คุณมองเห็น รูปปีศาจ ในภาพอัลตร้าซาวนด์นี้หรือเปล่า?
luigivampa-over9000 ผู้อัพโหลดรูปภาพนี้บน Imgur ระบุว่าเขาเป็นเพื่อนกับคุณแม่เจ้าของภาพอัลตร้าซาวด์นี้ และจากสิ่งที่เห็น ทำให้เขาคิดว่า แม่ของเด็กอาจกำลังอุ้มท้องเด็กปีศาจอยู่ก็เป็นได้ เนื่องจากในภาพนั้นปรากฎ รูปปีศาจ
หากคุณเชื่อเรื่องนี้ บางทีนี่อาจเป็นการเตือนให้เรารู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ในทุกๆ วัน
แต่หากคุณคิดว่า รูปปีศาจ และเทวดานางฟ้า เป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ นี่อาจจะเป็นแค่ความบังเอิญที่ตรงกับจินตนาการของเราเท่านั้น
แล้วคุณล่ะคะ คิดอย่างไรกับภาพนี้?
15 ความเชื่อ VS ความจริงของแม่ตั้งครรภ์
1. น้ำมะพร้าวอ่อน
ความเชื่อ : มะพร้าวอ่อนกับแม่ท้องดูจะเป็นสิ่งที่คู่กันมาแต่โบร่ำโบราณ คนเฒ่าคนแก่ ตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ล้วนแล้วแต่ต้องดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนตอนท้องกันทั้งสิ้น เพราะเชื่อกันว่าเด็กออกมาจะมีผิวขาวสวย ไม่มีไขติดตัวให้ขัดตา
ความจริง : มะพร้าวอ่อนจัดเป็นผลไม้ที่มีความบริสุทธิ์และมีแร่ธาตุมากมาย ทั้งธาตุเหล็ก โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม วิตามินบี น้ำตาลกลูโคส ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษ นอกจากนี้ในน้ำมะพร้าวอ่อนยังมีเอสโตรเจนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณปรับสมดุลให้ ร่างกาย ด้วยเหตุผลนานาประการที่กล่าวล้วนเป็นประโยชน์สำหรับแม่ตั้งครรภ์ แต่ในทางการแพทย์ยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่าการรับประทานน้ำมะพร้าวจะส่งผลให้เด็กในครรภ์มีผิวขาวสดใส ไม่มีไขมันติด ผิวหนังเมื่อคลอดออกมา โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีภาวะโรคเบาหวานต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อนจะดื่มนะคะ
2. กล้วยน้ำว้า
ความเชื่อ : การกินกล้วยน้ำว้าทำให้คลอดยาก เพราะกินกล้วยน้ำว้าจะ ทำให้เด็กตัวใหญ่
ความจริง : คุณคัทรินทร์ ปิยะวาทวงศ์ นักโภชนาการโรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ให้ความเห็นในเรื่องการกินกล้วยน้ำว้า ดังนี้ “กล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สาเหตุที่คนโบราณห้าม ไม่ให้กินนั้นน่าจะมีหลายสาเหตุ เช่น กลัวเด็กจะตัวโต เพราะในสมัยก่อยังไม่มีการผ่าตัดคลอด หากเด็กในท้องอ้วนสมบูรณ์เกินไปก็จะเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก อีกอย่างหนึ่ง ในกล้วยสุกจะหวานและมีแป้งมาก กินสองสามลูกก็จะรู้สึกอิ่มทำให้ไม่อยากกินอย่างอื่น อาจเกิดการขาดสารอาหารได้ นอกจากนี้การกินกล้วยห่ามหรือกล้วยไม่สุก จะเกิดอาการท้องผูกได้ค่ะ”
บทความแนะนำ : รู้ก่อนใช้สมุนไพรสำหรับแม่ท้อง
3. เนื้อวัว
ความเชื่อ : การกินเนื้อวัวจะทำให้เด็กที่เกิดมามีไขติดตามตัวมากและล้างออกได้ยาก
