X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต แม่โพสต์อุทาหรณ์ ต้องเชื่อสัญชาตญาณความเป็นแม่

บทความ 10 นาที
ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต แม่โพสต์อุทาหรณ์ ต้องเชื่อสัญชาตญาณความเป็นแม่

แม่สุดเศร้า โพสต์ถึงลูกที่จากไปตอนท้อง 6 เดือนกว่า ๆ แต่น้ำนมแม่ยังไหลแม้ลูกไม่มีวันได้กิน

แม่โพสต์ ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต แต่ใจทารกน้อยยังสู้ หลังคลอดมีชีวิตอยู่ได้อีก 1 วัน หัวใจคนเป็นแม่เจ็บปวดเกินบรรยาย อุทาหรณ์ที่แม่อยากบอก ต้องเชื่อสัญชาตญาณความเป็นแม่ ได้แต่ภาวนา “ขอให้หนูกลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ” คำพูดสุดท้ายจากใจคนเป็นแม่

อุทาหรณ์ ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต

ขอให้เป็นเคสอุทาหรณ์เตือนว่าที่คุณแม่ทุก ๆ คน จากคุณแม่อายุครรภ์ 25 สัปดาห์ที่ต้องเสียลูกน้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ ทั้ง ๆ ที่ลูกแข็งแรงปกติหมดทุกอย่าง บอกตรง ๆ ดีใจแกมอิจฉากับคุณแม่ที่มีลูกสมใจทุกคนค่ะ ยาวหน่อยแต่อยากให้อ่านนะคะ

“อะไรที่ผิดสังเกต ผิดปกติ ให้รีบไปหาหมอดีที่สุดค่ะ”

คิดอยู่นานว่าจะเขียนบอกดีมั้ย ซุ่มอยู่ในห้องนี้มาตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ถ้าผิดกฎลบได้นะคะ เดิมตัวเองตั้งใจปล่อยท้อง เพราะแต่งงานมา 9 เดือนแล้ว พอลองปล่อยครั้งแรกก็ท้องเลยค่ะ จึงรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังประจำเดือนไม่มา ก็เห่อมากรีบไปฝากครรภ์ตั้งแต่ทราบผลว่าท้องเลยค่ะ เป็น รพ.เอกชนชื่อดังสำหรับเด็กที่กทม. (ไม่ขอบอกชื่อนะคะ) คือเราคิดว่ายอมจ่ายแพง เพื่อแลกกับการบริการ และการดูแลลูกเราแบบดีที่สุด ซึ่งหมอยังชมว่ารู้ว่าท้อง และมาฝากครรภ์เร็วมาก หลังจากรู้ว่าท้องแน่ ๆ ก็บำรุงตัวเอง ดูแลตัวเอง ซึ่งสุขภาพปกติทุกอย่าง น้ำหนักก่อนท้อง 42 กิโล จนถึงวันที่พบหมอครั้งสุดท้าย 50 กิโล เท่ากับท้อง 6 เดือนขึ้นมา 8 กิโลค่ะ แต่ใหญ่เฉพาะที่ท้องค่ะ กำหนดคลอดคือวันที่ 6/7/18 และแล้ววันที่เริ่มผิดปกติเริ่มมาเยือนค่ะ เริ่มเข้าเรื่องเลยนะคะ

วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2561

หมอนัดไปตรวจครรภ์ประจำเดือน อายุครรภ์ครบ 24 สัปดาห์ (6 เดือน) ตรวจเรื่องเบาหวาน และสุขภาพแม่ พบว่าปกติ น้ำคร่ำดีทุกอย่าง และหมอเฉพาะทางมาเช็คหัวใจ 4 ห้องเปิด-ปิดปกติ อวัยวะต่าง ๆ ปกติ น้ำหนักโอเค ขนาดตัวโอเค อวัยวะครบ ลูกไม่เป็นดาวน์ซินโดรม

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2561

หยุดงานเพราะอยู่ดี ๆ ก็เริ่มปวดมวนท้องตอนตี 3 เหมือนปวดกล้ามเนื้อหน้าท้องแบบคน sit up รู้สึกไม่สบายตัว เมื่อยข้างใน

วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2561

ไปทำงานแบบมีอาการเจ็บท้องแบบจุกเสียดทั้งวัน เจ็บแบบแค่เดิน หรือนั่งก็เสียดจุกแปลบ ๆ ที่ท้องตลอดเวลา ไลน์ปรึกษาหมอที่ฝากครรภ์ประจำ หมอฝากครรภ์บอกให้ลองนอนพักถ้าไม่ดีขึ้นให้ไปหาหมอ วิเคราะห์ว่าอาจเป็นลำไส้อักเสบ สรุปรู้สึกไม่ไหวค่ะ เลิกงานตอนเย็นเลยไปหาหมอ แต่ได้พบหมอเวรตอนเย็น พอเล่าอาการที่เป็น หมอเวรวิเคราะห์ว่าเป็นกระเพาะอักเสบกับกรดไหลย้อน และให้หยุดอ1 วัน แต่เราให้ช่วยเช็คลูกด้วย เพราะเพิ่งเคยปวดผิดปกติ หมอใช้หูฟังหัวใจลูก แจ้งว่าหัวใจเต้นปกติ กดท้องแล้ว มดลูกไม่แข็ง ไม่เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด หมอบอกว่าคนท้องมักเป็นโรคกระเพาะกับกรดไหลย้อนกัน เรารับยามาแบบแย้งในใจ พร้อมไลน์รายงานผลกับหมอที่ฝากครรภ์ประจำ ว่าหมอเวรให้ยามาแล้ว

ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต

วันพุธที่ 21 มีนาคม 2561

หลังจากหยุดดูอาการ กินยาที่หมอเวรให้แล้ว พบว่าไม่ดีขึ้นแค่นอนตะแคงพลิกตัว ก็เจ็บแปลบที่หน้าท้อง เดินไม่ไหว เดินไปเจ็บไป คิดในใจว่าอาการกระเพาะอักเสบกับกรดไหลย้อนไม่ใช่แบบนี้แน่ ๆ เพราะเคยเป็น ก็ไลน์คุยกับหมอที่ฝากครรภ์ว่า เป็นไปได้มั้ยว่าเพราะลูกตัวใหญ่ขึ้น มดลูกขยายตัว หมอบอกเป็นไปได้ เราก็คิดว่าคงเป็นเรื่องปกติ ก็พยายามนอนพักเยอะ ๆ

วันพฤหัสที่ 22 มีนาคม 2561

ไปทำงานทั้ง ๆ ที่ไม่ดีขึ้น ทำไปชั่วโมงเดียว นั่ง ๆ อยู่ รู้สึกมีตกขาวไหล ไปดูที่ห้องน้ำปรากฎตกขาวเป็นสีช็อคโกแลต เท่านั้นล่ะ ใจคอไม่ดี โทรถามหมอที่ฝากครรภ์ว่าเข้า รพ.มั้ย พอรู้ว่าเข้า เราไม่รออะไรแล้วค่ะ รีบไป รพ.หาหมอที่ฝากครรภ์ทันที หมอให้ตรวจปัสสาวะ ผลตรวจพบว่าเราติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ถามหมอว่าเกิดได้อย่างไร หมอแจ้งว่าจากการใช้สายฉีดน้ำจากห้องน้ำสาธารณะ แนะนำให้ใช้แต่ทิชชู่เปียก หรือแม้แต่การอั้นฉี่ หรือกางเกงในชื้น ก็ทำให้เป็นได้ พอติดเชื้อ เลยส่งผลทำให้มดลูกบีบตัวก่อนกำหนด และตรวจภายในให้ แจ้งว่าปกติ หมอจึงสั่งให้หยุดงานอาทิตย์นึงทันที พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อ ยาฮอร์โมน ยาคลายมดลูก และบอกห้ามทำอะไรหนักเลย นอกจากลุกกิน ลุกฉี่ ลุกอึ ขยับตัวให้น้อยที่สุด เพราะถ้าขยับมาก ๆ จะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดได้ เดิมก็เสี่ยงหลาย ๆ ปัจจัย ตั้งแต่แม่ตัวเล็ก ท้องเล็ก เดิน ยืนเยอะ

