รวม คลิปผ่าคลอด ซูมชัด ๆ ขณะทารกโผล่ออกมาจากท้อง

ชม คลิปผ่าคลอด เด็กทารก มหัศจรรย์แห่งสิ่งมีชีวิต สีหน้าอันเปี่ยมสุขของผู้เป็นแม่ ที่บ่งบอกถึงความปิติ

คลิปผ่าคลอด …คลิปเหล่านี้อยู่ใน Instagram ของคุณหมอ Jham frank lugo แสดงให้เห็นถึงวินาทีชีวิต คลิปผ่าคลอด ที่ทารกตัวน้อยๆ โผล่มาจากท้องของคุณแม่ บางคลิปทารกเหมือนไม่รู้ตัวเลยว่าออกมาแล้ว บางคลิปเห็นหน้าทารกชัด อดไม่ไหวที่จะลุ้นให้เจ้าตัวน้อยออกมา อย่ารอช้า ไปดู คลิปผ่าคลอด กันเลย!

 

รวมลิสต์ คลิปผ่าคลอด ซูมชัด ๆ

www.instagram.com/p/BTPvMbDjYdW/?taken-by=fertilugo

คลิปผ่าคลอด สีหน้าทารกวินาทีออกมาจากท้องแม่

www.instagram.com/p/BTOqkXSjrFT/?taken-by=fertilugo

คลิปนี้แสดงให้เห็นตั้งแต่วินาทีที่หัวทารกโผล่ จนออกมาได้อย่างง่ายดาย

www.instagram.com/p/BTGza2DjhwM/?taken-by=fertilugo

เหมือนยังไม่รู้ตัวว่าคลอดออกมาแล้ว

www.instagram.com/p/BSqPZX6DrXR/?taken-by=fertilugo

มหัศจรรย์แห่งการมีชีวิต

 

เด็กผ่าคลอด กับเด็กคลอดธรรมชาติ มีพัฒนาที่แตกต่างกันจริงหรือ 

ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการแพทย์นั้นมีความทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น จึงทำให้การผ่าคลอดเป็นทางเลือกในการคลอดบุตรที่ได้รับความนิยมจากคุณแม่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีประเด็นเกี่ยวกับเด็กผ่าคลอดมากมายที่ชวนให้คุณแม่เป็นกังวลและสงสัย เช่น เรื่องความแตกต่างด้านพัฒนาการระหว่างเด็กผ่าคลอด กับเด็กธรรมชาติ ที่เรามักจะได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า เด็กผ่าคลอดนั้นอาจมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ ซึ่งข้อความนี้มีทั้งส่วนที่เป็นจริง และมีบางเรื่องที่คุณแม่ผ่าคลอดยังไม่รู้เหตุผล ในวันนี้เราจึงอยากอธิบายให้คุณแม่ฟัง และได้สบายใจกันมากขึ้นค่ะ พัฒนาการของเด็กผ่าคลอด

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ ผ่าคลอดท้องแรก แต่คลอดธรรมชาติท้องสอง ทำได้หรือ?

 

เด็กผ่าคลอด เสี่ยงป่วยบ่อย ป่วยง่าย

สิ่งแรกที่คุณแม่ผ่าคลอดควรรู้ นั่นก็คือเด็กผ่าคลอดนั้น มีโอกาสเสี่ยงขาดภูมิต้านทานและมีโอกาสเจ็บป่วยง่ายกว่าเด็กคลอดธรรมชาติมากถึง 20% เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสได้รับภูมิต้านทานตั้งต้น ซึ่งก็คือ จุลินทรีย์สุขภาพ โพรไบโอติก ( Probiotic ) ที่อาศัยอยู่ในบริเวณช่องคลอดของแม่ และเด็กคลอดธรรมชาติ จะได้รับจุลินทรีย์เหล่านี้จากช่องคลอดแม่ในระหว่างคลอดออกมานั่นเอง จุลินทรีย์สุขภาพ โพรไบโอติก จะช่วยในการพัฒนาภูมิต้านทานของลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด และเมื่อเด็กผ่าคลอดขาดโอกาสได้รับจุลินทรีย์เหล่านี้ก็อาจมีโอกาสป่วยบ่อย และส่งผลให้พัฒนาการของเขานั้น อาจจะสะดุด หรือล่าช้ากว่าที่ควรได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะคุณแม่ เพราะเราสามารถเร่งคืนภูมิต้านทานให้ลูกน้อยผ่าคลอดได้ค่ะ