ความจริง : แม่ตั้งครรภ์ไม่ได้มีข้อห้ามไม่ให้กินเนื้อวัว แต่ควรระมัดระวังเพราะส่วนใหญ่การรับประทานเนื้อวัวมักจะชอบรับประทานส่วนที่ติดมัน อาจทำให้คุณแม่อ้วนได้ค่ะ”
4. หอย
ความเชื่อ : แม่ตั้งครรภ์ห้ามกินหอยเพราะเชื่อว่าเวลาคลอดจะมีกลิ่นคาวมากและคลอดยากเหมือนหอยที่ติดอยู่ในเปลือก
ความจริง : หอยเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยไอโอดีน ซึ่งแม่ท้องสามารถรับประทานได้และเป็นการเสริมสร้างไอโอดีนให้แก่ทารกในครรภ์ด้วยค่ะ แต่การรับประทานหอยนางรมไม่ควรจะรับประทานมากหรือรับประทานสด ๆ เพราะในหอยนางรมมีคอเรสเตอรอลสูงไม่เหมาะกับแม่ตั้งครรภ์ค่ะ
บทความแนะนำ : 8 อาหารเสริมแคลเซียมสำหรับคนท้องที่ไม่ชอบดื่มนม
5. ผักเครือ เถา
ความเชื่อ : โดยเฉพาะในท้องถิ่นทางภาคเหนือ มีความเชื่อกันว่าจะทำให้แม่ท้องปวดแข้งปวดขามากกว่าปกติ
ความจริง : ความเชื่อนี้มีส่วนถูกต้องอยู่บ้าง คุณคัทรินทร์ ปิยะวาทวงศ์ นักโภชนาการโรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ให้ความเห็นในเรื่อง การรับประทานผักเป็นเครือเป็นเถาไว้ว่า “การรับประทานผักที่เป็นเครือเป็นเถานั้น โดยเฉพาะในยอดอ่อนจะมีสาร purin สูง ซึ่งสารนี้เมื่อย่อยแล้วจะกลายเป็นกรดยูริก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเก๊าท์ได้
บทความแนะนำ : รู้เรื่องปวดหลังระหว่างตั้งครรภ์
6. การเย็บปักถักร้อย
ความเชื่อ : ห้ามแม่ตั้งครรภ์การเย็บปักถักร้อยจะทำให้ลูกปากแหว่งเพดานโหว่
ความจริง : น่าจะเป็นไปได้ว่า คนโบราณท่านเป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยมากกว่า เพราะ การเย็บปักถักร้อยต้องก้ม ๆ เงย ๆ อาจทำให้หน้ามืด วิงเวียนศีรษะและอาจเป็นลมได้ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายสำหรับแม่ท้อง
สำหรับอาการปากแหว่งเพดานโหว่ของเด็กทารกแรกเกิดนั้นยังไม่มีผลการวิจัยที่ยืนยันชัดเจนว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่มีการศึกษาว่า บางส่วนเกิดจากการพัฒนาของตัวอ่อนในช่วง 3 เดือนแรกมีความผิดปกติเกิดขึ้น และอีกงานวิจัยหนึ่ง คือ แม่ท้องที่สูบบุหรี่จะมีผลทำให้ลูกปากแหว่งเพดานโหว่มากกว่าแม่ท้องที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 3 เท่า
บทความแนะนำ : บุหรี่มหันตภัยร้ายต่อลูกในครรภ์
7. กินเฉาก๊วยลูกผิวดำ กินมะพร้าวลูกผิวขาว
ความเชื่อ : ห้ามหญิงตั้งครรภ์กินของดำไม่เฉพาะเฉาก๊วยเท่านั้นนะคะ จำพวกซีอิ๋วดำ กะละแม หรืออะไรก็ตามที่มีสีดำ คนท้องห้ามกินทั้งนั้นเดี๋ยวลูกจะผิวดำ
ความจริง : อาหารไม่ได้มีผลกับผิวพรรณของทารกในครรภ์แต่อย่างใด เพราะสีผิวขึ้นอยู่กับเม็ดสีที่เป็นไปตามกรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคล ถ้าครอบครัวใดมีผิวขาว อย่างเช่นครอบครัวคนจีน ยังไง ๆ ก็ไม่มีวันดำได้หรอกค่ะ ดังนั้น เรื่องของผิวเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ค่ะไม่เกี่ยวกับอาหารดำแต่อย่างใด
บทความแนะนำ : อยากให้ลูกผิวสวย ผิวขาว ทำอย่างไรให้ลูกผิวดี?