ตอนแรกคิดว่าทำไมหมอไม่ admit ให้ เพราะถ้าบอกว่าเสี่ยงขนาดนั้น แต่เห็นหมอให้กลับบ้านไปพักได้ก็ไม่ติดใจ แต่ใจคอยังรู้สึกไม่ดี เลยขอหมออัลตราซาวน์ดูลูก พอรู้ว่าลูกปลอดภัย ดิ้นเก่งเหมือนเดิมก็โอเคที่สุดแล้ว ทีนี้เห็นหมอบอกต้องหยุดงาน และต้องมีคนดูแลขนาดนี้ เลยอยากให้แฟนเป็นคนดูแล ตัวเองอยู่อีกที่ แฟนอยู่อีกที่ ก็เลยให้แฟนมารับไปอยู่ที่บ้าน พอไปถึงเย็น ๆ ก็ขึ้นไปนอนพักอย่างเดียว พอตกกลางคืน เริ่มปวดท้องหนักขึ้น ปวดหน่วง ๆ บิด ๆ ก็ไลน์หาหมอ หมอบอกเพราะมดลูกเราบีบตัวเลยเป็นแบบนี้ ก็เลยพยายามนอนแต่นอนไม่หลับ

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561

เที่ยงคืนเข้าวันศุกร์แล้วปวดท้องหนัก ก็ไปถ่าย พอถ่ายเสร็จ รู้สึกมีเลือดออกเหมือนเมนส์ ก็เลยโทรไปถาม รพ.เป็นเบอร์ฉุกเฉินสำหรับคนท้องที่ให้สอบถามข้อมูล พอเล่าอาการตั้งแต่ที่เป็นมาให้หมอในสายฟัง หมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะคนท้องบางคนก็มีเลือดออกจากการที่มดลูกบีบตัว เราก็อุ่นใจขึ้น แต่มันเริ่มปวดท้องถี่ขึ้น ๆ จนต้องโทรไปหาหมอที่ฝากครรภ์ตอนเกือบตีสอง เล่าอาการให้ฟังว่าปกติมั้ย หมอบอกให้ลองกินยาคลายมดลูก แล้วนอนพักดู ถ้าไม่ดีขึ้นให้ไปหาหมอ จนตีสองกว่านอนไม่ได้เลย ปวดทรมานมาก ๆ ถี่ขึ้น ๆ จนจะร้องไห้

แฟนบอกให้ไปหาหมอเลย ก็แต่งตัวเตรียมจะไป รพ. ไปเข้าห้องน้ำ ปรากฎยังไม่ทันได้ฉี่ น้ำพุ่งออกมาแรงมาก เรารู้ทันทีว่าเป็นน้ำคร่ำถึงจะเป็นท้องแรก บอกแฟนว่า น้ำคร่ำแตกแล้ว พอน้ำคร่ำเริ่มหมด ก็ลุกขึ้นจะใส่กางเกง รู้สึกมีอะไรตุง ๆ ที่ปากมดลูก เราตกใจกรี๊ดสุดเสียงเลยเพราะขาลูกโผล่มาแล้ว ค่อย ๆ ไหลออกมา ทีนี้เราเสียสติร้องไห้ กรี๊ดบอกแฟนว่าแท้งแล้ว ๆ อย่างเดียวเลย แฟนรีบโทรหาหมอที่ฝากครรภ์ว่าน้องออกมาแล้วจะทำไงดี หมอตอบเสียงเรียบเฉยว่า “เสียใจด้วยนะคะ แท้งแล้วค่ะ ให้รีบไป รพ.นะคะ”