 

คลิปผ่าคลอด คลิป ผ่า คลอด

ดูแลตัวเองหลังการผ่าคลอด

อย่างไรก็ตาม การคลอดด้วยวิธีการผ่านั้น คุณแม่จะฟื้นตัวได้ช้า กว่าการคลอดธรรมชาติ โดยมีวิธีการดูแลรักษาแผลผ่าคลอด ดังนี้

 

คลิป ผ่า คลอด

 

วิธีดูแลแผลผ่าคลอด

สำหรับการดูแลแผลผ่าท้องคลอดนั้น มีวิธีการดังนี้

1. หลังผ่าตัดได้ 1 วัน คุณหมอจะเริ่มให้คุณแม่เริ่มลุกนั่งและเดินได้ เพิ่อลดการเกิดพังพืดในช่องท้อง และลดอาการท้องอืด ในวันแรกคุณแม่จะยังเจ็บแผลอยู่ แต่ก็จะต้องพยายามขยับตัวและเดินบ่อย ๆ

2. อาการปวดแผล คุณแม่สามารถทานยาแก้ปวดตามที่คุณหมอส่งได้ และการใช้ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด จะช่วยลดอาการปวดแผลลงได้ด้วย

3. ทานอาหารตามปกติในปริมาณที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องงดไข่ งดนม เพราะโปรตีนเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาแผลให้หายเป็นปกติ

4. คุณหมอจะทำความสะอาดแผล และปิดแผลด้วยที่ปิดแผลกันน้ำ คุณแม่ไม่ต้องทำความสะอาดแผล ให้มาพบคุณหมออีกครั้งตามนัด แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำซึมเข้าไปในแผลหรือที่ปิดแผล ถ้าพบว่ามีน้ำซึมให้มาพบคุณหมอทันที

5. ถ้ามีเลือด หรือน้ำเหลืองซึมมาที่ปิดแผลมากกว่า 1/3 ของแผ่น หรือปวดแผลมาก ให้มาพบคุณหมอทันที

6. หลังแผลแห้งดีแล้ว คุณแม่สามารถใช้ยาทาหรือแผลเจลกันแผลเป็นได้

7. ในช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก การออกกำลังกายที่ต้องเกร็งหน้าท้อง และอาจต้องระวังในการขับรถ เนื่องจากระหว่างขับรถคุณแม่อาจปวดแผลมาก และอาจเกิดอุบัติเหตุได้

8. หลังผ่าตัด 3-6 เดือน แผลผ่าตัดจะเริ่มแข็งแรงมาก คุณแม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

 

คุณแม่สามารถอยู่ไฟหลังผ่าท้องคลอดได้ แต่ให้หลีกเลี่ยงการประคบร้อนที่บริเวณแผลผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วง 30 วันแรกหลังผ่าตัด โดยการอยู่ไฟนั้น เป็นการพักฟื้นร่างกายหลังคลอด ถือเป็นวิถีการดูแลสุขภาพที่มีมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีอยู่  แต่รูปแบบการอยู่ไฟอาจถูกปรับเปลี่ยนให้ง่ายต่อแม่หลังคลอดสมัยใหม่มากขึ้น ซึ่งประโยชน์ของการอยู่ไฟหลังคลอด ที่มีความเชื่อกันว่าจะช่วยฟื้นร่างกายหลังคลอดได้ในหลาย ๆ เรื่อง  เช่น (บทความ : การอยู่ไฟหลังคลอด )

 

  • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดภายในร่างกาย
  • ช่วยลดภาวะความรู้สึกหนาวภายในร่างกาย ที่บางคนแค่ฝนตั้งเค้าก็หนาวเข้ากระดูกแล้ว
  • ช่วยลดอาการอ่อนเพลียจากการเสียเลือดในช่วงคลอดลูก
  • ช่วยลดการปวดเมื่อยตามข้อต่อต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพดี
  • ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีภูมิต้านทานโรค
  • ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกายให้เข้าที่เป็นปกติ
  • ช่วยให้หน้าท้องยุบเร็ว
  • ช่วยลดความเจ็บปวดขณะมดลูกหดรัดตัวเข้าสู่ภาวะปกติ หรือที่เรียกว่ามดลูกเข้าอู่

 

คลิปผ่าคลอด คลิป ผ่า คลอด

 

