เจ็บท้องหลอกVSเจ็บท้องจริง แม่ท้องต้องดูยังไง
เจ็บท้องหลอก แม่ท้องดูยังไง
เจ็บท้องหลอกเป็นสัญญาณที่คุณแม่จะพบได้ในเดือนสุดท้าย เป็นการเตือนว่า การคลอดจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณ 2 – 3 สัปดาห์หรือคุณแม่บางคนอาจจะคลอดเร็วกว่านี้ก็ได้นะคะ อาการเจ็บท้องหลอก สังเกตอย่างไร
1. เจ็บท้องหลอกเกิดจากมดลูกบีบหดตัว ทำให้ปวดบริเวณท้องเท่านั้น อาการปวดจะเป็นแบบไม่สม่ำเสมอเรียกว่า เป็น ๆ หาย ๆ ความถี่หรือความเจ็บปวดจะไม่รุนแรงมากขึ้น ปวดแต่ละครั้งน้อยกว่า 50 – 80 วินาที
2. เมื่อเดิน หรือเปลี่ยนท่าจะหายปวด อาการปวดแบบนี้ยังไม่คลอดนะคะ ไม่ต้องไปโรงพยาบาล รอสัญญาณการปวดว่าจะคลอดจริง เช่น เจ็บครรภ์ประมาณ 4 ครั้งใน 1 ชั่วโมง ให้คุณแม่รอดูในชั่วโมงต่อไปว่าอาการเจ็บครรภ์ห่างออกหรือถี่ขึ้น ถ้าเจ็บท้องห่างออกไป น้อยกว่า 4 ครั้งใน 1 ชั่วโมง แบบนี้เป็นการเจ็บเตือนหรือที่เรียกว่าเจ็บหลอกเท่านั้นค่ะ
3. อาการเจ็บท้องหลอกแบบนี้ มดลูกซ้อมหดรัดตัวเพื่อเตรียมคลอดจริง ความเจ็บปวดจะคล้าย ๆ กับการปวดท้องประจำเดือนค่ะ
4. การซ้อมหดตัวของมดลูกหรือการเจ็บท้องหลอกทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวด วิธีบรรเทาอาการปวดทำได้โดย ให้นั่งลงหรือนอนตะแคง แต่ไม่ควรนอนหงายนะคะ ถ้ายังไม่หายให้นั่งขยับไปมาเบา ๆ หรือแช่น้ำอุ่น และดื่มน้ำให้เพียงพอ
5. กรณีที่เจ็บท้องหลอกแต่ไปโรงพยาบาลคุณหมอจะตรวจความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก ตรวจปัสสาวะ ตรวจภายในวัดขนาดของมดลูก ความสูงของมดลูก และตรวจภายในดูว่าปากมดลูกเปิดหรือยัง รวมทั้งสอบถามความถี่และความแรงของอาการมดลูกบีบตัว แต่ส่วนใหญ่หากไม่มีแน้วโน้มว่าจะคลอดคุณหมอมักจะให้กลับบ้านค่ะ
เรื่องน่ารู้ : ข้อควรปฏิบัติเมื่อเจ็บท้องหลอก
การเตรียมความพร้อมเอาไว้เป็นสิ่งสำคัญเพราะในช่วง 9 เดือนคุณแม่อาจคลอดได้ทุกเมื่อ ดังนั้น คุณแม่ต้องเตรียมเบอร์โทรศัพท์ของทางโรงพยาบาลไว้ หากมีอาการปวดท้องหลอก คุณแม่ควรเฝ้าดูอาการต่อไปนี้ที่แสดงว่า ที่แสดงว่าจะคลอดจริง
1. มีเลือดหรือน้ำเดินออกจากช่องคลอดหรือไม่
2. มดลูกหดเกร็งตลอดเวลา
3. ปวดหลังตลอดเวลาไม่หาย
4. รู้สึกหน่วง ๆ บริเวณช่องคลอด เพราะทารกเริ่มไหลลงช่องคลอดล้ว
5. มีตกขาวเป็นมูกเหนียว และมีเลือดปน แสดงว่าปากมดลูกเริ่มเปิด แต่อาจใช้เวลาอีกหลายวันหรือบางคนอาจจะคลอดภายในไม่กี่ชั่วโมงก็ได้
