันคุณพ่อคุณแม่อาจจะพาเด็ก ๆ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมสนุก ๆ ให้ร่างกายของเราได้เคลื่อนไหว หรือได้มีการเผาผลาญมากขึ้น และถ้าเมื่อไหร่ที่เขาได้ออกกำลังกายบ่อย ๆ และสม่ำเสมอภูมิคุ้มกันของร่างกายของเขาก็จะแข็งแรงสามารถต้านโรคภูมิแพ้ได้เช่นเดียวกัน

 

  • ควรทำการรักษา

โรคภูมิแพ้สำหรับบางคนอาจจะไม่ได้มีอาการรุนแรงสักเท่าไหร่ บางคนอาจจะทานยาและหายเองได้ แต่สำหรับบางคนหากปล่อยไว้นานก็อาจจะส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้เลย หากลูกของเราเป็นโรคภูมิแพ้ หรือมีอาการที่ผิดปกติไปจากเดิม ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาเด็ก ๆ มาพบแพทย์ เพื่อที่คุณหมอจะได้ให้คำปรึกษา และคำแนะนำวิธีการรับมือกับโรคเหล่านี้

 

คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ค่อนข้างกังวลใจ ที่เห็นลูกของเรามีอาการภูมิแพ้เกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ อย่าพึ่งคิดมากไป เอาเป็นว่าเราหันมาดูแลใส่ใจเด็ก ๆ ด้วยการให้เด็ก ๆ ได้ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ พาเด็ก ๆ ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมสนุก ๆ เพื่อที่เขาจะได้เติบโตมาเป็นเด็กที่แข็งแรงสมบูรณ์กันดีกว่า

 

พญ.วราลี ผดุงพรรค กุมารแพทย์ภูมิแพ้

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ป้องกันภูมิแพ้ ตั้งแต่วัยทารกได้อย่างไร ภูมิแพ้เด็ก ดูแลดี ก็หายได้

ป้องกันภูมิแพ้ ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์

จุลินทรีย์ดี Probiotics โพรไบโอติกส์ อีกหนึ่งความหวัง ในการช่วยต้าน โรคภูมิแพ้