เรากับแฟนอึ้งกับคำตอบหมอที่เราคิดว่าเราเลือกดีแล้ว ว่าจะฝากฝังชีวิตเรากับลูกไว้ พอเค้าตอบมาแบบนี้ คือไม่แนะนำอะไรเลย ซึ่งลูกเอาขาออกมาก่อน และโผล่มาถึงหัวเข่าเค้าแล้ว จะให้ไป รพ.ทั้งแบบนี้ ลูกกับเราก็อาจจะแย่ทั้งคู่ นาทีนั้นมันตกใจคิดไม่ออกหรอกค่ะว่าต้องโทรเรียกรถฉุกเฉิน หรือหน่วยกู้ภัย พอแฟนเรารวบรวมสติได้ บอกงั้นคลอดเลย ไม่งั้นจะไปยังไง เลยตัดสินใจเบ่งเลยค่ะ แบบกลัวลูกจะเป็นอะไร

ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต

เราเบ่งสุดแรงใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที เนื่องจากลูกยังตัวเล็กมาก แฟนก็รองรับลูกซึ่งเราคลอดออกมาทั้งรกเลยค่ะ ตอนคลอดลูก ไม่ได้ยินเสียงเค้าร้องเพราะเพิ่ง 6 เดือนกับ 1 อาทิตย์ สำหรับอายุครรภ์เท่านี้คืออวัยวะครบหมดแล้ว แต่ปอดจะเริ่มทำงานตอน 7 เดือน

ทีนี้รีบไป รพ.เลยค่ะ รพ.ห่างจากบ้านไม่ถึง 10 นาที พอไปถึงหมอช่วยลูกเบื้องต้นโดยการ cpr และใส่เครื่องช่วยหายใจ แจ้งแต่ค่าใช้จ่ายว่าน้องต้องอยู่ห้องฉุกเฉินซึ่งแพงมากต่อคืน ต้องอยู่อย่างน้อย 3 เดือน ถ้าไม่พร้อมจะหารพ. Refer ให้ ซึ่งน้องต้องฉีดยากระตุ้นปอดภายใน 6 ชม. แต่กว่าจะหา รพ.ที่จะรับเคสน้องต่อได้ กว่ารถจะพร้อมก็เกือบ 6 ชม. แล้ว

สรุปน้องโดนส่งมาที่กรุงเทพ เป็น รพ.เดียวที่ตอบรับ เพราะน้องถือว่าเป็นเคสโคม่า ตอนจะย้ายลูกไป เราขอหมอเจอหน้าลูกก่อน เพราะคลอดเสร็จยังไม่เห็นหน้าเค้าเต็ม ๆ เลย มัวแต่ร้องไห้เสียสติอยู่ พอเค้าเข็นลูกมา สายอะไรไม่รู้เต็มตัวเค้าเลย เรารีบบอกให้เค้าเข็นไป กลัวร้องไห้ใส่ลูก บอกให้หนูปลอดภัยนะลูก ส่วนเราหมอไม่ให้ย้าย รพ.ตามลูก เพราะต้องขอดูอาการภายใน 24 ชม.ก่อน แฟนเลยไปกับลูกคนเดียว ในใจเราก็คิดตั้งแต่คลอดเค้าแล้วว่า ลูกอาจไม่รอด แต่หวังปาฏิหาริย์ช่วย เราต้องร้องไห้อยู่ในห้องพักคนเดียว โทษแต่หมอที่ฝากครรภ์ว่า

ทำไมเค้าไม่จับเรา admit ดูอาการ ทั้ง ๆ ที่เราเริ่มเป็นมาหลายวันแล้ว?

ทำไมเค้าไม่แนะนำเราว่าอาการแบบนี้ต้องไป รพ.เลย เพราะจะคลอดแล้วตั้งแต่แรก?

ทำไมในขณะที่เราคลอดลูกอยู่ ไม่แนะนำอะไรเราเลย?