6. มีตกขาวเป็นน้ำใสแสดงว่าถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว คุณแม่เตรียมตัวคลอดเลยค่ะหากเกิดกรณีเช่นนี้
7. มีอาการปวดท้องสม่ำเสมอ และเจ็บท้องขึ้นเรื่อย ๆแสดงว่ามดลูกบีบตัวใกล้คลอดแล้วหละคะเตรียมกระเป๋ามุ่งสู่โรงพยาบาลเลย
เจ็บท้องหลอกVSเจ็บท้องจริง แม่ท้องต้องดูยังไง
เจ็บท้องจริง แม่ท้องดูยังไง
ได้ทราบแล้วว่าเจ็บท้องหลอกเป็นมีอาการยังไงนะคะ ที่นี้มาดูเจ็บท้องจริงไม่อิงนิยาย!!! อาการเริ่มต้นเรียงลำดับมาเลยนะคะ
1. คุณแม่จะมีอาการอึดอัด กล้ามเนื้อเกร็งทุก ๆ 5 – 10 นาที
2. ปวดหลังและปวดท้องมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกพักก็ไม่ทุเลาลง เมื่อเริ่มปวดท้องให้ลองจับเวลาดูว่าตั้งแต่เริ่มปวดท้องจนปวดครั้งแต่ไป จะพบว่า มีอาการปวดสม่ำเสมอ ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง เจ็บครรภ์ 5 ครั้งขึ้นไป คือ เจ็บท้องทุก ๆ 10 – 15 นาที ปวดท้องถี่ ๆ สม่ำเสมอ มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ปวดแต่ละครั้งนาน 30 – 70 วินาที
3. เมื่อเอามือคลำท้องจะพบว่าท้องแข็งเนื่องจากมดลูกแข็งตัว หากคุณแม่เคลื่อนไหวจะปวดมากขึ้น มดลูกจะบีบตัวถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนปวดทุก 2 – 3 นาที และเมื่อไหร่ที่การบีบตัวของมดลูกบีบตัวประมาณ 45 วินาที ชัดเลยค่ะ คุณแม่ใกล้คลอดเต็มที่แล้วนั่นเอง
4. เริ่มมีเมือกเหนียวสีชมพูออกแดงอ่อน ๆ ที่เกิดจากเส้นเลือดฝอยที่ปากมดลูกฉีกขาด
5. สิ่งยืนยันว่าคลอดแน่ !!! ถุงน้ำคร่ำแตก แบบนี้ไปโรงพยาบาลด่วนเลยค่ะให้ทันภายใน 24 ชั่วโมง
จุดสังเกตเจ็บท้องคลอดจริง
1. ตำแหน่งที่ปวด คือ บริเวณหลังหรือบั้นเอว ร้าวมาทางหน้าท้องและลงไปถึงต้นขา ขณะที่มีการหดรัดตัวของมดลูก
2. มีน้ำเดิน คือ ถุงน้ำคร่ำแตกหรือรั่วออกมาทางช่องคลอด มีได้ 2 ลักษณะ คือ มีน้ำใส ๆ อุ่น ๆ อาจมีเลือดปนออกมาจำนวนมากจนเปียกชุ่ม
3. อีกลักษณะหนึ่ง คือ น้ำซึมออกมาจากช่องคลอดแต่มีปริมาณไม่มากแต่ซึมออกมาอยู่ตลอดค่ะ เวลาเคลื่อนไหวจะมีน้ำไหลออกมามากขึ้น เมื่อมีน้ำเดินจะมีอาการเจ็บท้องมากขึ้น
4. หากมีอาการน้ำเดินไม่ว่าคุณแม่จะเจ็บท้องหรือไม่ก็ตามต้องรีบไปโรงพยาบาลทันทีนะคะ บางครั้งน้ำคร่ำสีเข้มขึ้นเป็นสีออกเขียวหรือน้ำตาล ที่เป็นสีเช่นนี้เพราะมีขี้เทาของทารกน้อยในครรภ์ของทารกปนออกมาด้วย
