คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัยแบเบาะ หรือวัยกำลังเจริญเติบโต จะต้องให้ความใส่ใจ และเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษ เพราะ โรคภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ในเด็ก นับว่าเป็นโรคยอดฮิต ที่แฝงไปด้วยภัยร้ายต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ที่ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ยังทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันของตัวเด็กเอง
โรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ในเด็ก เป็นกลุ่มโรคเรื้อรังที่พบมากขึ้นทั่วโลก และมีสาเหตุเกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นรอบตัว จากภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มากกว่าปกติ จนทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งอาการแพ้ดังกล่าว จะแสดงออกมาให้รูปแบบที่แตกต่างกัน ตามแต่สิ่งกระตุ้นนั้น ๆ ที่เข้ามามีปฏิกิริยากับร่างกาย
โรคภูมิแพ้มีอะไรบ้าง และมีอาการอย่างไร?
โรคภูมิแพ้ที่มักจะพบได้บ่อย จะแบ่งออกตามลักษณะอาการได้ ดังนี้
1. โรคภูมิแพ้ผิวหนัง
สามารถสังเกตได้ว่าจะเกิดอาการคันบริเวณผิวหนัง ผิวหนังจะมีความแห้ง ขาดความชุ่มชื้น มักจะปรากฏให้เห็นเป็นผื่นแดง ผื่นคันบริเวณใบหน้า และข้อพับต่าง ๆ อาการแพ้ดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับสภาพผิว อากาศ และปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
2. โรคภูมิแพ้อาหาร
เป็นโรคภูมิแพ้ที่พบมากในเด็กเล็ก ซึ่งอาการแพ้จะถูกแสดงออกมาในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นผื่นลมพิษทางผิวหนัง อาการคันตามหน้า ตามตัว มีอาการหน้าบวม ตาบวม ปากบวม ในบางราย อาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว หรือผ่านระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก กรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ซึ่งภูมิแพ้อาหารมีโอกาสหายได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ อย่างน้อย 6 เดือน ถึง 1 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าแพ้อาหารประเภทไหน และเมื่อโตขึ้นแล้วร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานได้หรือไม่
บทความอื่นที่น่าสนใจ : วิจัยเผย คนท้องอ้วน ลูกเสี่ยงเป็นภูมิแพ้! ปัญหาของแม่ท้องที่อ้วนเกินพิกัด!
3. โรคภูมิแพ้ที่ตา
อาการแพ้ที่ตา มักจะเกิดอาการเคืองตา น้ำตาไหล คันตา โดยมากมักจะมีอาการร่วมกันกับโรคภูมิแพ้ที่จมูก
4. โรคภูมิแพ้ที่จมูก
อาการที่สังเกตได้ง่ายนั่นก็คือจะมีอาการคัดจมูก คันจมูก จาม น้ำมูกไหล หรือมีอาการไอ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเป็น ๆ หาย ๆ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ, มลภาวะ, ความชื้น, สารก่อภูมิแพ้
5. โรคหอบ หืด
โรคนี้จะมีอาการไอ หายใจหอบ เหนื่อย มักจะมีเสียงดังวี้ดในลมหายใจ ซึ่งอาการส่วนใหญ่ มักจะถูกกระตุ้นหลังจากมีการติดเชื้อทางเดินหายใจ
บทความที่น่าสนใจ : ลูกเป็นหอบหืด จะรู้ได้ไงว่าลูกหอบ ลักษณะอาการหอบหืด พ่อแม่จะสังเกตได้อย่างไรว่าลูกป่วย
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ ?
- ปัจจัยเสี่ยงจากในที่อยู่อาศัย ได้แก่ ฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ และฝุ่นจากสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว
- ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกที่อยู่อาศัย ได้แก่ มลภาวะทางอากาศ ฝุ่น ควัน ละอองเกสรดอกไม้
- ปัจจัยเสี่ยงจากพันธุกรรม โดยมากมักจะพบว่า หากบิดา หรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ โอกาสที่บุตรจะเป็นโรคภูมิแพ้ก็มีสูงถึง ร้อยละ 30 – 80 ขึ้นอยู่กับว่าอาการแพ้นั้น จะถูกแสดงออกมาทางด้านไหน
ทำอย่างไรเมื่อลูกเป็นภูมิแพ้ ?
- พยายามหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ เช่น เลี่ยงการทานอาหารที่ทำให้เกิดการแพ้ สวมใส่หน้ากากอนามัยหากเป็นภูมิแพ้จากฝุ่น ควัน มลภาวะ เป็นต้น
- หมั่นทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยบ่อยครั้ง และจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำ และซักเสื้อผ้าให้สะอาด ไม่หมักหมม หรือปล่อยให้อับชื้น
- หากมีสัตว์เลี้ยง นอกจากจะต้องคอยทำความสะอาดการกระจาย หลุดร่วง ของขนสัตว์ และมูลสัตว์แล้ว การหมั่นอาบน้ำให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ ก็จำเป็นไม่แพ้กัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ
- การเข้ารับการตรวจสอบ หาสาเหตุของอาการภูมิแพ้ เพื่อสามารถหาวิธีป้องกัน หลีกเลี่ยงรวมไปถึงได้รับการดูแลรักษาได้ตรงจุด ก็มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการรักษาโรคภูมิแพ้
หากผู้ปกครอง หรือคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่า ลูกหลานของท่านมีอาการเสี่ยงที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ ควรรีบพาลูกมาพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัย และรักษาโรคได้อย่างถูกต้อง และทันท่วงทีค่ะ
ดร.วราลี ผดุงพรรค กุมารแพทย์ภูมิแพ้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ภูมิแพ้ไรฝุ่น ตัวร้ายที่ทำให้ใช้ชีวิตลำบาก ! อาการ สาเหตุ และวิธีป้องกัน
ภูมิแพ้ ลูกเป็นภูมิแพ้ รับมือได้ยังไงบ้าง รักษาได้หรือเปล่า ?
ภูมิแพ้อากาศ โรคภูมิแพ้อากาศเป็นอย่างไร ภูมิแพ้อากาศเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร
ที่มา : mamastory
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!