เป็นคำถามที่ได้แต่โทษหมออยู่แบบนั้น แล้วเราคลอดลูกตอนตี 3 นิด ๆ ตอนแรกเลยไม่กล้าโทรบอกที่บ้าน กลัวเค้าตกใจ แล้วรีบเดินทางมาดึก ๆ จะไม่ดี จนตกบ่ายแฟนโทรมาบอกว่าลูกอาการทรุด ให้ทำเรื่อง refer ย้าย รพ.มาเลย เผื่อลูกเป็นอะไรจะไม่ทันเจอหน้าลูกครั้งสุดท้ายนะ พอไปถึง รพ. พยาบาลบอกให้พาแม่ไปหาลูกก่อนไปห้องพักนะคะ เพราะน้องอาการวิกฤต โคม่า พร้อมจะไปได้เสมอ พอไปถึงหน้าตู้อบ

หมอบอกลูกอยู่ในช่วง 7 วันอันตราย ถ้าลูกเราผ่าน 7 วันนี้ไปได้ น้องก็อาจรอด แต่ถึงรอดก็อาจจะพิการ หรือไม่ปกติ เพราะเราคลอดเอง เลือดน้องเลยออกที่เยื่อหุ้มสมองระดับ 3 แล้ว ถ้าระดับ 1 นี่ยังรักษาได้ แต่แค่เราเห็นสภาพลูกก็ร้องไห้หนักมาก เพราะเค้าตัวนิดเดียว แต่สายอะไรติดเต็มตัวเค้าไปหมด โดนเจาะ โดนเข็ม ถ้าเปลี่ยนกันได้ เราอยากเจ็บ อยากเป็นแทนลูก เลยพูดกับลูกว่า

ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่นะ ถ้าหนูไม่ไหวก็ไปเลยนะลูก หนูสู้เต็มที่แล้ว แม่ไม่อยากเห็นหนูทรมาน

เค้าก็ตอบรับ โดยการดิ้น มือเท้าขยับ แต่หมอไม่อยากให้ลูกขยับมาก เพราะกลัวเลือดจะออกเพิ่ม เลยให้ยานอนหลับน้อง และหมอให้เรากับแฟนเซ็นยินยอมว่า ถ้าลูกหยุดหายใจเมื่อไหร่ ให้ปล่อยเค้าไปเลย ไม่ต้องปั๊มหัวใจช่วยเค้าอีก เพราะเค้าโดนปั๊มมา 2 ครั้งแล้ว เราอาจดีใจที่ลูกยังอยู่ แต่เค้าอาจมีชีวิตแบบผักแบบปลา เค้าอาจจะไม่ดีใจเหมือนเรา

ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2561

ที่ห้อง NICU ให้เข้าเยี่ยมได้แค่วันละครั้ง ครั้งละแค่ 15 นาที ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น. แต่ของเราลูกโคม่า หมออนุญาตให้เยี่ยมได้ 2 ครั้ง เราไปเยี่ยมลูกตั้งแต่ 10 โมง เค้ายังนอนทรง ๆ นิ่ง ๆ ขยับตัวบ้างเล็กน้อย หมอให้เลือดน้องไป 4 ถุงแล้ว และให้อาหารทางสายแทน ยังไม่สามารถให้นมแม่ได้ เพราะลำไส้เค้ายังไม่ทำงาน แต่เรามองลูกแล้วเหมือนเค้าดูตัวเต็มขึ้น ดูดีขึ้นเราก็แอบดีใจ แอบหวัง แต่หมอบอกว่ายังไงโอกาสรอดก็แค่ 25% ถึงเค้าดีขึ้น ก็ยังอยู่ขั้นโคม่า

เราขึ้นมาห้องพักก็ได้แต่สวดมนต์ ขอพรพระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พอช่วง 17.00 น. ลงไปเยี่ยมอีกครั้ง เหมือนลูกดูดีขึ้น ดูผิวเปล่งปลั่ง เราพูดอะไรข้างตู้เค้าก็ขยับตัวรับรู้ เราดีใจมาก ถึงความหวังจะริบหรี่แต่เห็นเค้าดีขึ้นก็ดีใจมากแล้ว พอเยี่ยมเสร็จ ขึ้นมาก็บอกแฟนว่า ลูกดีขึ้น แต่เราต้องเผื่อใจไว้เสมอนะ พอช่วงดึก ๆ 4 ทุ่ม เริ่มใจคอไม่ดี ขนาดญาติกับเพื่อนมาเยี่ยมเต็มห้อง แต่อยู่ ๆ ก็นึกถึงลูก คิดถึงเค้าขึ้นมา เลยขอให้แฟนไปไหว้พระ ไหว้ศาลพระภูมิที่ด้านล่างของ รพ.ให้หน่อย

