รู้จัก & เข้าใจ “สมาธิ”
สมาธิเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสามารถทางสติปัญญา ช่วยให้สมองของลูกน้อยพัฒนาได้ดี ให้ลูกมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ เมื่อลูกมีสมาธิและได้ลงมือทำ สมองส่วนกลางที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับสมาธิและความสนใจจะได้รับการกระตุ้น มีการบันทึกจดจำ ความรู้ต่างๆ ไว้อย่างแม่นยำ เกิดเป็นการเรียนรู้และความจำที่ช่วยให้ลูกน้อยมีสติปัญญาที่ดีระบบสมองก็พัฒนาได้เต็มที่และมีประสิทธิภาพ
สมาธิจุดเริ่มต้นการเรียนรู้ของลูก
คุณพ่อคุณแม่สามารถเสริมสร้างสมาธิให้ลูกได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นจากการมอบความรัก ความเข้าใจและส่งเสริมพัฒนาการตามช่วงวัยของลูกอย่างเหมาะสม ด้วยปัจจัยสำคัญ 4 ด้านเพื่อให้ลูกฉลาดลึก เรียนรู้ไว สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
ด้านที่ 1 โภชนาการสร้างเสริมสมองและสมาธิ
เริ่มจากในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องได้รับสารอาหารที่เหมาะสม นอกจากสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่แล้ว ยังมีสารอาหารที่ต้องรับประทานเพิ่ม คือ DHA และ ARA และที่ขาดไม่ได้คือ โคลีน (Choline) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างหลักของเซลล์สมองของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์ โคลีนมีหน้าที่ในการช่วยสื่อสัญญาณระหว่างเซลล์และประสาท ซึ่งเป็นสารบำรุงตัวสื่อข้อมูลด้านความจำ และช่วยเสริมสร้างสมองส่วนกลางที่ทำหน้าที่ควบคุมด้านสมาธิ ความสนใจ และการเรียนรู้ ส่งผลให้ลูกของคุณแม่มีระบบการทำงานของสมองที่ดีเกิดการเรียนรู้และจดจำ สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาความฉลาดได้ในอนาคต
ด้านที่ 2 ฟังเพลงเสริมสมองเพิ่มสมาธิ
จอร์จิ โลซานอฟ (Georgi Lozanov) นักวิจัยระดับโลกแห่งมหาวิทยาลัยโซเฟีย ได้ค้นพบว่า เพลงที่มีจังหวะสอดคล้องการกับเต้นของหัวใจของทารก ก่อให้เกิดการเรียนรู้ สมาธิและเพิ่มความสามารถด้านการจดจำได้อีกด้วย ซึ่งดนตรีและเพลงบรรเลงที่เข้ากับการเต้นของหัวใจ ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงคลาสสิกหรือเพลงบรรเลงต่างๆ เช่น เพลงของโมสาร์ท เมื่อลูกได้ฟังเพลงที่มีจังหวะช้าๆ สม่ำเสมอ เป็นดนตรีที่มีโครงสร้างหลากหลายเข้ากับการเต้นของหัวใจ
บทความแนะนำ โมสาร์ท VS คลาสสิคเพลงแนวไหนสร้างลูกให้ฉลาดตั้งแต่ในครรภ์
เมื่อร่างกายจะผ่อนคลายสมองก็จะผ่อนคลายตามไปด้วย เมื่อสมองผ่อนคลายจะปล่อยคลื่นสมองระดับอัลฟ่า Alpha Brainwave ส่งผลให้สมองเกิดความสงบ (relaxation) แต่อยู่ในภาวะที่รู้สึกตัว สภาวะนี้จะทำให้รับข้อมูลได้ดีที่สุด สามารถเรียนรู้ได้ดี (superlearning) เข้าถึงและเรียกความจำได้ง่ายและรวดเร็ว สมองสามารถเปิดรับข้อมูลได้อย่างเต็มที่และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นสภาวะที่จิตมีประสิทธิภาพสูง
