ภาวะสูญเสียการได้ยินของทารกแรกเกิด คือมีลักษณะประสาทหูพิการสองข้างระดับรุนแรงตั้งแต่แรกเกิด เมื่อโตขึ้นจะส่งผลให้เป็นใบ้ได้ ซึ่งจะทำให้เด็กมีความบกพร่องทางด้านการสื่อสาร อาจจะพูดได้ช้ากว่าเด็กปกติ ทำให้กลายเป็นเด็กด้อยโอกาสทางสังคม ทางการศึกษา และการประกอบอาชีพ ส่งผลให้เกิดปัญหาในครอบครัวขึ้น แต่มีหลักฐานในต่างประเทศพบว่า หากสามารถให้การวินิจฉัยภาวะสูญเสียการได้ยินในเด็กทารกแรกเกิดได้ในระยะแรกก่อนอายุ 3 เดือน และทำการรักษาฟื้นฟูก่อนอายุ 6 เดือน จะทำให้สมรรถภาพในด้านการฟังและการพูดมีการพัฒนาได้ใกล้เคียงเด็กปกติ
10 ปัจจัยเสี่ยง ภาวะสูญเสียการได้ยินของทารกแรกเกิด
อุบัติการณ์ที่พบในประเทศไทย มีรายงานพบอัตราการเกิดภาวะสูญเสียการได้ยิน 1.7 รายต่อ 1,000 รายของทารกที่เกิดใหม่ต่อปี ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะนี้ขึ้นในทารกแรกเกิดถึง 2 ขวบ ได้แก่
- พ่อแม่หรือญาติใกล้ชิดเป็นโรคประสาทหูพิการ เป็นใบ้ตั้งแต่กำเนิดหรือตั้งแต่วัยเด็กเล็ก
- เกิดภาวะทารกติดเชื้อในครรภ์ หรือมารดาติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
- ในขณะตั้งครรภ์แม่ได้รับยาหรือสารที่เป็นพิษ ซึ่งมีผลกระทบต่อลูกในท้องหรือขณะคลอด
- ทาแรกเกิดมีความผิดปกติของรูปใบหน้า ศีรษะ รวมทั้งความผิดปกติของรูปร่างใบหู และช่องหู
- มีการเจ็บป่วยหรือภาวะที่ต้องดูในหอบริบาลวิกฤตนาน 48 ชั่วโมงหรือมากกว่า
- มีอาการแสดงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโรคที่มีภาวะสูญเสียการได้ยินแบบประสาทหูชั้นในเสีย และหรือทางนำเสียงเสีย
- ทารกมีภาวะตัวเหลือง เนื่องจากสารบิลิรูบินในเลือดสูงจนต้องถ่ายเลือด
- ตรวจพบการติดเชื้อของทารกหลังคลอด ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวะสูญเสียการได้ยิน รวมทั้งโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- มีความผิดปกติด้านการได้ยิน ด้านภาษา การพูดและหรือพัฒนาการล่าช้าในวัยเด็กเล็ก
- มีโรคหูน้ำหนวกชนิดน้ำใสที่เกิดซ้ำ หรือปล่อยให้เป็นเรื้อรังนานอย่างน้อย 3 เดือน
บทความที่เกี่ยวข้อง : รีบเช็ก! ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ทารกสูญเสียการได้ยินตั้งแต่แรกเกิด!!