พอแฟนขึ้นมาไม่ถึง 2 นาทีเลย มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามา เราก็หวิว ๆ แล้ว พอรับสาย ปลายทางพูดว่า ให้รีบลงมาหาลูกที่ห้อง NICU เพราะสัญญาณชีพจรน้องหายไปแล้ว พอลงไปถึงคือรู้เลยว่า ลูกเค้าไปสบายแล้ว เค้าคงมาลาแม่ ลักษณะน้องเหมือนเด็กนอนหลับเฉย ๆ ก่อนหมอจะถอดสายต่าง ๆ ตามตัวเค้าออก เค้าให้เราอุ้ม และพูดลาลูก

เราก็พูดกับลูกว่า “ขอให้หนูกลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีกนะ ขอโทษที่แม่ดูแลหนูไม่ดี”

พยาบาลก็เอาน้องไปทำความสะอาด ตอนอุ้มน้องออกมา ก็อนุญาตให้เรากับแฟนอยู่กับเค้าได้อีกชั่วโมง ก่อนที่ฝ่ายบริการจะเอาเค้าไปไว้ห้องเย็น เราเห็นลูกตั้งแต่ตอนเค้ารักษาเค้าดูผิวคล้ำ ดูหมอง แต่พอเค้าเสีย เค้าดูหน้ายิ้ม ผิวขาวขึ้น แก้มอมชมพูขึ้นมา เหมือนเด็กน้อยนอนหลับสบาย ๆ ธรรมดา ก็คิดซะว่าเค้าไปแบบสบาย ไม่ทุกข์ ไปเป็นเทวดาน้อย ๆ บนสวรรค์ เพื่อรอกลับมาเกิดเป็นลูกแม่ใหม่ เรากับแฟนผลัดกันกอด และหอมลูกจนนาทีสุดท้าย แล้วไปส่งเค้าที่ห้องเย็น

ทาง รพ.แจ้งว่าจริง ๆ อายุครรภ์เท่านี้คือการแท้ง ไม่ต้องแจ้งเกิด แต่น้องมีชีวิต 1 วันมาแล้ว ต้องมีการแจ้งเกิด และแจ้งตายเหมือนผู้ใหญ่ ตอนนี้เราทำพิธีฌาปนกิจศพให้ลูกเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงอยู่ไฟ

อยากจะฝากเตือนแม่ ๆ ที่กำลังท้องว่า ถึงหมอวิเคราะห์ผลการตรวจเช็คให้แล้ว แต่เราต้องเชื่อในสัญชาตญาณตัวเอง ความผิดปกติของตัวเอง ถ้ามีเลือดออกไปหาหมอไว้ก่อนเลยค่ะ มันคือสัญญาณเตือนความผิดปกติแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้น ก็ไม่อยากฟ้องร้องใคร ไม่อยากโทษใคร ขนาดหาหมอ 3 ครั้งใน 1 อาทิตย์ ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เรื่องที่เล่านี้ไม่ได้ให้โทษหมอนะคะ แต่มันเป็นแค่ความคิดของคนสูญเสีย ตอนนี้ได้แต่เฝ้าโทษตัวเองแทนที่มัวรอถามแต่หมอ ทำไมไม่ไปหาหมอตั้งแต่แรก แต่ท้องแรกความรู้ยังน้อยว่ามันคือการเจ็บท้องเตือนจะคลอด เพราะคิดแต่ว่าปวดท้องน้อยเพราะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอย่างเดียว แล้วใครจะไปคิดอีกว่า ก็เพิ่งไปหาหมอกลับมาเอง ทำไมยังคลอดอีก แต่ก็พยายามคิดซะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันถูกกำหนดมาแล้ว ก็อโหสิกรรมให้กับทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้อง

