คุณแม่มือใหม่ส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกับพัฒนาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ และ แม่ท้องคนไหนมีความกังวล หรือ ความสงสัยว่าตัวเองจะท้องหรือเปล่า วันนี้ theAsianparent Thailand นำบทความ อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 2 เดือน 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 16 มีเรื่องไหนที่ควรรู้ อาการแบบไหนที่แม่ท้องจะต้องรู้สำหรับคนท้อง มาดูกัน
อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 2 เดือน
อาการคนท้อง ตั้งครรภ์ 2 เดือน 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 16
ประจำเดือนขาด
โดยปกติแล้วประจำเดือนของผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ อายุระหว่าง 15-49 ปี จะมีระยะเวลา 21-35 วัน และจะมาใกล้เคียงกันทุกเดือน แต่หากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 10 วันก็สามารถเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่า “กำลังตั้งครรภ์” เนื่องจากไข่กับตัวอุสจินั้นมีการปฏิสนธิกัน โดยร่างกายจะผลิต ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จำนวนมากออกมา นั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผนังมดลูกหลุดออกมาเป็นประจำเดือน อย่างไรก็ตาม การที่ประจำเดือนขาด บางครั้งอาจจะเกิดจาก ความผิดปกติ ของฮอร์โมน หรือ ภายในมดลูกได้ ดังนั้นควรทำการตรวจเพื่อความแน่ใจอีกครั้งจะดีที่สุด เพราะบางครั้งการขาดประจำเดือนก็อาจจะหมายถึงมีโรคบางอย่าง เช่น โรคของระบบต่อมไร้ท่อ เบาหวาน โรคเกี่ยวกับรังไข่
คัดเต้านม
โดยทั่วไปแล้วเวลาจะมีประจำเดือน ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีการคัดเต้านมเล็กน้อย ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ก็เช่นกัน แต่การคัดเต้านมของคนท้องนั้นจะคัดตึงและนานกว่า เพราะร่างกายกำลังเตรียมสร้างน้ำนมให้ลูกน้อย ขยายใหญ่ขึ้น แต่ไม่นานก็จะหายไปเอง โดยผู้หญิงบางคนอาจจะรู้สึกเจ็บเต้านมและหัวนมด้วย ในช่วงตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น จะทำให้หน้าอกอ่อนนุ่ม เพื่อรองรับการให้นมลูกในอนาคต อีกทั้งบริเวณหัวนมจะเริ่มมีสีคล้ำขึ้น หน้าอกจะเริ่มขยาย และ ไวต่อการสัมผัส รวมถึงบางครั้งอาจจะมีอาการเจ็บตึงด้วย
ปัสสาวะบ่อย
ช่วงตั้งครรภ์ใหม่ๆ ในช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ไตจะทำงานหนักกว่าปกติ เพราะปริมาณเลือดในร่างกายจะเพิ่มขึ้น (มดลูกโตขึ้นจากการตั้งครรภ์ เลือดเลยต้องไปเลี้ยงมดลูกกว่าปกติ) ร่างกายจึงปรับตัวให้มีเลือดเพิ่มมากขึ้น ชีพจรเต้นเร็วขึ้น มีเลือดผ่านไตมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ไตกลั่นเอาปัสสาวะมามากขึ้น ในขณะเดียวกันมดลูกที่อยู่ติดกับด้านหลังของกระเพาะปัสสาวะมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เบียดและกดทับกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้แม่ท้องปัสสาวะบ่อยมากขึ้น แต่เมื่อถึงช่วงกลางของการตั้งครรภ์มดลูกจะอยู่สูงขึ้น
กรดไหลย้อน
อาการคนท้อง 2 เดือน
คนท้องส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคนี้ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ทานอาหารเสร็จแล้วแล้วนอนเลย เนื่องจากว่ากรดในกระเพาะอาหารไหลเข้าสู่หลอดอาหารทำให้เกิดอาการแน่น จุกเสียดท้อง วิธีป้องกัน คือ คุณแม่ต้องแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผลไม้รสเปรี้ยว ช็อคโกแลต และอาหารที่มีรสเผ็ด
อาการแพ้ท้อง