5. ขี้เทา คือ สิ่งที่อยู่ในลำไส้ของทารกในครรภ์ หรืออาจหมายถึง ภาวะที่ที่ทารกขาดออกซิเจน ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวรวมถึงหูรูดของทวารหนักคลายตัวด้วย จึงทำให้มีขี้เทาปนออกมากับน้ำคร่ำได้
6. มีมูกเลือดปนออกมาทางช่องคลอด แบบนี้แสดงว่าปากมดลูกเริ่มเปิดและขยายออกจนเยื่อหุ้มทารกในครรภ์แยกออกจากผนังมดลูกส่วนล่างจนทำให้มีเลือดไหลซึมออกมาปนกับมูกออกมาทางช่องคลอด
7. อาการที่กล่าวมานี้มักจะเกิดก่อนการคลอดเป็นวัน ๆ ถ้าไม่มีการบีบรัดตัวของมดลูกร่วมด้วย คุณหมอมักจะทำการเร่งคลอดค่ะ
บทความแนะนำ เรื่องน่ารู้ วิธีการเร่งคลอดมีอะไรบ้าง
เรื่องน่ารู้ : ข้อควรปฏิบัติเมื่อเจ็บท้องจริง
1. ควรงดมีเพศสัมพันธ์ในระยะ 2 สัปดาห์ใกล้คลอด
2. จดจำเวลาเริ่มเจ็บท้องจริง มีมูกหรือเลือดออก และเวลาที่น้ำเดิน
3. สังเกตลักษณะของน้ำคร่ำ
4. ก่อนจะไปโรงพยาบาลควรอาบน้ำ สระผม ทำความสะอาดร่างกาย
5. เตรียมเอกสารสำคัญต่าง ๆ บัตรประจำตัวโรงพยาบาล สมุดฝากครรภ์และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่จำเป็นมาโรงพยาบาล
6. หากคุณแม่เคยผ่าท้องคลอด ควรงดน้ำและอาหาร หรือถ้าหิวก็ควรจิบน้ำเพียงเล็กน้อยได้
อาการผิดปกติที่คุณแม่ควรมาพบคุณหมอทันที
1. เจ็บท้องคลอดหรือน้ำเดินก่อนครรภ์ครบกำหนด
2. ทารกดิ้นน้อยลงหรือไม่ดิ้นเลย หรือดิ้นรุนแรงแล้วหยุดดิ้น
3. มีเลือดออกทางช่องคลอด
4. มีอาการผิดปกติอย่างอื่น เช่น บวมมาก ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว
5. ถุงน้ำคร่ำแตกหรือรั่วก่อนกำหนดคลอด
ได้ทราบกันแล้วนะคะคุณแม่สำหรับวิธีสังเกตอาการเจ็บท้องหลอก เจ็บท้องจริง ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณแม่จะคลอดแน่ ๆ แล้ว หรือถ้าไม่มั่นใจจริง ๆ ก็โทรศัพท์ไปปรึกษากับทางโรงพยาบาลก่อนก็ได้นะคะ เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยของคุณแม่ค่ะ
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
เอกสารเจ้าตัวน้อย คู่มือคุณแม่ตั้งครรภ์คุณภาพอายุครรภ์ 1 เดือน ถึง 9 เดือน
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
การทำงานของมดลูกตั้งแต่เจ็บครรภ์จนคลอด
แม่รู้ไหม!!ยอดมดลูกบ่งบอกขนาดทารกในครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!