หลังจากคลอดไป 2 วัน ตอนแรกคิดว่าตัวเองคงไม่มีน้ำนม แต่ที่ไหนได้ นมคัดตึง น้ำนมไหล ได้แต่ร้องไห้ เพราะลูกยังไม่มีโอกาส แม้แต่จะได้กินนมแม่เลย เค้าก็มาเสียซะก่อน ซึ่งวันนี้ถ้าลูกยังอยู่ อายุครรภ์ก็จะครบ 7 เดือนพอดี ถึงจะผ่านไป 3 อาทิตย์แล้ว อ้อมกอดแรก และอ้อมกอดสุดท้ายระหว่างพ่อแม่ลูกในวันนั้น จะเก็บไว้เป็นความทรงจำที่มีค่าที่สุดของพ่อกับแม่ตลอดไป

บทความจากพันธมิตร
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดบ้านต้อนรับคู่รักที่มีภาวะมีบุตรยาก ชวนทำความรู้จัก คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก ที่พร้อมให้บริการแบบ One Stop Service
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
แม่ท้องอย่ามองข้าม อาการท้องผูก ในระหว่างตั้งครรภ์เสี่ยงต่อการแท้งได้จริง?
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
Attitude Mom รุ่น Galaxy II เครื่องปั๊มนม ที่คุณแม่วางใจ ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย
รีวิว IMANI i2 Plus อันดับ 1 เครื่องปั๊มนมไร้สายสุดพรีเมียม ผู้ช่วยของคุณแม่ยุคใหม่ที่ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย

น้องเป็นเด็กผู้ชายชื่อ “น้องแสนสุข” ค่ะ

ทางทีมงานดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของน้องด้วยนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ และครอบครัวด้วยค่ะ

ข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม : health.ucdavis.edu

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ท้องแก่ นอนไม่หลับ ทำไมยิ่งใกล้คลอดยิ่งนอนไม่หลับ

ขอให้หนูไปสู่ภพภูมิที่ดี! แม่ท้องแก่คลอดในรถ แต่ลูกเสียชีวิต

ท้องลมคืออะไร มีลูกแล้วแท้ง หรือไม่ได้ท้องตั้งแต่แรก

กลัวลูกออกมาไม่สมบูรณ์ สิ่งที่แม่ท้องต้องทำ ไม่ให้ลูกพิการหรือตายในท้อง

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Tulya

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • ท้อง 6 เดือน ลูกเสียชีวิต แม่โพสต์อุทาหรณ์ ต้องเชื่อสัญชาตญาณความเป็นแม่
แชร์ :
  • พัฒนาการทารก 6 เดือน ลูกเรียนรู้อะไรบ้าง ควรเสริมพัฒนาการเด็ก 6 เดือนอย่างไร

    พัฒนาการทารก 6 เดือน ลูกเรียนรู้อะไรบ้าง ควรเสริมพัฒนาการเด็ก 6 เดือนอย่างไร

  • พัฒนาการเด็ก 6 ขวบ ลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เสริมทักษะอะไรให้ลูกดี

    พัฒนาการเด็ก 6 ขวบ ลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เสริมทักษะอะไรให้ลูกดี

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • พัฒนาการทารก 6 เดือน ลูกเรียนรู้อะไรบ้าง ควรเสริมพัฒนาการเด็ก 6 เดือนอย่างไร

    พัฒนาการทารก 6 เดือน ลูกเรียนรู้อะไรบ้าง ควรเสริมพัฒนาการเด็ก 6 เดือนอย่างไร

  • พัฒนาการเด็ก 6 ขวบ ลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เสริมทักษะอะไรให้ลูกดี

    พัฒนาการเด็ก 6 ขวบ ลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เสริมทักษะอะไรให้ลูกดี

  • กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

    กรุ๊ปเลือดแม่-ลูกไม่ตรงกัน มีผลกับสุขภาพลูกด้วยหรือ?

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ไปให้กับคุณ