แม่ท้องส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ บางคนรู้สึกหวิวๆ ใจส่น บางคนหน้ามืด ซึ่งอาการเหล่านี้เรียกว่า “อาการแพ้ท้อง” หรือ Morning Sickness อาการแพ้ท้อง มีสาเหตุมาจากอะไรนั้น ในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าอาจเป็นผลมาจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่สูงขึ้น จากการทำงานของรก คนท้องส่วนใหญ่จะรู้สึกแพ้ท้องมาก หลังจากตื่นนอนตอนเช้า และจะยิ่งเป็นหนักขึ้น ถ้าหากท้องว่างมากเป็นพิเศษ แม่ท้องแต่ละคนมีอาการแพ้ท้องที่แตกต่างกัน บางคนรู้สึกพะอืดพะอม บางคนอาเจียนร่วมด้วย
- วิงเวียนศีรษะหรือเป็นลม โดยเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือความดันโลหิตลดลงก็อาจจะทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ แต่การรับประทานอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยป้องกันอาการเหล่านี้ได้
- ไวต่อกลิ่น เมื่อเข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ มีมีอาการที่จมูก ของแม่ท้องจะไวต่อกลิ่นทุกชนิดมากขึ้น หรือที่เรียกว่า Super Smell เป็นพิเศษ บางครั้งก็อาจทำให้แม่ท้องรู้สึก เหม็น หรือจู่ ๆ ก็ไม่ชอบกลิ่นที่คุ้นเคย จนเกิด อาการคลื่นไส้อาเจียนได้ บางครั้งก็เหม็นน้ำหอม เหม็นอาการ เหม็นตัวสามี ก็เป็นได้
- ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลงไป ในช่วงแรกของ การตั้งครรภ์ แม่ท้องอาจมีการรับรู้ รสชาติอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป จนอาจทำให้รู้สึกว่า ทานอะไรก็ไม่อร่อย บางทีก็อยากทานของแปลก ๆ อย่างเช่นอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือ อาหารที่แม่ท้องอาจไม่ได้รู้สึก ว่าอยากกินมาก่อน
ปวดหลัง
ปวดหลังตอนท้อง เป็นอาการที่แม่ท้องส่วนใหญ่ต้องเผชิญ ซึ่งการปวดหลังตอนท้องนั้น จะเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่จะมาจากการขยายตัวของกล้ามเนื้อส่วนกลาง ที่เป็นผลมาจากมดลูกขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับทารกตัวน้อยที่กำลังเติบโตภายในร่างกาย รวมถึงอาจจะมีอาการตะคริวร่วมด้วย โดยอาการเหล่านี้นับว่าเป็นอาการปกติของคนท้อง และอาการปวดหลังสามารถเกิดได้ตลอดเวลาในการตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักตัวที่มากขึ้นทำให้ศูนย์กลางของการทรงตัวเปลี่ยนไป วิธีการรับมือคือปรับเปลี่ยนด้วยท่านอน เป็นตะแคง ใช้หมอนข้างสำหรับวางขา เลือกที่นอนที่แข็งพอดี และไม่นุ่มจนเกินไป
มีตกขาวมากผิดปกติ
ในช่วงการตั้งครรภ์ สีรระและฮอร์โมนในร่างกายจะมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีการตกขาว ในปริมาณที่มากขึ้นกว่าปกติ แต่อย่าเพิ่งตกใจถ้าลักษณะของการตกขาวเป็นมูกเหลวสีขาวขุ่นหรือครีมเพราะนั้นก็ถือเป็นสภาวะปกติไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณปากมดลูกและช่องคลอดจะมีการสร้างของเหลวออกมาเพื่อหล่อลื่นบริเวณปากช่องคลอด แต่ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ก็ควรดูแลรักษาทำความสะอาดช่องคลอด เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น
มีลมในกระเพาะมากขึ้น
โดยแม่้ทองจะรู้สึกว่าท้องตัวเองป่องมากขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากฮอร์โมนโปสโจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลต่อระบบการย่อยอาหาร เลยทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณแม่ทำงานได้ช้าลง เกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย
สีของเยื่อบุช่องคลอด
อาการคนท้อง 2 เดือน
แม่ท้องอาจจะรู้สึกว่าอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานบวมน้ำ เยื่อบุช่องคลอดคล้ำขึ้นเป็นสีม่วงแดงหรือสีน้ำเงิน บางครั้งก็เกิดจากการอักเสบบริเวณช่องคลอดได้
อารมณ์แปรปรวน
