น้ำคาวปลาหลังคลอด น้ำคาวปลาคืออะไร ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ อธิบายเกี่ยวกับน้ำคาวปลาไว้ว่า
น้ำคาวปลาหลังคลอด คือ สิ่งที่ขับออกมาจากแผลภายในมดลูก ตรงบริเวณที่รกเกาะอยู่ มีลักษณะเป็นเลือดปนน้ำเหลือง มีฤทธิ์เป็นด่าง ประกอบด้วยเลือด น้ำคร่ำ และสิ่งต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ในโพรงมดลูก มีกลิ่นเฉพาะ ไม่เหม็นเน่า และจะค่อย ๆ จางจนหมดไปภายใน 7-21 วันหลังคลอด
น้ำคาวปลาแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ
1. Lochia rubra ในระยะ1-3 วันแรกหลังคลอด สิ่งที่ขับออกมามีลักษณะสีแดงคล้ำและข้น ประกอบด้วยเลือดเป็นส่วนใหญ่ น้ำคร่ำ เศษเยื่อหุ้มเด็ก ขี้เทา ลักษณะเลือดไม่เป็นก้อน

2. Lochia serosa ในระยะ4-14 วันต่อมา สีจะจางลงเป็นสีน้ำตาล หรือค่อนข้างแดงจาง ประกอบด้วยเลือด น้ำเหลืองจากแผล เม็ดเลือดขาว เยื่อบุโพรงมดลูกที่สลายตัวแล้ว และมูกจากปากมดลูก
3. Lochia alba ตั้งแต่วันที่ 14-6 สัปดาห์หลังคลอดน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น สีครีม มีความหนืดมากขึ้นประกอบด้วย เยื่อบุโพรงมดลูกที่สลายตัวแล้ว เม็ดเลือดขาว มูก หรือน้ำเมือกและจุลินทรีย์เล็กๆ
การดูแลตนเองขณะมีน้ำคาวปลา

1. คุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติค่ะ แต่แนะนำให้อาบโดยใช้ฝักบัว ไม่ควรลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำ ในระหว่างนี้ไม่ควรว่ายน้ำแม้จะเป็นสระน้ำที่บ้านก็ตาม เพราะปากมดลูกยังเปิดอยู่นะคะ อาจทำให้อาจมีน้ำเข้าไปโพรงมดลูก ทำให้เกิดการติดเชื้อง่ายขึ้น ส่วนที่แผลฝีเย็บที่ช่องคลอดก็ชำระล้างด้วยสบู่อ่อน ๆ แล้วซับให้แห้ง ไม่ต้องใส่ยาอะไร
2. คุณแม่ที่ผ่าตัดคลอดก่อนตัดไหมหน้าท้อง สามารถทำความสะอาดร่างกายได้ทุกส่วนค่ะเว้นบริเวณที่ปิดแผลไว้ เมื่อคุณหมอเปิดแผล ตัดไหมแล้ว แผลสนิทดีก็สามารถอาบน้ำได้ตามปกติเช่นกันค่ะ แต่ข้อห้ามคือ ไม่ควรแช่ในอ่างอาบน้ำหรือว่ายน้ำเช่นกัน
3. คุณแม่ต้องหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยที่ใช้รองซับน้ำคาวปลาบ่อย ๆนะคะ เพื่อจะได้ไม่อับชื้น เป็นการรักษาความสะอาดค่ะ
4. หมั่นสังเกตดูนะคะ ว่าน้ำคาวปลาที่ออกมา มีกลิ่นเหม็นหรือไม่ มีสีแดงขึ้นหลังจากที่จางไปแล้ว หรือมีเลือดสด ๆ ออกมามากขึ้น มีไข้ มีอาการปวดมดลูกมากผิดปกติ ควรต้องรีบไปพบคุณหมอโดยด่วน ที่สำคัญไปตรวจหลังคลอดตามที่คุณหมอนัดเสมอ
น้ำคาวปลาที่มีลักษณะผิดปกติเป็นอย่างไร? และสาเหตุเกิดจากอะไร?
น้ำคาวปลาปกติ
น้ำคาวปลาที่ปกติจะไม่มีกลิ่นเหม็น และคุณหมอคลอดแล้วก็จะสบายดี ไม่มีไข้ ไม่มีอาการปวดมดลูกมากผิดปกติ มดลูกจะหดตัวเล็กลงเรื่อย ๆ สีของน้ำคาวปลาจะจางลงเรื่อย ๆ
น้ำคาวปลาผิดปกติ
น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น สีแดงขึ้นหลังจากที่จางไปแล้ว หรือมีเลือดสด ๆ ออกมามากขึ้น มีไข้ มีอาการปวดมดลูกมากผิดปกติ มดลูกไม่หดตัวเล็กลง แสดงว่าน่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ได้แก่ อาจมีการอักเสบในโพรงมดลูก อาจมีเศษรก หรือเศษเยื่อหุ้มรกค้างอยู่ แล้วทำให้เกิดการอักเสบในโพรงมดลูกตามมา ควรต้องรีบไปพบคุณหมอโดยเร็ว
การรักษาหากน้ำคาวปลาผิดปกติ