8. คุณแม่ใบหน้าผ่องใสลูกจะออกมาเป็นหญิง
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อกันว่าหญิงตั้งครรภ์คนใดที่มีใบหน้าผ่องใสจะได้ลูกสาว หากมีใบหน้าหมองคล้ำจะได้ลูกชาย
ความจริง : แม่ตั้งครรภ์จะมีฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง แต่ละคนก็เปลี่ยนแปลงไม่เหมือนกัน บางคนหน้าเป็นสิว เป็นฝ้า มีผดผื่นขึ้นตามคอ บ่า ไหล่ บางคนมีรักแร้ดำ บางคนผิวคล้ำทั้งตัว แล้วแต่ใครจะเป็นอะไรมันขึ้นอยู่กับฮอร์โมนในร่างกายซึ่งไม่เหมือนกันไม่เกี่ยวกับเพศของลูกแต่อย่างใดข้อนี้
ขอยกตัวอย่างประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเอง ผู้เขียนเองก็มีลูกสาวสองคน ซึ่งตอนท้องลูกสาวคนแรกหน้าตาผ่องใสทุกคนทักกันเป็นเสียงเดียวว่าลูกสาวแน่ ๆ เพราะตรงตามตำราโบราณเป๊ะ!! แต่พอท้องคนที่สองหน้าตาหมองคล้ำ สิวขึ้น ผดผื่นขึ้นตามคอ ไหล่ บ่าเต็มไปหมด ก็ทักเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกชาย ชัวร์?? สรุปก็ลูกสาวอีกนั่นแหละค่ะ ไม่มีอะไรแน่นอนจริง ๆ ข้อนี้ความเชื่อก็คือความเชื่อค่ะ
9. ท้องแหลม ท้องกลม
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อกันในเรื่องรูปร่างลักษณะของท้อง คือ ท้องแหลมเชื่อกันว่าจะได้ลูกชาย ท้องกลมจะได้ลูกสาว หรือดูแม้กระทั่งสะดือจุ่นจะได้ลูกชาย สะดือคว่ำจะได้ลูกสาว
ความจริง : เรื่องนี้น่าจะเป็นเพียงความเชื่อค่ะ เพราะรูปร่างหรือลักษณะของท้องท้องเล็ก ท้องใหญ่ ท้องกลม ท้องแหลมอันนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของมดลูกของแต่ละคนค่ะ รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่ด้วย ดังนั้น เพศของลูกไม่อาจดูได้จากลักษณะของท้องแต่อย่างใด แม้แต่ผู้เขียนเองตอนท้องลูกสาวคนแรกสะดือจุ่นจนยื่นออกมา มีแต่คนทักว่าท้องนี้ได้ลูกชายชัวร์ แต่ก็ออกมาเป็นลูกสาว เพราะฉะนั้นรูปร่างของท้องไม่สามารถบอกเพศได้จริง ๆ ค่ะ ฟันธง!
10. นอนมากจะทำให้คลอดยาก
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อว่า หากแม่ท้องนอนมาก ๆ บางคนนอนทั้งวัน ก็เลยขู่ว่า หากนอนมาก ๆ จะทำให้คลอดยาก
ความจริง : การคลอดลูกนั้นถือเป็นกลไกตามธรรมชาติ การคลอดลูกยากหรือคลอดง่ายนั้นมีปัจจัยประกอบหลายประการ เช่น หากคุณแม่อ้วน หรือเด็กตัวใหญ่ก็ทำให้คลอดยาก เป็นต้น การนอนมากทำให้ไม่ได้ออกกำลังกาย ร่างกายไม่ได้มีการเคลื่อนไหว ซึ่งการออกกำลังกายนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนท้องอีกประการหนึ่ง เพราะจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง คนโบราณจึงออกอุบายว่าไม่ควรนอนมาก เพราะจะทำให้คลอดยาก เพราะคงต้องการให้คนท้องได้ออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้สุขภาพแข็งแรงทั้งแม่และลูกมากกว่าค่ะ
11. ห้ามไปงานศพ
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อกันว่าแม่ตั้งครรภ์ห้ามไปงานศพ เพราะเดี๋ยวผีจะเข้าท้อง มาดูกันค่ะว่าความจริงเป็นเช่นไร
ความจริง : งานศพ ถือเป็นงานที่ทำให้เกิดความเศร้าโศกเสียใจ เศร้าหมอง เพราะเป็นการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักหรือบุคคลที่เรารู้จักมักคุ้น ซึ่งก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ควรหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ข้อนี้ถือเป็นอุบายของคนในสมัยโบราณมากกว่าเพราะเตือนกันเฉย ๆ อาจจะไม่เชื่อ ดังนั้น จึงออกอุบายว่าเดี๋ยวผีจะมาสิง เพียงเท่านี้ก็ไม่ไปงานศพกันแล้ว
บทความแนะนำ : ทำไมคนท้องต้องติดเข็มกลัด?