สังเกตพัฒนาการการได้ยิน ภาษา และการพูดของทารก
คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตพัฒนาการการได้ยิน ภาษา และการพูดของทารกตั้งแต่แรกเกิด – 2 ขวบแรกที่เป็นปกติได้ดังนี้
ระยะแรกเกิดถึง 3 เดือน
- ทารกจะลืมตาตื่นและกะพริบตา หรือสะดุ้ง ตกใจขึ้นได้เมื่อได้ยินเสียงดัง เช่น เสียงแตรรถ หมาเห่า
- ลูกจะทำท่าคล้ายหยุดฟังเมื่อพ่อแม่คุยกัน หรือหยุดฟังเมื่อพ่อแม่อุ้มและก้มลงคุยใกล้ ๆ
ระยะ 3-6 เดือน
- ทารกสามารถหันศีรษะไปทางที่มาของเสียงด้านข้างใกล้ ๆ ตัวได้ เช่น เสียงพ่อแม่เรียกชื่อ เสียงของเล่นต่าง ๆ
- สามารถพูดออกเสียงคล้ายพยัญชนะ และสระรวมกัน เช่น “กา-กา” “บา-บา” ซ้ำ ๆ
ระยะ 6-9 เดือน
- ลูกจะหันศีรษะไปมาเพื่อหาเสียงเรียกชื่อ จากทางด้านหลังได้
- สามารถออกเสียงพยัญชนะและสระได้มากขึ้น โดยทำเสียงติดต่อกันยาว ๆ ได้ 4-6 พยางค์ เช่น “ลา-ลา-ลา-ลา” “บาคาบาคา”
- จะสนใจฟังและเลียนเสียงต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม เช่น เสียงหมาเห่า เสียงจิ้งจก ตุ๊กแก
บทความที่เกี่ยวข้อง : “การตรวจคัดกรองการได้ยิน” สิทธิประโยชน์ที่เด็กไทยแรกเกิดทุกคนควรได้รับ
ระยะ 9-12 เดือน
- ลูกจะก้มศีรษะมองไปยังเสียงที่เกิดข้างตัวที่อยู่ต่ำกว่าระดับหูได้อย่างรวดเร็ว
- สามารถทำตามคำสั่งแสดงท่าทางได้ถูกต้อง เมื่อพ่อแม่พูดให้ลูกทำ เช่น บ๊ายบาย สวัสดี ขอ
- เริ่มพูดคำแรกได้เป็นคำ ๆ เช่น “แม่ หม่ำ ไป”
ระยะ 12-16 เดือน
- สามารถหันหาเสียงได้ถูกต้องทุกทิศทาง
- สามารถมองหาสิ่งของหรือคนที่คุ้นเคยได้ถูกต้อง
- ลูกสามารถพูดเป็นคำ ๆ ได้อย่างน้อย 10-15 คำ โดยมากจะใช้คำพูดเพื่อเรียกชื่อสิ่งต่าง ๆ ที่เห็น เช่น “หมา แมว” หรือ บอกความต้องการ เช่น “เอา ไป” ได้แล้ว
ระยะ 18-24 เดือน
- ลูกสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เมื่อพ่อแม่เรียกชื่อของสิ่งนั้น เช่น ชี้อวัยวะได้อย่างน้อย 2 อย่าง ชี้สิ่งของที่คุ้นเคยได้
- พูดได้ประมาณ 40-100 คำ และเริ่มพูดเป็นวลีสั้น ๆ เช่น “เอามา”
บทความที่เกี่ยวข้อง : การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป
หากพบว่าลูกสูญเสียการได้ยินควรทำอย่างไร
การสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร จะไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ เพราะเป็นความเสียหายที่เกิดจากประสาทหูหรือเซลล์ขนของหูชั้นใน ส่วนใหญ่แล้วการรักษาที่ดีที่สุดคือการใส่เครื่องช่วยฟังอย่างเหมาะสม สำหรับบางรายอาจผ่าตัดประสาทหูเทียม ดังนั้น การตรวจคัดกรองการได้ยินสำหรับทารกแรกเกิด จึงเป็นวิธีที่จะช่วยรักษาในระยะแรกได้ หากแพทย์วินิจฉัยว่าลูกสูญเสียการได้ยิน ก็จะรักษาภายในอายุ 6 เดือน ซึ่งจะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการด้านการพูด ภาษา อารมณ์ และสังคมได้อย่างเหมาะสม
หากสังเกตอาการและพบว่าลูกไม่มีพัฒนาการตามช่วงวัยดังกล่าวหรือพบความผิดปกติทางการได้ยินตั้งแต่แรกเกิด ควรรีบพามาพบแพทย์เพื่อเริ่มต้นวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเร็วนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เคล็ดลับพัฒนาทักษะ การได้ยินของลูก และวิธีเพิ่มทักษะด้านการฟัง
ทารกได้ยินตอนไหน การได้ยินของทารกเริ่มเมื่อไหร่ กระตุ้นการได้ยินอย่างไร
ลูกไม่ค่อยได้ยิน แม่จะรู้ได้อย่างไร วิธีสังเกตพัฒนาการทางการได้ยิน ต้องเช็กตั้งแต่ทารก
ที่มา : intimexchiangmai
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!