สำหรับเพลงที่ช่วยพัฒนาสมองลูกแม่อย่างเรา ๆ อาจจะไม่ชอบฟังโมสาร์ท คลาสิคสักเท่าไหร่ ไม่เป็นไรค่ะ ฟังเพลงบรรเลงของไทยเรานี่แหละ หรือเพลงที่มีเสียงของธรรมชาติน้ำตก สายน้ำ เสียงนกร้อง อย่างผู้เขียนเองช่วงที่ท้องเพลงที่จะชอบฟังประจำ คือ เพลงบรรเลงขิมค่ะ ฟังจนลูกคลอดออกมาก็ยังชอบเปิดให้ฟัง ได้ผลดีเช่นกันค่ะ ลองหามาเปิดฟังกันดูนะคะ
คลิปเพลงบรรเลงขิม By ครูอ้อม
ด้านที่ 3 การเล่นเสริมสร้างสมองและสมาธิ
คุณพ่อคุณแม่ต้องทำงาน เช่นเดียวกับลูกซึ่งยังอยู่ในวัยเด็กการทำงานของเขาคือ การเล่นค่ะ เพราะการเล่นช่วยพัฒนาเซลล์สมองให้เจริญเติบโต สมองส่วนที่ควบคุมความสนใจจากการที่ลูกจับต้อง สัมผัส และใช้สายตา กระตุ้นการแผ่ขยายของเส้นใยสมองให้ลูกจดจำ และเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการฝึกสมาธิจากการเล่นกับของเล่นชิ้นใดชิ้นหนึ่งได้เป็นเวลานาน ให้ลูกเล่นของเล่นทีละอย่างนะคะ และที่สำคัญต้องเลือกของเล่นให้เหมาะสมกับวัย เช่น บล็อกไม้ ต่อเชือก เลโก้ ที่จะสามารถช่วยฝึกฝนสมาธิให้ลูกได้อย่างดี
บทความแนะนำ สร้างพัฒนาการลูกด้วยการเล่นและเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ
ด้านที่ 4 สื่อภาษา พัฒนาสมองและสมาธิ
หากคุณพ่อคุณแม่พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ อ่านหนังสือให้ลูกฟังสม่ำเสมอ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาสมองของลูกได้อย่างดี เพราะเวลาที่คุณพ่อคุณแม่พูดคุยกับลูกนั้น เสียงที่เปล่งออกมาจะทำให้ลูกได้ใช้ประสาทสัมผัส ตาจ้องมอง หูฟัง ปากได้พูดตาม เกิดกระบวนการเรียนรู้และจดจำถ้อยคำ เรื่องราวต่าง ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่อ่านให้เจ้าหนูฟัง ถือเป็นการฝึกสมาธิจากการที่ลุกจ้องมองปาก ตา สีหน้า ท่าทางต่าง ๆ ของพ่อแม่ สมองของลูกจะจดจำและบันทึกข้อมูลเก็บไว้ ลูกจะสามารถพูดและทำในสิ่งที่พ่อแม่เคยสอนไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ ลองดูนะคะ
ได้เห็นความสำคัญของสมาธิจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้แล้วใช่มั๊ย โยเฉพาะคุณแม่คนใดที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์บำรุงเลยค่ะ นอกจากอาหารครบ 5 หมู่ เสริม DHA ARA และโคลีน จะช่วยพัฒนาเซลล์สมองของทารกตั้งแต่ในครรภ์ได้ เมื่อคลอดออกมาก็กระตุ้นพัฒนาการของเจ้าหนู เช่น การพูดคุย การฟังเพลง การอ่านหนังสือ การเล่น ทุกอย่างควรเป็นไปตามพัฒนาการของช่วงวัย เพียงเท่านี้รับรองว่าลูกของคุณแม่ต้องเป็นเด็กที่เก่ง ดีและมีความสุข มีความสามารถในการจดจำและการเรียนรู้ได้อย่างดี
ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://women.sanook.com
https://m.care.co.th
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
สมาธิสั้นแท้ VS สมาธิสั้นเทียม ต่างกันอย่างไร
แม่ท้องฝึกสมาธิดีต่อพัฒนาการทารกในครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!