12. ห้ามนั่งขวางบันได
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อกันว่า นั่งขวางบันไดจะทำให้คลอดยาก อันนี้ผู้เขียนเองยังถูกคุณแม่ดุมาแล้วเพราะไปนั่งขวางบันไดโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้บรรดาคุณแม่ตั้งครรภ์กลัวกันนักกันหนาไม่กล้านั่งขวางบันไดเด็ดขาด
ความจริง : บ้านไทยในสมัยก่อน มักจะปลูกสร้างเป็นบ้านชั้นเดียวที่ยกใต้ถุนสูง ทำให้ทางขึ้นบันไดบ้านค่อนข้างชัน ถ้าหากคนท้องหรือไม่ท้องก็ตามไปนั่งก็มีโอกาสพลัดตกบันไดลงมาได้ โดยเฉพาะแม่ท้องรูปร่างอุ้ยอ้ายการทรงตัวในการเดิน ยืน นั่งก็ไม่มั่นคงเท่าที่ควรจึงมีโอกาสที่จะพลัดตกลงมาได้ง่าย สิ่งนี้จึงเป็นการตักเตือนแกมขู่ทั้งนี้ก็เพราะความเป็นห่วงเป็นใยแม่ท้องนั่นเอง
บทความแนะนำ : การปฏิบัติตัวของคนท้อง : ยืน เดิน นั่ง นอน อย่างไรให้ถูกต้อง
13. ห้ามนอนหงาย
ความเชื่อ : คนโบราณเชื่อกันว่า หากแม่ตั้งครรภ์นอนหงายจะทำให้รกติดหลังและมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ หรือถ้าคนท้องนอนหงายลูกในท้องดิ้นแรงจะทำให้แม่ท้องแตกตาย น่ากลัวจริง ๆ ค่ะกับความเชื่อนี้
ความจริง : พ.อ.ดาราพงศ์ ลังกาฟ้า สูตินรีแพทย์ ได้ให้คำตอบในเรื่องนี้ว่า “เป็นการเข้าใจผิดของคนในสมัยก่อน ซึ่งไม่มีความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับรกในร่างกาย ซึ่งรกจะไม่ติดกับหลังของเราเพราะรกอยู่ในมดลูก รกจะเกาะติดด้านหน้าหรือด้านหลังของมดลูกก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น ที่จะมีอันตรายคือ ในเรื่องของรกเกาะต่ำ โดยรกจะมาเกาะด้านล่างบริเวณปากมดลูก ทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอดได้ รกไปเกาะที่ใดไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่านอน สำหรับคนท้องการนอนตะแคงจะเป็นท่านอนที่ดีที่สุด การนอนหงายในช่วงอายุครรภ์หลัง ๆ จะทำให้มดลูกไปกดทับเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งอยู่ด้านหลังของมดลูก มีผลทำให้ความดันโลหิตต่ำลงและเลือดไปหล่อเลี้ยงมดลูกน้อยลง อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อแม่ละเด็กได้”
บทความแนะนำ : คนท้องนอนท่าไหน ปลอดภัย ไม่ทับลูก
14. มองดูรูปเด็กน่ารัก ลูกคลอดออกมาจะน่ารัก
ความเชื่อ : เชื่อกันว่า แม่ตั้งครรภ์ต้องดูภาพเด็กทารกที่หน้าตาน่ารัก ลูกที่คลอดออกมาจะได้น่ารัก
ความจริง : เรื่องนี้ยังไม่มีผลการวิจัยทางการแพทย์ใด ๆ ออกมายืนยัน แม่ตั้งครรภ์ควรจะมีอารมณ์ดี ไม่ควรเครียดเพราะจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ดังนั้น การได้ดูได้ชมอะไรที่สวย ๆ งาม ๆ น่าจะเป็นสิ่งดีทำให้อารมณ์ดี ทารกที่คลอดออกมาจะได้มีอารมณ์ดีไม่งอแงยังไงล่ะคะ
15. ห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของในห้องนอน
ความเชื่อ : ห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของในห้องนอนโดยเฉพาะตู้ โต๊ะ เตียง เพราะจะทำให้แท้งบุตรหรือบุตรออกมาพิการได้
ความจริง : ความเชื่อนี้เรียกว่าเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณก็ว่าได้ เพราะหากคุณแม่ไปยก ย้าย สิ่งของต่าง ๆ ภายในห้องนอนหรือในบ้านก็ตาม อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ทางที่ดีไม่ควรยก ย้ายหรือทำสิ่งใดด้วยตนเองให้คุณพ่อช่วยจะดีที่สุดค่ะ
ความเชื่อ ความจริง ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์อยู่นั้น แม้จะมีมากหมายหลากหลายความเชื่อก็ตาม ขอให้อยู่บนพื้นฐานของหลักความจริงและหลักทางวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามความเชื่อนั้นไม่ได้มีผลเสียหายไปทุกอย่างนะคะ ดูว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่ อย่างน้อยก็ทำให้คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย สบายใจขึ้นนั่นเอง
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก : หนังสือ “เกร็ดความรู้สู่คุณภาพครรภ์” มิ่งขวัญ ลิรุจประภากร ผู้เขียน
ที่มา metro.co.uk
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
เชื่อหรือไม่? เมื่อนางฟ้าปรากฏตัวหน้าห้องผู้ป่วย เธอก็ฟื้นจากวาระสุดท้ายของชีวิต
ความหมายอักษรย่อในใบตรวจอัลตร้าซาวด์