1. คุณหมอจะซักถามอาการ และความผิดปกติต่าง ๆ และตรวจร่างกายว่ามีไข้ปวดท้องมดลูกเข้าอู่ หรือไม่
2. ตรวจภายในดูลักษณะสีน้ำคาวปลาปากมดลูกเปิด หรือ ปิด ขนาดมดลูก การกดเจ็บก้อนผิดปกติต่าง ๆ อาจมีการส่งตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อดูว่ามีเศษรก หรือเยื่อหุ้มรกค้างอยู่หรือไม่ หากมีค้าง คุณหมอจะให้ยาปฏิชีวนะก่อน 4-6 ชั่วโมงหลัง จากกินยาจะพิจารณาอีกครั้งว่าต้องขูดมดลูกหรือไม่
บทความแนะนำ จำเป็นหรือไม่? คนท้องต้องอัลตราซาวด์
3. หากมีการติดเชื้อ คุณหมอจะให้ยาปฏิชีวนะมารับประทาน หากมีอาการมากอาจให้นอนรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือด
ยาขับน้ำคาวปลาควรกินหรือไม่?

รศ.พญ.สายฝน ชวาลไพบูลย์ ภาควิชาสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงการดื่มยาดองหรือยาขับน้ำคาวปลาหลังคลอด ไว้ว่า
– มีคนจำนวนมาก โดยเฉพาะในสมัยก่อน เชื่อกันว่า น้ำคาวปลา คือ ของเสียที่ต้องขับออกมาให้มาก ๆ ทำให้มีแม่หลังคลอดเป็นจำนวนมาก ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะตกเลือดจากการกินยาขับน้ำคาวปลา บางรายถึงกับช็อกหมดสติ ต้องให้เลือดช่วยชีวิตกันทีเดียว
– ความจริงน้ำคาวปลาก็คือเลือดดี ๆ ที่ไหลซึมจากแผลในโพรงมดลูกตรงตำแหน่งที่รกลอกตัวออกไป กลไกตามธรรมชาติ เมื่อมดลูกหดรัดตัว บีบเส้นเลือดในมดลูกให้เลือดไหลน้อยลงจนหยุดไปเอง
– เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปพยายามขับน้ำคาวปลาให้ออกมาเยอะ ๆ เพราะนอกจากจะเสียเลือดเพิ่มโดยไม่จำเป็นแล้ว บรรดายาขับน้ำคาวปลาหรือยาดองทั้งหลายมักมีแอลกอฮอล์ผสม ซึ่งจะผ่านออกมาในน้ำนมได้ ลูกดูดนมเข้าไปก็เมาหลับปุ๋ยกันทีเดียว และจะมีผลกระทบต่อสมองทารกอาจทำให้มีพัฒนาการช้าได้
ไขข้อข้องใจเรื่องน้ำคาวปลากันเรียบร้อยแล้วนะคะ แม้ว่าหลังคลอดคุณหมอก็ยังต้องดูแลสุขภาพตนเอง หมั่นสังเกตว่ามีความผิดปกติหรือไม่หลังคลอด เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่นั่นเอง
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://my.dek-d.com
https://www.si.mahidol.ac.th
https://haamor.com/th
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตกเลือดหลังคลอดอันตรายถึงชีวิต
อาการหลังผ่าคลอด ที่แม่ควรรู้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!