คำแนะนำเรื่องการอยู่ไฟหลังคลอด

ข้อแนะนำสำหรับการดูแลสุขภาพด้วยการอยู่ไฟหลังคลอด สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ และคุณแม่ที่ผ่าคลอดลูก มีดังนี้

1. แม่หลังคลอดที่คลอดลูกเองธรรมชาติ สามารถอยู่ไฟได้เลยหลังจากพักฟื้นได้ประมาณ 7 วันขึ้นไปแล้ว

2. แม่หลังคลอดที่ผ่าคลอด ยังไม่สามารถอยู่ไฟได้ทันที เพราะต้องรอให้แผลผ่าตัดหาย และแผลแห้งสนิทเสียก่อน ซึ่งส่วนมากก็จะประมาณ 1 เดือนไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แผลผ่าตัดเกิดการอักเสบขึ้นมาขณะที่อยู่ไฟหลังคลอด

 

ขั้นตอนการดูแลสุขภาพด้วยการอยู่ไฟหลังคลอด

  • การใช้ลูกประคบสมุนไพร ด้วยการนำลูกประคบร้อนที่ห่อด้วยสมุนไพรต่าง ๆ เช่น ขมิ้น ตะไคร้ ใบส้มป่อย การบูร ฯลฯ มาคลึงตามบริเวณร่างกาย และเต้านม เพื่อช่วยลดการปวดเมื่อย
  • การอาบน้ำต้มสมุนไพรอุ่น ๆ ที่ประกอบไปด้วยไพล ขมิ้น ตะไคร้ มะกรูด ใบมะขาม ใบส้มป่อย เพื่อให้สมุนไพรซึมผ่านผิวหนังช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
  • การทับหม้อเกลือ คือการนำเอาเกลือเม็ดใส่ในหม้อดินยกตั้งไฟจนเกลือสุก แล้วห่อด้วยใบพลับพลึง และผ้า แล้วนำมาประคบตามร่างกาย ซึ่งความร้อนจากหม้อเกลือจะช่วยให้รูขุมขนเปิด สมุนไพรจะซึมผ่านลงผิวหนัง เป็นการขับของเสียออกมาตามรูขุมขน
  • การอบตัวด้วยกระโจมสมุนไพร จะช่วยให้รูขุมขนเปิดเพื่อขับของเสียออกมา

 

เร่งคืนภูมิต้านต้านเด็กผ่าคลอดด้วย โภชนาการที่ดี และรู้จักกับ Synbiotic

การเร่งคืนภูมิต้านทานให้แก่ลูกน้อยผ่าคลอด ให้เขานั้นมีภูมิต้านทานที่แข็งแรง และมีพัฒนาการที่ต่อเนื่อง ไม่สะดุด สิ่งที่คุณแม่ต้องจำให้ขึ้นใจนั่นก็คือ โภชนาการ คือเรื่องสำคัญที่สุดค่ะ ซึ่งอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับทารกผ่าคลอดนั้นก็คือ นมแม่ นั่นเองค่ะ เพราะนมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดของทารก ด้วยองค์ประกอบสารอาหารที่จำเป็นและเหมาะสมกับความต้องการของลูก และยังอุดมไปด้วย จุลินทรีย์ โพรไบโอติก และ ใยอาหาร พรีไบโอติก  ที่ทำงานร่วมกันแบบ ซินไบโอติก (Synbiotic) ส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานของลูกผ่าคลอดนั้น แข็งแรงขึ้น

หากคุณแม่มีความกังวลว่า น้ำนมของตนจะไม่พอต่อความต้องการของลูกแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับ โภชนาการที่เหมาะสมที่มีซินไบโอติก เพื่อนำมาให้ลูกน้อยดื่มเสริมควบคู่กับนมแม่ได้เลยค่ะ

 

ที่มา : parents.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

น่าเอ็นดู..คลิปทารกแฝดคุยกันหลังออกมาได้แค่ชั่วโมงเดียว

เข้าใจพัฒนาการของทารกในครรภ์ด้วยคลิปสั้นเพียง 1.14 นาที!

เช็กด่วน 7 สัญญาณใกล้คลอด พร้อมเคล็ดลับดูแลร่างกายหลังคลอด แข็งแรงไว เบาใจเรื่องแผลเป็นจากการผ่าคลอด

 

บทความโดย

Tulya