สาเหตุที่คนท้องมักมีอารมณ์แปรปรวนนั้นมาจากการที่ร่างกายเกิดความอ่อนเพลียของร่างกาย จากความเครียดสะสม และจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนในร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลต่อระดับสารส่งผ่านประสาท ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์จากสมอง จึงทำให้คนท้องอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
มีอาการอ่อนเพลีย
แม่ท้องจะรู้สึกเหนื่อย และอยากนอนตลอดเวลา เนื่องจาก ฮอร์โมนโปสเจสเตอโรนสูงขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายคลายตัวเหมือนยากล่อมประสาท ภายในร่ากงายมีการเผาไหม้อาหารหรือใช้พลังงานอย่างมากในการพัฒนาลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงและสูญเสียพลังงานมากขึ้น โดยทำให้แม่ท้องมีอาการเหนื่อยง่าย
ร่างกายมีอุณหภมูิที่สูงขึ้น
ในช่วงท้องร่างกายแม่ท้องจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นมากกว่าปกติ และมีความรู้สึกร้อนง่าย จากไม่ชอบพัดลม หรือแอร์ ก็จะชอบที่จะอยู่หน้าพัดลม หรือ หน้าแอร์ นั้นเป็นเพราะร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น
ปวดหัวบ่อยขึ้น
ระหว่างการตั้งครรภ์ แม่ท้องหลายคนมักมีอาการปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะร่างกายที่เปลี่ยนแปลง ด้วยระดับฮอร์โมน ความดัน โดยเฉพาะคนท้องไตรมาสแรก ที่ทำให้แม่ท้องรู้สึกปวดหัว ซึ่งจริง ๆ แล้ว การที่คนท้องปวดหัวบ่อย ๆ เป็นอาการที่พบได้ทั่วไป ทั้งยังสามารถเป็นต่อเนื่องไปตลอดระยะเวลาที่ตั้งครรภ์
ปวดเกร็งในช่องท้อง
โดยการปวดเกร็งในช่องท้องนั้นมาจากการปวดประจำเดือนหรือตั้งครรภ์ ใน่ชวงแรกอาจจะบอกได้ยาก แต่ถ้าแม่ท้องรู้สึกปวดหน่วงๆ ก็อาจจะเป็นได้ว่ามีการยืดขยายของมดลูกที่พร้อมสำหรับการมีลูก หรือ แปลว่ากำลังตั้งครรภ์นั้นเอง
หายใจถี่
เมื่อรู้สึกมีอาการหายใจถี่ เหนื่อยง่ายในขณะทำงานที่ต้องใช้แรงงาน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกได้ว่ากำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากตัวอ่อนที่กำลังเจริญเติบโตในครรภ์ มีความต้องการออกซิเจนจากคุณแม่ และเมื่อทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตมากขึ้นจะมีแรงกดดันต่อปอดและกระบังลม ส่งผลทำให้แม่ท้องมีอาการหายใจถี่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดการตั้งครรภ์
มีเลือดซึมออกมาจากช่องคลอด
หากแม่เห็นเลือดซึมออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ใช่ประจำเดือนอย่าเพิ่งตกใจ เพราะนั้นอาจจะเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ในระยะแรก เนื่องจากร่างกายอยู่ในสภาวะปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการปฏิสนธิภายในมดลูก ในช่วง 11-12 วันหลังปฏิสนธิ ตัวอ่อนจะฝังในเยื่อบุโพรงมดลูก อาจทำให้คุณแม่บางคนมีเลือดสีแดงจางๆ หรือ ชมพู ปริมาณไม่มาไหลออกมาจากช่องคลอดได้ และเลือดนี้จะหยุดไหลไปเองใน 1-2 วัน หากไม่มีอาการปวดเกร็งก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่หากเลือดไหลไม่หยุดและมีอาการปวดเกร็งท้องร่วมด้วยควรไปพบแพทย์ทันที
มีการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง
ในช่วงตั้งครรภ์นั้นร่างกายจะสร้าง Pigmentation ของผิวหนังมากขึ้น ทำให้บริเวณใบหน้า คอ รักแร้ อวัยวะเพศ มีสีคล้ำขึ้น ไม่ขาวผ่อง นอกจากนี้เส้นกลางท้องที่คล้ำอาจจะเด่นขึ้น หรือที่เรียกว่า Striae
Source : Medthai
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
ตื่นเช้าพร้อมเริ่มต้นวันใหม่ๆ กับ บทสวดมนต์เช้า พร้อมแผ่เมตตา บทสวดมนต์ตอนเช้า
100 เมนู ฟิตหุ่นคุณแม่หลังคลอด อิ่มนี้ไม่เกิน 200 แคล ชื่อเมนู: 3 เมนู ยำแซ่บ
100 แคปชั่นเที่ยวทะเล คําคมทะเล แคปชั่นทะเล ไปทะเลต้องโพสต์แคปชั่นยังไง?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!